ถอยเพื่อรุก : โดยสุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่ 12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
——————-
ถอยเพื่อรุก
——————

การใช้ กำปั้นเหล็ก ของรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)
จับ 15 แกนนำ คนอยากเลือกตั้ง
จับ 8 แกนนำ พรรคเพื่อไทย
แม้จะดูประหนึ่ง การ”รุก”
แต่ เมื่อประเมินกันจริงๆ เป็น รุกแบบถอยหลัง มากกว่า
ด้วยเพราะไม่ได้นำพาไปไหน นอกจากกลับไปสู่ ดินแดนแห่งความสงบราบคาบ ด้วยอำนาจของการรัฐประหาร
สวนทางกับการตีฆ้องร้องเปล่า ว่าไทยกำลังจะกลับคืนสู่ดินแดนประชาธิปไตย
การรุกเพื่อถอย จึงสูญเปล่ามากกว่าได้
ทั้งที่ช่องทาง “รุกไปข้างหน้า”ของรัฐบาลและคสช.ก็มี
อย่าง ตอนนี้เราเริ่มได้ยินเสียง”หนาหู”มากขึ้นถึงความคืบหน้า ในการตั้งพรรค และพรรคแนวร่วม” ของ รัฐบาล และ คสช.
การ”ดูด” หรือจะพูดให้เพราะการเชิญชวน เริ่มเป็นเนื้อเป็นหนัง
ดูการเคลื่อนไหวใน พรรคประชาธิปัตย์
ดูการเคลื่อนไหวของนักการเมืองในภาคอีสาน แม้จะดูเรียบๆ แต่ว่ากันว่า ภายใต้ ความราบเรียบนั้น
กำลังปั่นป่วนด้วยการเชิญชวน
มีการอวดตัวเลข ว่าตอนนี้อยู่ในระดับ 50-60 คนแล้ว
ใครที่ว่าไม่ย้ายๆ เริ่มแอบชำเลือง ออปชั่น กันใหญ่
ขณะเดียวกันพรรคแนวร่วม การปรากฎตัวขึ้นมาของพรรครวมประชาชาติไทย ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ที่ยื่นนิ้วเกี่ยวก้อย ไปยังกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย และ นักวิชาการ มหาวิทยาลัยย่าน “รังสิต”
ก็ดูคึกคักไม่เบา เปิดตัวที่เป้าหมาย 20-30 เสียง น้อยเสียที่ไหน
ซึ่งเมื่อนำเสียง”หนุน รัฐบาลและคสช.”มารวมๆกันแล้ว
แสงแห่งความหวัง ก็รำไร
ข่าวว่า ทำให้ บางคนมั่นอกมั่นใจ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เมื่อ ทางข้างหน้าแจ่มใส เช่นนี้
ถึงได้บอก รัฐบารลและคสช. ควร “รุก” ไป”ข้างหน้า”ได้แล้ว
นั่นคือ มุ่งหน้าไปสู่การเลือกตั้งอย่างเต็มตัวเสียที
ถ้า 30 พฤษภาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ไฟเขียวพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
รัฐบาลและคสช. กำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจนไปเลย
เพราะเมื่อ ทางข้างหน้าสดใส ก็ไม่ควรมีอะไรมาถ่วงรั้งอีก
กำหนดวันเลือกตั้งได้เร็วเมื่อไหร่ กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ก็ฝ่อเร็วเท่านั้นไม่ต้องไปไล่จับให้เสียรังวัด
ส่วนพรรคเพื่อไทย ก็ดึงออกมาสู้กันในที่แจ้ง รัฐบาลและคสช.พร้อมกว่าเยอะแยะ
จะไปเกรงกลัวอะไร
ถึง เวลา รุกไปข้างหน้าได้แล้ว
และถึงแม้ รุกไปแล้ว เกิดภาวะ อย่างที่ นายปริญญา เทวนฤมิตรกุล แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า
คือ “เมื่อถึงเดือนมิถุนายนนี้ ตัวเลขส.ส.เก่าในมือ กดเครื่องคิดเลขบวกลบคูณหารแล้ว หากไม่ถึงจำนวน ที่จำเป็นต่อการตั้งรัฐบาแล้ว”
ก็ยังมีทางเลือกอีก
นั่นคือ กลับไปสู่สถานะ คนกลาง
ปล่อยให้การเลือกตั้งเลือกตั้ง ส.ว. ฟรีโหวต และคอยควบคุมการเลือกตั้งส.ส. ให้เป็นไปตามกติกา
เพื่อทำให้ระยะเปลี่ยนผ่าน จากนี้เป็นอย่างราบรื่น
ตามข้อเสนอนี้ อาจดูเป็นการ”ถอย”
แต่เป็นการ “ถอยแบบรุก”
นั่นคือ ช่วยดึงและเปิดพื้นที่ประชาธิปไตย ให้มีมากขึ้น ส่วนทหารและกองทัพก็ถอยกลับที่ตั้ง ตามปกติ
อย่างนี้ก็น่าจะลงตัว
และจะได้ช่อดอกไม้ มากกว่า รุกแบบถอย อย่างที่ “โชว์”กันเอิกเกริก ที่ธรรมศาสตร์และที่พรรคเพื่อไทยนั่น