รู้ชีวิต…ด้วยดวงดาว/ “ศ. ดุสิต”/วิธีสร้างดวงพิเศษ (Special)

รู้ชีวิต…ด้วยดวงดาว/ “ศ. ดุสิต”

อ่านอนาคตของคุณไม่ยากหรอก…แค่รู้จักดาว 10 ดวงเท่านั้น!

เรื่องลึกในโหราศาสตร์ไทยชุด ‘คลังโหร’

 

วิธีสร้างดวงพิเศษ (Special)

 

คําว่า “ดวงพิเศษ” ที่เห็นนี้ ความจริงไม่ได้พิเศษที่ดวงชาตาหรอก

แต่น่าจะพิเศษตรงการสร้างลัคนาสำหรับดวงนี้ต่างหาก

เพราะการสร้างลัคนาของดวงนี้จะไม่เหมือนกับดวงอื่น

ความผิดแปลกนี้ย่อมทำให้การทำนายผิดกันไปด้วย คือมีความพิเศษขึ้น (แต่รับรองว่าจะตรงกับชาตาของเจ้าของดวงแน่นอน)

ความพิเศษนี้ก็คือ สามารถที่จะบอกได้ถึงความกว้างและลึกของเรื่องที่ต้องการดูได้มากกว่าประเภทอื่น ดังนั้น เราจะทำดวงพิเศษนี้ขึ้นใช้ก็ต่อเมื่อเรามีเรื่องที่ซับซ้อนหรือเป็นเรื่องสำคัญระดับ “คอขาดบาดตาย” ขึ้นกับเจ้าชาตา หรือเป็นเรื่องที่เราถือว่าเรื่องนี้ “พิเศษ” สำหรับที่จะต้องใช้ดวงนี้มาทำนายเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ เกจิอาจารย์ผู้สร้างสรรค์สูตรนี้ขึ้นมาท่านจึงได้ย้ำนักย้ำหนาว่า ถ้าเป็นเรื่องธรรมดาก็อย่าทำดวงพิเศษนี้มาใช้ทำนายเลย ใช้วิธีทำนายตามปกติก็ได้แล้ว

มิฉะนั้นผลจากการเอาดวงพิเศษนี้มาใช้ทำนายในเรื่องปกติธรรมดา อาจจะได้ผลที่ “สูง” หรือ Over เกินกว่าที่เราต้องการก็ได้

แม้การสร้างดวงพิเศษนี้จะไม่ใช่เรื่องยากอะไร

แต่ก็เป็นวิชาที่ถูกปกปิดมานานแล้ว

จนผมรับรองได้ว่าถ้าคุณไม่ใช่นักค้นคว้าประเภท “บ้าเลือด” และเป็นคนที่มีอุตสาหะอย่างจริงๆ แล้ว คุณไม่มีวันที่จะได้พบวิชานี้ได้เลย

แต่เอาละ, บัดนี้คุณก็ได้มาพบกับวิชานี้แล้วจากผมซึ่งเป็นคนที่ไม่หวงแหนอะไรเลย

มาดูวิธีสร้างดวงอันมีชื่อว่า “ดวงพิเศษ” นี้กันเถอะ

 

ทําเหมือนกับดวงทั่วไปนั่นแหละ คือผูกดวงเดิมขึ้นมา และเมื่อต้องการจะดูเรื่องราวที่สำคัญๆ จึงจะนำดวงนี้มาใช้ตรวจชาตาในปีนั้นนะครับ

วิธีสร้างดวงพิเศษ (ระดับ 1)

ให้นับอายุย่างของเจ้าชาตาว่าตกราศีใด (นับแบบสามัญ) จากนั้นก็เอากำลังของเกษตรราศีนั้นมาบวกกับอายุย่างของเจ้าชาตา ได้เท่าไร นำ 12 มาหาร ลัพธ์ทิ้งไปเอาแต่เศษมา นับจากราศีอายุจรไปเท่าเศษ ตกที่ราศีใด ลัคนาจรสถิตที่ราศีนั้น

แค่นี้ก็เสร็จแล้ว ง่ายจะตายชัก

แต่อย่างไรก็ตาม แม้การสร้างดวงจะง่าย แต่ที่ยากกว่าก็คือการอ่านดวงนี่แหละ

ดังนั้น จึงขอบอกไว้ก่อนว่า ผู้ที่จะใช้ดวงนี้ได้ควรจะเป็นผู้ที่เอาใจใส่สนใจกับวิชาโหราศาสตร์นี้อย่างจริงจัง จึงจะเข้าใจถึงนัยยะของสูตรดวงนี้ได้อย่างถ่องแท้ และจะใช้ดวงอย่างได้ประโยชน์สูงสุดด้วย

