แม่หวาน ละมุนมัม คุยกับต้นไม้

ดวงใจที่แตกสลาย แหลกเหลวเป็นเศษเสี้ยวจากชีวิตคู่ถูกความทรงจำที่งดงามค่อยๆ หยิบแต่ละชิ้นแต่ละชิ้นมาปะติดปะต่อเข้าด้วยกันอย่างช้าๆ ด้วยความผ่อนคลาย ความเข้าใจและความสุข

สายการบิน ANA848 พาฉันข้ามมหาสมุทรมาหาความทรงจำที่สว่างไสวในประเทศที่มีกลิ่นอายของความรัก ความหวังและคุณธรรมความดีที่ซึ่งช่วยดึงฉันให้ห่างไกลจากสิ่งชั่วร้าย อโคจร รวมทั้งมนต์ดำทั้งหลาย

ครูสมุนไพรรูปร่างผอมบางสวมกระโปรงผ้าลินินสีดำยาวถึงตาตุ่ม เสื้อแขนยาวสีขาวขุ่นที่ถูกถักทอด้วยเส้นใยธรรมชาติช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายนั้นอบอุ่นนุ่มนวล

เธอเดินยิ้มอย่างผ่อนคลาย ฉันไม่รู้สึกตึงเครียดกับการเริ่มต้นเรียนพืชสมุนไพรกับครูที่น่ารักเช่นนี้เลย

รอบข้างช่างสว่างสบายตา ดอกฟูจิสีขาวบานประปรายห้อยเป็นพวงอ้อยอิ่งอยู่บนต้นที่สูงแค่ศีรษะฉัน

บรรยากาศล้วนทำให้เบิกบานใจ เพื่อนๆ ชาวญี่ปุ่นที่ร่วมอบรมอีกเกือบ 10 คนเดินตามครูของเราอย่างช้าๆ ก่อนที่จะหยุดยืนล้อมครูกันเป็นวงกลม

 

–เห็นอย่างนี้ ฉันเป็นคนขี้ตื่นเต้นค่ะ

ครูยูฟุหยุดยืนตรงหน้านักเรียนก่อนพูดขึ้นด้วยความเขินอายว่า

–ฉันต้องพกเครื่องดื่มที่ทำให้ฉันผ่อนคลาย หายตื่นเต้นค่ะ

พูดจบเธอก็ดึงขวดสเตนเลสเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋ากระโปรง หมุนฝาเปิดออกมาดื่มอย่างใจเย็น

–เช้านี้ฉันเก็บสมุนไพรมาสามชนิดนำมาใส่ขวดแล้วก็เติมน้ำร้อนค่ะ ค่อยๆ ดื่มไปก็ช่วยให้หายตื่นเต้นได้ดีเลยค่ะ ฉันจึงต้องขอโทษ และขออนุญาตทุกท่านด้วยนะคะ

ฉันชอบวิธีการของเธอ ถึงแม้เธอจะดูผอมและหลังค่อมแต่รอยยิ้มเธอช่างมีเสน่ห์พร้อมพกความมั่นใจมาเต็มร้อย พ่อแม่ของเธอเป็นหมอฝังเข็ม

ครอบครัวของเธออยู่กับพืชผักสมุนไพรมาตลอดระยะเวลาอันยาวนานสืบส่งต่อรุ่นต่อรุ่นจนถึงลูกๆ ทั้งสามของเธอ

 

ฉันกับเพื่อนขับรถมาจากโตเกียวตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อมาหมู่บ้านสมุนไพรนี้ เราใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง

หมู่บ้านแห่งนี้เป็นแหล่งออร์แกนิกของญี่ปุ่น แต่บางคนก็เรียกหมู่บ้านนี้ว่า หมู่บ้านแห่งดวงดาว เพราะที่ภูเขา Yatsugatake ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 1,300 เมตรนั้นเต็มไปด้วยดวงดาวที่เปล่งแสงสว่างทั่วท้องฟ้า

ฉันเคยเห็นท้องฟ้าที่ประดับด้วยดวงดาวแน่นจนแทบหาที่ว่างไม่เจอมาก่อนที่เกาะฮาวาย การเดินทางวันนี้ช่างแตกต่างกับวันนั้นโดยสิ้นเชิง

–ไปกระโดดหน้าผาที่เซาธ์พอยต์ (South Point) กันนะ

ฮามาโนะพูดด้วยความฮึกเหิมอยากปลดปล่อยพลังงานเต็มที่

–น่ากลัวนะ เธอกล้าเหรอ? อย่าเลยนะ เอาจริงๆ ฉันกลัวแทน

รีเอะห้ามด้วยความรักและห่วงใย และแล้วกลุ่มวัยรุ่นเลือดร้อนที่ตะโกนพูดคุยโวยวายกันตลอดเวลาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางหลายชั่วโมงก็พากันมาถึงเซาธ์พอยต์

เราต่างวิ่งกรูกันลงจากรถเพื่อไปดูเซาธ์พอยต์ แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือมหาสมุทรกว้างไกลไร้ซึ่งสิ่งกีดขวาง ช่างเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ที่ฉันเคยเห็นมาในชีวิต

แผ่นดินที่ห่างจากที่ฉันยืนไม่ถึงเมตรคือหน้าผาสูงชันตัดกับน้ำทะเลสีน้ำเงินเข้มอย่างน่าสะพรึงกลัว

