‘วีระ สมความคิด’ เปิดใจถึงเพื่อน “เนวิน” ผู้อ่านสามก๊กจบ “สามรอบ” และบทเรียนของ พล.อ.ประยุทธ์

“วีระ สมความคิด” ผู้ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเจ็บแสบหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา หลายคนอาจไม่ทราบว่าเขาเป็นเพื่อนของเนวิน ชิดชอบ ผู้ที่ถูกจับตามองว่าจะมีบทบาทสำคัญในการต่อรองช่วงการเลือกตั้งครั้งหน้านี้

มติชนสุดสัปดาห์ จึงอยากพาไปสนทนาในหลายๆ มุม

: เนวิน ชิดชอบ ที่วีระเห็นและรู้จักมาหลายสิบปี

ผมกับคุณเนวินเป็นเพื่อนร่วมรุ่นสวนกุหลาบฯ รุ่นเดียวกัน (รุ่น 90) ซึ่งในรุ่นมีทั้งคุณสมชัย ศรีสุทธิยากร (อดีต กกต.), คุณวัฒนา เมืองสุข เป็นต้น คือเป็นเพื่อนเรียนหนังสือมาด้วยกัน ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วเนวินเป็นคนเก่ง บางคนอาจจะไม่รู้ แล้วไปดูถูกเขา คือถ้าเรียนในระบบเนวินไม่ได้เป็นคนที่โดดเด่นอะไรในห้องเรียน จะไม่เหมือนกับความสนใจนอกห้องเรียนที่เขาทำได้ดีมากกว่าการเรียนในระบบ เขาก็แค่สอบผ่าน

จากที่ผมเห็นผมมองว่าถ้าเขาสนใจเรื่องอะไรแล้วเขาก็จะพยายามศึกษาให้ถึงแก่น มีช่วงหนึ่งที่เขาเคยพูดกับผม 2 คนในระหว่างที่ขับรถไปด้วยกันเมื่อปี 2544 คุยกันไปมีช่วงหนึ่งเขาเคยบอกว่า “เขาเป็นคนที่อ่านสามก๊กจบสามรอบ” ผมก็มองว่าเขาเป็นคนที่มีหลายอย่างที่มีความน่าทึ่ง ซึ่งอย่าไปดูถูกเขา

: เป้าหมายทางการเมืองของชายที่ชื่อเนวิน

ผมเชื่อว่าลึกๆ แล้วเนวินเขาก็อยากเป็นนายกรัฐมนตรี คิดว่านั่นคือจุดมุ่งหมายสูงสุดของเขา ผมเชื่อว่าเนวินยังไม่หยุดเพียงแค่นี้ในทางการเมือง เพราะถ้าพูดถึงโดยศักยภาพของเขาโดยความรู้ความสามารถทางการเมือง เขาสามารถเป็นนายกฯ ได้ อนาคตใครจะไปรู้ได้อย่างไร สนามการเมืองหลายคนที่บอกว่าจะหยุด จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้วเป็นอย่างไร ดูคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นยังไงเขาพูดกี่ครั้งกี่หน แม้ขณะที่อยู่ในผ้าเหลืองก็พูดว่าไม่เอาแล้ว เลิกแล้ว เป็นอย่างไร?

ผมมองว่าอย่าเพิ่งเอาอะไรแน่นอนในทางการเมือง ไม่มีอะไรแน่ ใครจะพูดก็พูดได้ ให้รอดูการกระทำดีกว่า ว่าเขาจะวางมือจริงหรือไม่ แต่ที่เห็นๆ ในช่วงที่ต้อนรับนายกฯ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ถามว่า นั่นเรียกว่าวางหรือไม่?

ถ้าวางมือแล้วไปยุ่งอะไรด้วย ทำไมต้องใช้สนามไอโมบายไปต้อนรับนายกฯ เกี่ยวอะไรด้วย ก็ให้อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค จัดการไปเลย คุณไปยุ่งอะไรด้วย ตัวเองไม่ต้องไป ซึ่งภาพที่ออกมามีความโดดเด่นมากกว่าหัวหน้าพรรคเสียอีก ตกลงแล้วใครเป็นหัวหน้าพรรคกันแน่ ใครที่ใหญ่ที่สุด ใครที่มีอำนาจจริงในพรรค คนเขาเห็นทั้งประเทศแล้ว

: การพบกันของ พล.อ.ประยุทธ์-เนวิน ครั้งนี้สะท้อนอะไร?

