ฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.)

เปิดเผย

แนวโน้มการขายหนี้เสียหรือเอ็นพีแอลในระบบปี 2561 คาดว่าน่าจะมียอดขายออกมาไม่ต่ำกว่าปี 2560 ที่สูงถึง 120,000 ล้านบาท

เป็นผลมาจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศให้ธนาคารพาณิชย์ใช้มาตรฐานบัญชีไอเอฟอาร์เอส 9 ต้นปี 2562 มาตรฐานนี้ส่งผลต่อการตั้งสำรองหนี้เสียของแต่ละธนาคารไม่มากก็น้อย

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาแต่ละธนาคารได้ประกาศออกมาแล้วว่าปี 2561 จะมีการขายหนี้เสียออกมาและบางรายก็บริหารจัดการเอง

อันเท่ากับเป็นปีเริ่มต้นเตรียมความพร้อม มาตรฐานบัญชีดังกล่าวเป็นตัวเร่งให้ธนาคารขายหนี้ออกมา โดยหนี้ที่ขายออกมาส่วนใหญ่เป็นหนี้เอสเอ็มอีและรายย่อย ส่วนรายใหญ่ธนาคารยังเก็บไว้บริหารเอง

ส่วนผลการดำเนินงานของ บสส. ในช่วงไตรมาส 1 ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และที่เกินเป้าหมาย คือการปรับโครงสร้างหนี้ที่ดีเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนยอดซื้อหนี้เสียหรือเอ็นพีแอลช่วงปี 2560 เป้าหมายอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท แต่ซื้อได้จริง 4,800 ล้านบาท

บริษัทมั่นใจว่าปี 2561 บริษัทสามารถส่งรายได้ให้กับกองทุนฟื้นฟูได้ประมาณ 8,000 ล้านบาท โดยช่วงปี 2560 ทำได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท

สำหรับโครงการคลินิกแก้หนี้ได้ปรับปรุงคุณสมบัติใหม่โดย ธปท. ร่วมกับสมาคมธนาคารไทยปรับหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม จะขยายให้ครอบคลุมลูกหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันที่ค้างชำระเกินกว่า 3 เดือน