ตัวอย่าง

 

ดวงตัวอย่างนี้ก็เป็นดวงที่ผมลอกเขามาอีกตามเคย เป็นดวงของนักการเมืองรุ่นเดอะคนหนึ่งที่ผมไม่ควรออกชื่อเขา เพราะต้องการนำดวงมาเป็น “ดวงครู” ให้พวกเราได้ศึกษาถึงวิธีใช้ดวงพิเศษนี้เท่านั้น

เจ้าชาตานี้กำลังถูกพิษการเมืองเล่นงานเอาอย่างสะบักสะบอม จากการที่เคยมีตำแหน่งสำคัญแล้วตกวูบลงมาเหลือตำแหน่งกระจ้อยร่อย และยังไม่รู้ว่าจะอยู่หรือจะไปในกระแสการเมืองที่กำลังวุ่นวายอยู่ในขณะนี้อีก

ผมเห็นว่าดวงอย่างนี้แหละที่เหมาะกับการใช้ดวงพิเศษนี้ จึงนำเอามาให้พวกเราได้ศึกษากัน

เจ้าชาตานี้เกิดวันพุธ เดือนพฤษภาคม ปี 2490 นับอายุถึงเวลาที่กำลังตรวจดวงอยู่นี้ก็ตก 66 ปีย่าง จึงนับอายุจรจากลัคนาราศีเมษไป 66 ปีจะตกที่ราศีกันย์ภพอริ แต่ยังไม่จบตรงนี้ ต้องนำเอากำลังของดาวพุธ (17) ซึ่งเป็นเกษตรราศีกันย์มาบวกกับอายุย่าง 66 จะได้ 83 เอา 12 หารจะได้ลัพธ์ 6 เศษ 11 ตกที่ราศีกรกฎ จึงวางลัคนาจรไว้ที่นั่น

และจะใช้เป็นตัวอ่านชาตาในปีนี้ต่อไป

ขอให้คุณจงใส่ใจในวิธีอ่านของดวงนี้ให้ดีด้วย เพราะจะให้ประโยชน์แก่คุณอย่างหลากหลายทีเดียวถ้าคุณรู้จักที่จะ “ปรับ” ในการดูดวงแบบอื่นๆ มาใช้ต่อไป

อ่านครั้งแรกก็คือ ตรวจดูว่าลัคนาจรปีนี้ตกที่ภพอะไรของลัคนาเดิม

ในดวงตัวอย่างนี้ลัคนาจรตกที่ภพพันธุอันหมายถึง “ความมั่นคง” จึงรู้กันว่าในปีนี้สิ่งที่สำคัญในชีวิตของเจ้าชาตาก็คือความมั่นคงของชีวิตนั่นเอง

อ่านต่อไปก็คือ เจ้าชาตาเกิดวันพุธ ปีนี้ลัคน์จรอาศัยราศีของดาวจันทร์ ถือว่าได้คู่มิตรกัน แปลว่าชาตายังไม่อับจนนัก

อ่านต่อไปอีก เจ้าชาตาเกิดวันพุธ อายุย่าง 66 ทักษาจรตกที่ภูมิพฤหัสฯ ดูดาวพฤหัสฯ ในดวงชาตาลอยอยู่ที่ราศีตุลได้มาตรฐานยาจกโชค ถือว่าตกต่ำลง ยิ่งกว่านั้นราศีตุลยังเป็นภพพันธุจรที่แสดงถึงความมั่นคงในปีนี้อีกด้วย

จึงอ่านได้อีกว่า ปีนี้ภาวะของตำแหน่งการงานจะตกต่ำลงแน่ นอกจากนั้น เมื่อปีนี้มีดาวพฤหัสฯ เป็นบริวารจร ดาวเสาร์ก็ต้องเป็นกาลกิณีในปีนี้ ตรวจดูดาวเสาร์ในดวง ปรากฏว่าสถิตอยู่ที่ราศีกรกฎภพตนุจรนั่นเอง แถมมีพระเกตุตัวแสบกองเชียร์หนุนให้พิษของดาวเสาร์แรงขึ้นด้วย (พระเกตุอยู่ร่วมกับใครก็เชียร์ผู้นั้น ดีเชียร์ให้ดียิ่งขึ้น ร้ายก็เชียร์ให้ร้ายมากขึ้นตามกฎของพระเกตุอยู่แล้ว)

