การ์ตูนที่รัก /นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ /คุณครูกราบระห่ำ เล่ม 02-03

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

การ์ตูนที่รัก /นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

 

คุณครูกราบระห่ำ เล่ม 02-03

 

ไม่ทราบว่าด้วยบทแปลที่ยังไม่ดีนัก หรือเพราะนักเขียนต้องการสื่อเพียงเท่านี้ ทำให้คุณครูกราบระห่ำ เล่ม 01 ผ่านไปด้วยความมึนงงและไร้ทิศทาง

ครั้นอ่านเล่ม 02 ยิ่งไปกันใหญ่ ไม่มีบทที่น่าประทับใจเท่าไรนัก

นี่คือผลงานของ Keisuke Itagaki ผู้เขียนบากิ (Baki) อันลือลั่น มังงะแนวต่อสู้ที่เขียนมาตั้งแต่หนุ่มจนแก่ก็ไม่จบ ลิขสิทธิ์ของวิบูลย์กิจ

แต่สำหรับคุณครูกราบระห่ำสามเล่มแรก ไม่รู้ฝีมือใครพิมพ์จริงๆ ไม่ระบุอะไรสักอย่าง

ไม่สิ เล่ม 02 มีบทที่ดีใช้ได้อยู่บ้าง และมีโครงเรื่องที่ดูเหมือนจะเข้าได้กับธีมหลัก นั่นคือ “ความโล่งอกโล่งใจ”

 

ตอนที่ 6 อดีตที่พลิกผัน

ณ บริษัทผลิตผ้าอ้อมใหญ่ที่สุด โซโนะ มาซาโยชิ กรรมการบริหารหน้าอ่อนอายุ 26 ปีเมื่อวานนี้เอง เล่าให้เราฟังถึงเรื่องราวเมื่อ 10 ปีก่อน เขามีฉายาไอ้ฉี่แตกมาตั้งแต่ครั้งเป็นเด็กนักเรียน ปัญหาคือเมื่อถึงชั้นมัธยมปลาย เขายังคงเป็นไอ้ฉี่แตกที่สามารถฉี่ราดกลางห้องเรียนได้ในขณะที่เพื่อนๆ เป็นหนุ่มสาวกันหมดแล้ว

เวลานั้น โอกามิ อิคเคตสึ ยังเป็นครูฝึกสอน ครูฝึกสอนยืนฉี่ราดกางเกงให้เด็กมัธยมปลายชายหญิงทั้งห้องดูหน้าตาเฉย นัยว่าโซโนะ มาซาโยชิ จะได้มีเพื่อน

“มันยังมีอ้วก หรือไม่ก็น้ำลายย้อย รวมถึงเหงื่ออีกด้วยนะ” ครูฝึกสอนยืนคุยกับไอ้ฉี่แตกในเวลาต่อมา “ถึงไม่ใช่ฉี่ ก็ได้แต่โทษอะไรพวกนั้นยกเว้นตัวเองอยู่ดี”

ใช่แล้ว ฉี่ราดเป็นเพียงทางออกที่ร่างกายเลือก เลือกเป็นท่อระบายของเสียในใจออกจากตัว เด็กคนนี้ต่อให้ไม่ฉี่ราด เขาจะเลือกอาเจียนเวลาเครียด หรือเลือกเหงื่อท่วมฝ่ามือและแผ่นหลังเวลาตื่นเต้นอยู่ดี จะอย่างไรความเครียดก็ต้องหาทางออก

อันที่จริงอาการฉี่ราดเป็นผลจากกล้ามเนื้อที่ควบคุมการกลั้นปัสสาวะไม่พัฒนาตามที่ควรพัฒนา เด็กทุกคนควรกลั้นฉี่ได้เองเมื่ออายุ 2-3 ขวบ เพราะความสามารถนี้เป็นความสามารถอัตโนมัติ (autonomy) เด็กๆ ทำได้เองโดยไม่ต้องสอน

ที่พ่อแม่สอนคือกาลเทศะ คนเราควรฉี่ที่ไหนเมื่อไร พ่อแม่ไม่ได้สอนการกลั้น และไม่มีใครที่สามารถสอนการกลั้นได้ เด็กที่ถูกกดดันให้ทำได้โดยที่เดือนนั้นปีนั้นเขายังทำไม่ได้ เด็กเหล่านี้จะเกิดความเครียดและทำให้พัฒนาการด้านนี้เนิ่นนานออกไป

อาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า อัสดงงดงาม ครูและนักเรียนเดินคุยกันเข้าหาพระอาทิตย์

“เส้นทางที่โซโนะ มาซาโยชิ จะก้าวเดินนับจากนี้ไป ฉันจะช่วยจ่ายค่าปัดเป่าอุปสรรคให้นะ” ว่าแล้วคุณครูฝึกหัดย่อเข่าลง มือแตะพื้น แล้วหมอบกราบ

หากมีใครสังเกตคนทั้งสอง จะพบว่าก่อนหน้าที่ครูจะก้มกราบพระอาทิตย์เพื่อเด็กคนนั้น เท้าของเด็กได้ลอยจากพื้นก่อนแล้ว

ด้วยความโล่งอกโล่งใจ

 

เล่ม 03 ตอนที่ 13 ปฏิวัติโดดเดี่ยว

อิมุระ เคนอิจิ เบื่อหน่ายการเรียนคณิตศาสตร์เป็นที่สุด สุดจะทนแล้ว ไม่ไหวแล้ว แล้วเขาก็บิดขี้เกียจ จึงถูกไล่ออกจากห้องเรียนสมใจ เขาทำแบบเดียวกันกับวิชาวิทยาศาสตร์และภาษาอังกฤษ แล้วก็ถูกไล่ “ไสหัวออกไปจากห้องเรียนของชั้นเดี๋ยวนี้” ตามคาด

เคนอิจิมาพบคุณครูโอกามิ อิคเคตสึ ที่ห้องแนะแนว เขารู้ชะตากรรมว่าคงได้ออกจากโรงเรียนด้วยวุฒิมัธยมต้นแน่ๆ แต่คุณครูกราบระห่ำกลับพูดว่า “ผิดแล้ว” จากนั้นลงไปคุกเข่าที่พื้น

เคนอิจิรีบโวยวาย จะมาคุกเข่าอะไรตอนนี้ อย่าทำอะไรซี้ซั้ว เรื่องนี้มิใช่จะแก้ไขกันง่ายๆ ด้วยการกราบ เขาสอบตกมาไม่รู้กี่วิชาและนานมากแล้วด้วย แต่คุณครูก็ยังคงพูดคำเดิมซ้ำๆ “ผิดแล้ว”

“ครูมีหน้าที่อะไร” อิคเคตสึถาม

“ครูมีหน้าที่สอนหนังสือน่ะสิ” เคนอิจิตอบ

“ผิดแล้ว” แล้วว่าต่อไปว่า “หน้าที่ของครูมีเพียงหนึ่งเดียว คือถ่ายทอดความสุขที่ตนรู้ ในเมื่อการศึกษาทำให้เธอเกลียดการเรียนเสียเอง จึงถือเป็นความรับผิดชอบที่หนักอึ้งอย่างยิ่ง กล้ำกลืนรับผิดชอบที่ทำให้ผลการเรียนตกต่ำ ยืนกรานในความผิดของตน ที่ไม่อาจกระตุ้นให้นักเรียนมีความพยายามมากพอ นับเป็นการเรียนการสอนที่เลวร้ายอย่างยิ่ง ครูขอกล้ำกลืนความรับผิดชอบเธอเอง ขอโทษในความไม่เอาถ่านนั่น” แล้วกราบ

เคนอิจิก้มหน้ากำหมัด เงยหน้าขึ้นด้วยความเดือดดาล ภาพโคลสอัพใบหน้าในระยะประชิดสะกดคนดูอึ้งไปเลย “อย่ามารับผิดชอบตามอำเภอใจสิโว้ยยย!!! ไม่ต้องมารับผิดชอบให้ใครทั้งนั้นว้อยยย!!! ผมจะรับผิดชอบตนเอง นับใหม่ตั้งแต่หนึ่งถึงสิบเลย”

อ่านมาสามเล่ม พอจะจับธีมหลักของเรื่องได้ นั่นคือความโล่งอกโล่งใจ มากเสียจนกระทั่งอีกาทั่วทั้งปริมณฑลรอบกรุงโตเกียว ไม่สิ รอบคุณครูกราบระห่ำท่านนี้ ต้องบินมาวนรอบท่านนับแสนตัว

คำเตือน สำหรับบทอื่นๆ อ่านไม่เข้าใจหรือลามกเกินกว่าจะเล่า