ภาพเบื้องหน้าทำให้ฉันอึ้ง นิ่งเงียบ กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

ฉันรู้สึกถึงความกลัวและความผ่อนคลายไปในขณะเดียวกัน

ฉันกลัวธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ตรงหน้า ชีวิตฉันเหมือนจุดเล็กจุดหนึ่งที่พร้อมจะถูกลบไปได้ตลอดเวลา ฉันกลัว… สายตามองหาซาโตชิเพื่อจะได้เป็นที่พึ่งให้พอหายใจได้ทั่วท้องมากขึ้น ฉันผ่อนลมหายใจยาวเมื่อเห็นเขายืนนิ่งจ้องฉันอยู่ด้านหลัง

และแล้วความรู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยมาเยือนที่นี่กับซาโตชิก็ปรากฏขึ้น ฉันและเขายืนสูบบุหรี่ด้วยกันช้าและเนิ่นนานอย่างใจเย็น

เราทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยอะไรนอกจากมองธรรมชาติตรงหน้าอย่างสงบ และเข้าใจ เหมือนภาพฝัน ภาพที่ฉันเคยไปเยือนมาเมื่อไม่นานนี่เอง

ฉันตื่นเต้นจนอดไม่ได้ที่จะหันไปยิ้มแล้วเล่าให้ซาโตชิฟัง เขาไม่ตอบอะไร ยิ้มอย่างผ่อนคลายพร้อมยกมือขึ้นล้วงไปในกระเป๋าตรงอกเสื้อหยิบบุหรี่หนึ่งมวนมาจุดให้ฉันสูบ

ควันสีขาวล่องลอยไปในอากาศ เป็นระลอก ระลอก กลุ่มเพื่อนๆ ห่างออกไปมองมาที่ฉันอย่างไม่เชื่อสายตา

–ฉันคิดว่าเราน่าจะทำให้เป็นจริงตามที่ฝันให้หมดนะ เราจะได้ไม่ติดใจอะไรและฝันนั้นจะได้ไม่ตามมาหาเราอีก

คือฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจในเหตุผลที่ซาโตชิพูดแต่ก็ผงกหัวรับฟังให้ผ่านๆ ไป เพราะภายในใจฉันรู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยความพึงพอใจ และความผ่อนคลายที่สุดแล้ว

 

ในวันนี้ เวลานี้ฉันกับเพื่อนขับรถมาเรื่อยๆ ค่อยเป็นค่อยไป พักไปกินไปสมวัยของเราทั้งสองเพื่อมาพบกับคุณยูฟุ ครูสมุนไพรของเราและเพื่อนผู้รักการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจคุณทาคายามา

เพื่อนคนนี้ของฉันช่างมีพลัง ทั้งเข้มแข็งและมีเมตตา

เธอทำผลิตภัณฑ์อาหารออร์แกนิกเองทุกอย่างตั้งแต่โชยุ (ซีอิ๊ว) มิโซะ (เต้าเจี้ยว) น้ำมันทำอาหาร และชาสมุนไพร

ห้องครัวของเธอเล็กกะทัดรัดตั้งอยู่บนยอดเขาที่มองเห็นสีเขียวรอบด้าน อากาศเย็นสบายลมพัดอ่อนๆ ผสมกับความอุ่นของแสงแดดเดือนพฤษภาคม

ข้าวของเครื่องใช้ในครัวแน่นขนัด กินพื้นที่เกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของห้อง

เก้าอี้ โต๊ะ ตู้ในครัวอบอุ่นด้วยสีธรรมชาติและเปลือกไม้ ชาสมุนไพรสดหอมกรุ่นที่เธอเสิร์ฟทำให้ฉันปล่อยวาง ผ่อนคลาย

ใจที่ทุกข์ทรมานเริ่มคลายลงช้าๆ และแล้วความสุขก็บังเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน

–เวลาปวดหัวใกล้จะเป็นหวัด ฉันจะเอาสมุนไพร “โยโมงิ” นี้มาต้มแล้วสูดดมไอของมันก่อนจะดื่ม

หลังจากนั้นฉันจะเอาไปใส่ในโอฟุโระ (อ่างอาบน้ำ) ด้วยนะคะ หรือไม่ก็เอามาโปะหัว โปะอกนอนพักชั่วข้ามคืนฉันก็จะตื่นมาด้วยความสุขค่ะ

ครูสมุนไพรท่านนี้เหมือนจะพูดคุยกับพืชผักสมุนไพรได้รู้เรื่องและเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง เธอจึงใช้ประโยชน์อย่างสำนึกถึงคุณค่า ไม่ได้ใช้แบบทิ้งขว้าง ฟุ่มเฟือยแต่อย่างใด

ดวงตาเปล่งปลั่งสดใสของเธอที่ได้เล่าเรื่องราวความเป็นมาของพืชผักสมุนไพรแต่ละต้น หรือการสัมผัส หยิบ จับ ช่างเต็มไปด้วยความเมตตาผสมผสานกับความสุข ดวงตานี้คล้ายดวงตาที่ฉันเห็นซาโตชิอธิบายเรื่องราวของพืชพันธุ์ไม้ที่เกาะฮาวาย

ดวงตาคู่ที่สอนให้ฉันได้รู้จักพูดคุยกับต้นไม้ใบหญ้า