ถึงตรงนี้ก็น่าเป็นห่วงชาตาของเจ้าของดวงนี้ซะแล้วซี

 

เอ้า-ทีนี้ดูในทางดีมั่ง ดูที่ภพกัมมะซึ่งปีนี้ตกที่ราศีเมษ (ภพตนุเดิม) มีดาวอังคารกับดาวศุกร์คู่มิตรซึ่งเป็นคู่มิตรประเภท “หัวปักหัวปำ” แต่การมีคู่มิตรสถิตอยู่ก็นับว่ายังเป็นเรื่องดีได้อยู่เหมือนกัน เพราะมีดาวพฤหัสฯ ที่ราศีตุลเล็งมาถึง แม้ว่าการเล็งของพฤหัสฯ จะไม่ได้ผลดีเท่าใดนักเพราะพฤหัสฯ เป็นยาจกโชคในดวงอยู่แล้ว จึงต้องหันไปดูดาวพฤหัสฯ ตัวจรที่ขณะนี้จรอยู่ที่ราศีมิถุนได้มาตรฐานประ ก็อีกนั่นแหละ ดาวประจะให้คุณก็ไม่แน่นอน ให้มั่งไม่ให้มั่ง แถมราศีมิถุนยังเป็นภพวินาสน์ของลัคนาจรอีกด้วย ผลที่ส่งมายังภพกัมมะจึงถือว่าไม่ทำให้ดีขึ้นเลยด้วยซ้ำ

ดูต่อไปที่ราศีพฤษภอันเป็นภพลาภะของปีนี้และภพกดุมพะเดิม จึงน่าจะเป็นภพที่ดีที่สุดของเจ้าชาตาละ ในราศีนี้มีดาว ๑–๔-๘ อาศัยอยู่ ๑ นั้นเป็นกดุมพะ (ปุตตะ) ๔ เป็นวินาสน์ (สหัชชะ) ๘ เป็นมรณะ (ลาภะ) ภพในวงเล็บคือภพจากลัคนาเดิมซึ่งนำมาอ่านผสมกันได้ เอาผลรวมของดาวทั้งสามมาประยุกต์กันแล้วก็อ่านได้ว่า

ปีนี้เจ้าชาตาจะได้ประสบการณ์ใหม่ที่เกี่ยวกับการสูญเสียสิ่งที่เคยมีเคยได้

ว้า…อ่านในเรื่องดีแล้ว ผลก็ยังไม่ดีอีกแฮะ

ดูดวงต่อไปซิว่าจะจบยังไง ยกดวงมาดูตรงนี้อีกทีดีกว่า

 

พอยกดวงมาดูตรงนี้ก็เพิ่งเห็นดาวจันทร์ในดวงที่สถิตราศีสิงห์เรือนของอาทิตย์ซึ่งไปสถิตที่ราศีพฤษภภพลาภะ เออ-ตรงนี้ค่อยดีหน่อย ภพลาภะนั้นจัดว่าเป็นช่วงที่อยู่ค่อนมาทางปลายปีแล้ว และราศีพฤษภนี้ทำหน้าที่กดุมพะ/ลาภะทั้งดวงเดิมและดวงจร (อาทิตย์เจ้าเรือนกดุมพะจรสถิตที่ราศีพฤษภภพกดุมพะของลัคนาเดิม) จึงเป็นลาภะจรซ้อนกดุมพะเดิม

และภพนี้ถือว่าเป็น “ศูนย์พาหะ” ที่นำชีวิตไปข้างหน้า

เมื่อมีพาหะที่ให้คุณอย่างนี้ ก็พอหวังได้ว่า แม้ชาตาจะอีโหลกโขลกเขลกไปบ้างในตอนต้นๆ ปีชีวิต แต่ในตอนปลายก็จะดีขึ้น มีความสุขขึ้น ยังไม่ถึงขั้นอับจนซะทีเดียวหรอก

ก็อ่านมาให้ดูอย่างละเอียดพอสมควรแล้ว ดวงนี้เป็นดวงจริงที่น่าศึกษาดวงหนึ่ง เป็นดวงนักการเมืองที่มีชื่อว่า “อื้อฉาว” คนหนึ่งทีเดียว เอ่ยชื่อทุกคนต้องรู้จัก แต่ผมเอ่ยไม่ได้เพราะจะเสียมารยาท คุณดูวิธีการอ่านดวงพิเศษนี้ดูกันเองให้ดีก็แล้วกัน แล้วจะเห็นเองว่าดวงนี้ถ้าใช้ให้ถูกทางแล้วจะวิเศษสักแค่ไหน

พบกันฉบับหน้าครับ