นาย ต. : คุมค่าเช่าหอพัก

เสียงร้องเรียนและวิพากษ์วิจารณ์ผู้ประกอบการที่พักอาศัยให้เช่า ดังระงมมากขึ้นๆ อันเนื่องมาจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องธุรกิจให้เช่าอาคารที่อยู่อาศัยเป็นธุรกิจควบคุมสัญญา พ.ศ.2561 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป

ถึงขั้นตัวแทนของผู้ประกอบธุรกิจหอพักยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อขอคุ้มครองชั่วคราว

สาระสำคัญที่บังคับใช้ได้แก่ ให้เก็บค่าเช่าล่วงหน้าได้ไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งปกติก่อนหน้านี้อัตราทั่วไปจะเก็บล่วงหน้า 3 เดือน และให้เก็บค่าน้ำประปา ไฟฟ้า ได้ตามอัตราการให้บริการของหน่วยรัฐ ห้ามบวกเพิ่ม ซึ่งปกติก่อนหน้านี้มีการบวกเพิ่มแตกต่างกันไป

ใครฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยมี 2 ประเภทใหญ่ คือ (1) เพื่อขาย ได้แก่ บ้านจัดสรร ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม (2) เพื่อเช่า ได้แก่ โรงแรม รีสอร์ต หอพัก บ้านเช่า ห้องชุดให้เช่า

ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อยู่อาศัยเพื่อเช่ามีมาเป็นเวลานานมากแล้ว ก่อนที่จะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขายที่เกิดขึ้นประมาณ 50 ปีมานี้ และผู้ทำธุรกิจที่อยู่อาศัยให้เช่าเป็นจำนวนมากนับหมื่นราย ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก

เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงมาก ตัวอย่างเช่น เมื่อเกิดอพาร์ตเมนต์หรือหอพักใหม่ๆ ขึ้นมา ผู้เช่าย่านเดียวกันก็จะเปลี่ยนมาเช่าที่ใหม่ ที่เดิมก็จะเกิดห้องว่างจำนวนมาก ยิ่งในปัจจุบันมีผู้แข่งขันรายเล็กรายน้อยที่เป็นเจ้าของห้องชุดคอนโดมิเนียมปล่อยเช่าด้วย ธุรกิจอพาร์ตเมนต์ยิ่งเดือดร้อนหนัก

จะเห็นว่าทุกวันนี้แทบไม่มีการปล่อยเงินกู้เพื่อก่อสร้างอพาร์ตเมนต์ใหม่ของธนาคารพาณิชย์ เพราะไม่มีคนต้องการลงทุน และธนาคารก็เห็นว่าเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยง

ธุรกิจที่อยู่อาศัยให้เช่า เป็นธุรกิจที่มีผู้ประกอบการจำนวนมาก การแข่งขันสูง และเป็นธุรกิจที่มีมานานมาก กลไกตลาดจึงทำงานได้ค่อนข้างดี อัตราค่าเช่า ค่าบริการหากสูงกว่าตลาด ลูกค้าก็ย้ายหนีได้สะดวก

อัตราเก็บค่าเช่าหลักประกันล่วงหน้า เก็บกันที่ 3 เดือน มาจากหลักคำนวณที่ว่า ให้ครอบคลุมค่าความเสียหายเครื่องใช้และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องกรณีเกิดความเสียหายขึ้น ซึ่งในทางปฏิบัติ เดือนสุดท้ายผู้เช่าไม่ต้องจ่ายค่าเช่าและได้เงินคืนส่วนที่เหลือไป

แต่รัฐสไตล์คุณพ่อรู้ดี ก็ยังอุตส่าห์คิดควบคุมราคาค่าบริการ 55

 

ผลลัพธ์ที่จะตามมาแน่ๆ อุปกรณ์เครื่องใช้ที่แพงเกินหลักประกันต้องถูกขนออกให้ผู้เช่าหามาเอง อัตราค่าเช่าอาจถูกปรับขึ้น

สคบ. อาจต้องเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบหอพักที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย (55) การเคหะแห่งชาติอาจต้องการงบประมาณเพิ่มเพื่อสร้างที่พักอาศัยที่ขาดแคลน (55)

สุดท้ายจะลงเอยอย่างไร

คาดเดาได้ไม่ยาก คงไม่ต่างอะไรกับการควบคุมราคาลอตเตอรี่ที่เอาผู้มีอำนาจในกองทัพมาคุมเอง และทำมาแล้วกว่า 3 ปี แต่ก็ยังไม่ได้ผล

หากรัฐเดินในแนวคิดนี้ต่อ คงต้องไปกำหนดราคาผักผลไม้ที่ตลาดไทย คงต้องไปควบคุมราคาอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย

เอิ่ม ขนาดสตาลิน ประธานเหมาเจ๋อตง ควบคุมได้ทั้งพรรค กองทัพ รัฐบาล ยังต้องยอมถอยให้กับกลไกราคาของตลาดเลย

ประเทศมีอะไรดีปานใด ถึงคิดจะสู้กับกลไกตลาดเสรี สู้เอาเวลาไปคิดป้องกันการเอาเปรียบของกลุ่มทุนผูกขาดรายใหญ่ไม่ดีกว่ารึ