ผมมองว่าก็เหมือนเดิมไม่ได้มีการพัฒนา-ปฏิรูปอะไรเลย อย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้พูดตั้งแต่ยึดอำนาจเมื่อ 4 ปีที่แล้ว วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่พูดชัดเจนว่าอยากจะเข้ามาปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้ง แต่อย่างที่เห็นว่า 4 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ทำอะไรเลยอย่างที่พูดไว้ อีกทั้งในช่วงท้าย สิ่งที่ทำมันไม่ใช่เรื่องการปฏิรูปเลย เป็นเรื่องการถอยหลัง เป็นการกระทำที่คนไทยไม่อยากเห็น แต่กลับมาได้เห็นอีก ซึ่งดันได้เห็นจากคนที่พูดออกมาว่าจะก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ คือ เรื่องของการดูด ส.ส. เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัย มันเป็นสูตรสำเร็จของคนที่ต้องการชนะการเลือกตั้งแล้วเขาถือว่าถ้าเขาจะดูดใครก็ได้ จากพรรคไหน กลุ่มใดก็ได้ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว

เอาง่ายๆ หมายความว่าไม่ต้องมาสร้างใหม่แล้ว เอาคนเก่าที่มีฐานเสียงที่ชนะแน่นอน หรือเรียกว่านอนมา เอาเขามาเพื่อมาเพิ่มเสียงสนับสนุนให้กับตัวเอง

จะเรียกว่าเหมือนสูตรสำเร็จไม่ต้องเสียเวลามาปรุง ฉีกซองแล้วกินได้เลยไม่ต้องเอามาเลี้ยง ใช้ได้เลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำให้การเมืองเกิดการพัฒนาใดๆ เลย

: การพบกันครั้งนี้ ยิ่งการันตีให้ พล.อ.ประยุทธ์วางใจได้ว่ายังไงก็กลับมาแน่?

ผมมองว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่าเพิ่งคิดว่าการที่ได้พบปะกับคุณเนวินครั้งนี้จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์นอนมา ผมคิดว่าในช่วงต่อไปบรรยากาศก่อนการเลือกตั้งที่มีการปลดล็อกทางการเมืองคุณอาจจะได้เห็นอะไรดีๆ อีกเยอะ

ผมอยากยกตัวอย่างการเลือกตั้งของประเทศมาเลเซีย ที่ผลมันออกมาชัดเจน ผมพูดมาตลอดผมเคยพยากรณ์เอาไว้ ว่าการเมืองในมาเลเซียเป็นสิ่งที่ประเทศไทยควรจะต้องศึกษาอย่างยิ่ง ทั้งเรื่องของการทุจริต เรื่องของสีเสื้อที่มีประชาชนนับแสนออกมาขับไล่ ซึ่งประชาชนก็รู้ว่าเอาพลังของตัวเองมาลงถนนแล้วยังโค่นไม่ได้ ที่สำคัญทหารของมาเลเซียไม่เคยเข้ามายุ่ง ไม่มายึดอำนาจเหมือนประเทศไทย ประชาชนเขารอคอยวันที่มาถึง ด้วยเหตุนี้เองผมมองว่า พล.อ.ประยุทธ์เองก็อย่ามั่นใจ ต่อให้ดูดใครไปทั่ว ท้าให้ดูดไปเลย แล้ววันที่หย่อนบัตรจะได้รู้กัน!

: หมายความว่า เราอาจเห็นปรากฏการณ์แลนด์สไลด์?

ขอให้จำคำพูดของผมในวันนี้ไว้ว่าผมมั่นใจ อยากเห็นผมจับมือกับเสื้อแดงหรือไม่? อะไรที่ไม่เห็นมาก่อนก็จะได้เห็นเมื่อถึงเวลาเดี๋ยวจะได้เห็น มันจะเป็นพลังของประชาชนที่ไม่ต้องการเผด็จการของทหารอีกต่อไป เดี๋ยวประชาชนเมื่อถึงจุดหนึ่งประชาชนจะมารวมกันหมดเพื่อจะเลือกอนาคตของตัวเอง ไม่ต้องการให้บ้านเมืองถอยหลังอีก

: พรรคการเมือง นักการเมืองที่ดูดไป คสช. ไว้ใจได้จริงหรือ?

แม้คนบอกว่าอย่าไปไว้ใจนักการเมืองมากนักก็จริง แต่อย่าไปดูถูกหรือประเมิน พล.อ.ประยุทธ์ต่ำไป เขาก็มีกุนซือและที่ปรึกษา มีคนช่วยเขาดูอยู่ ในทางการเมืองต้องดูกันยาวๆ บางทีฟอร์มดีๆ อาจจะตกม้าตายดื้อๆ ก็ได้ ยังไม่ถึงวันเลือกตั้งอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ ดังที่เห็นตั้งแต่อดีต เช่นกรณีคุณจำลอง ศรีเมือง ที่กระแสดี แต่พอมาวันหนึ่ง มีวาทกรรม “จำลองพาคนไปตาย” นั่นก็เป็นการเปลี่ยนกระแสไปเลย

แต่ผมคิดว่าบทเรียนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะได้รับ น่าจะสาสม แต่นั่นเป็นเพราะเขาทำตัวเอง ไม่มีใครไปทำเขา เขาบอกว่ายึดอำนาจมาจะอยู่ไม่นาน เขาก็ไม่รักษาคำพูด เขาบอกอีกว่าไม่ทะเยอทะยาน ไม่ต้องการที่จะอยากได้อยากมีอำนาจแล้วจริงไหม?

4 ปีที่ผ่านมายังไม่เห็นว่าอะไรที่มีการทำเพื่อประชาชน

มีแต่ทำเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้นเอง

อย่างที่ประชาชนเขาสะท้อนมาว่า ทำไมนายทุนได้รับการตอบแทนในการคืนความสุขอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามผ่านโครงการต่างๆ

แต่ประชาชนที่เรียกร้อง เช่น การปฏิรูปพลังงานก็ไม่สนใจ การดูแลอธิปไตยตามแนวชายแดนก็ไม่ได้ใส่ใจ ปัญหาปากท้องของประชาชนก็แก้ไขอะไรไม่ได้แม้แต่เรื่องเดียว ราคายางผลิตทางการเกษตร ผมถามว่าแก้อะไรได้บ้างหรือไม่? ก็ยังไม่สามารถที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้

วันนี้มีแต่คนลำบาก แล้วรัฐบาลของคุณประยุทธ์ก็ไม่ได้ใส่ใจ

หลายคนที่เรียกให้เขามาก็ผิดหวัง เท่าที่ผมได้สัมผัสที่ได้พูดคุยกัน จะมีก็เพียงกลุ่มประชาชนที่เบื่อหน่ายกับการเมืองที่เห็นถึงความขัดแย้งวุ่นวายเกิดการประท้วง คนเหล่านี้มักจะถูกภาพของ “ผีทักษิณหลอก” ว่าถ้าไม่เอาเราเขามาแน่ ถ้าไม่เอาประยุทธ์แล้วใครจะเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อย ผีทักษิณมักถูกปลุกมาหลอกทั้งๆ ที่ผมมองว่ายังไงเขาก็มาไม่ได้แล้ว ขึ้นจากหลุมไม่ได้ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันทำการมัดตราสังเขาเรียบร้อยแล้วในความเป็นจริง กลับมาก็เจอคดีเพียบ นอมินีก็เช่นกัน หากเข้ามาใช้วิธีแบบเก่าๆ ก็ไม่ได้ มีกลไก มีกับดักต่างๆ ที่เข้มข้นมากขึ้น ถูกล็อกไว้หมดแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่าย

: กระแสรัฐบาลแห่งชาติ มองอย่างไร?

ผมอยากให้ดูต่อไป ผมก็เห็นว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง มันอาจจะเป็นทางเลือกที่มีใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งกำลังพยายามที่อยากให้เกิดแนวทางนี้ โดยที่อาจจะมองว่ายังไม่อยากจะให้มีการเลือกตั้งหรือว่าเลือกตั้งแล้วค่อยมี เราไม่รู้ว่ารัฐบาลแห่งชาติจะออกมาในรูปแบบลักษณะไหนในช่วงใด ไม่ต้องมีเลือกตั้งก็เกิดได้ ถ้ามีอำนาจอะไรเข้ามาทำให้เกิด หรือเลือกตั้งไปแล้วแล้วมีการตั้งรัฐบาลแห่งชาติถ้าพรรคการเมืองอะไรต่างๆ มีปัญหาตกลงกันไม่ได้เราก็ยังไม่รู้ว่ามันจะเกิดก่อนหรือเกิดหลัง

แต่ผมคิดว่าก็มีความเป็นไปได้และผมก็ได้ยินเขาพูดกันมาก