หนุ่มเมืองจันท์ เล่าเรื่อง เล่น “หมู่” ของโน้ส และ ปรากฏการณ์ “เฉลียง”

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ในฐานะคนที่รู้จักกัน บอกตามตรงว่าผมลุ้นกับ “หมู่” ของ “โน้ส” อุดม แต้พานิช มาก

ทั้งเรื่องธุรกิจและความพึงพอใจของคนดู

มีช่องทางไหนที่ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ก็ช่วยอย่างเต็มที่

อยากให้คนได้สัมผัสงานศิลปะชิ้นใหม่ของ “โน้ส”

ในมุมหนึ่ง ผมชื่นชม “อุดม” ว่ากล้าหาญมาก

กล้าเสี่ยงทำอะไรใหม่ๆ ขึ้นมา

ทั้งที่ในมุมการทำงานแล้ว เขาทำ “เดี่ยวไมโครโฟน” สบายกว่าเยอะ

คนเต็มแน่นอน

และคนดูชอบ

ในขณะที่ “หมู่” คนดูไม่รู้ว่าคืออะไร

ยอดขายบัตรจึงไม่เต็มทุกที่นั่งในวันแรกเหมือนกับ “เดี่ยว”

บางคนซื้อบัตรไปเพราะคิดว่าเป็น “เดี่ยวไมโครโฟน” ที่มีแขกรับเชิญ

แต่ทุกคนคาดหวังว่าต้องได้เสียงหัวเราะกลับมาไม่แพ้ “เดี่ยว”

ครับ “ความคาดหวัง” ในสิ่งที่เราไม่รู้ เป็นเรื่องน่ากลัวมาก

เพราะเป็นความคาดหวังที่กระจัดกระจาย

แต่ “โน้ส” กล้าเสี่ยงกับสิ่งเหล่านี้

และเมื่อเป็น “ของใหม่” รอบแรกๆ จึงยังไม่สมบูรณ์เท่าไรนัก

ตอนที่ผมเห็นกระแสโซเชียลมีเดียของคนดู “หมู่”

จิตตกแทนเลยครับ

แต่ต้องยอมรับว่า “โน้ส” มืออาชีพมาก ปรับเปลี่ยนเนื้อหา ลดทอนเรื่องราวที่ยืดเยื้อลงในรอบต่อมา

รอบหลังๆ เริ่มมีคำชมมากขึ้นเรื่อยๆ

จนวันที่ผมดูซึ่งเป็นวันรองสุดท้าย

สนุกเลยครับ

ไม่เหมือนกับคำวิจารณ์ในรอบแรกๆ

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ “ความคาดหวัง” ของผมปรับฐานลงจากกระแสที่ได้รับก่อนหน้านี้

แต่ส่วนสำคัญก็คือ เขาตัดต่อการแสดงใหม่

กระชับและสนุก

“หมู่” เป็นโชว์รูปแบบใหม่ ไม่จำกัดตัวเองว่าเป็นอะไร

มีทั้งละครเวที มีคอนเสิร์ต มีเดี่ยวไมโครโฟน มีละครวิทยุ มีการแกล้งคนดู ฯลฯ

แบ่งเป็นก้อนๆ เหมือนไม่เกี่ยวข้องกันเลย

แต่มีการเชื่อมต่อบางๆ ด้วยสคริปต์

“โน้ส” นำศิลปินดังๆ มาทำอะไรที่ไม่เคยทำ

“ตูน บอดี้สแลม-ปาล์มมี่” มาเล่นละคร

“โจอี้ บอย” มาเดี่ยวไมโครโฟน

และอื่นๆ อีกมากมาย

ในมุมของศิลปะการจัดวาง ถือเป็นการสร้างงานศิลปะรูปแบบใหม่

ให้ศิลปินได้ทำงานที่คนดูไม่เคยเห็นมาก่อน

แต่ปัญหาใหญ่ของโชว์แบบนี้ คือ “การเปรียบเทียบ”

อย่างเช่น ฉากที่สุดแสนอลังการงานสร้าง

แปลกตาและเหนือชั้นกว่าคอนเสิร์ตที่เคยเห็น

แบบนี้ “เปรียบเทียบ” แล้วชนะ

ในขณะที่ “เดี่ยว” ของ “โจอี้ บอย” ที่ผมชอบ แต่คนดูก็อดเปรียบเทียบกับ “เดี่ยว” ของ “โน้ส” ไม่ได้

หรือดูละครเวทีของ “หมู่” ก็เทียบกับละครเวทีที่เคยเห็น

แม้ว่าจะสนุกไม่แพ้กัน แต่ไม่ได้เหนือกว่า

“ปาล์มมี่” เล่นละครตามสคริปต์ก็ใช้ได้

แต่ที่ขำที่สุดกลับเป็นตอนที่เธอหลุดขำออกมา

อะไรที่นอกบทกลับสนุก

ในมุมกลับ ถ้าเป็น “ของใหม่” อย่างการแกล้งคนดูตอนถ่ายหนังเกาหลี

ช่วงนี้ถือเป็น “ไฮไลต์” เลย

คนดูขำกลิ้ง

นอกจากสนุก ขำ แล้ว

ยังเป็น “ของใหม่” ที่เปรียบเทียบกับอะไรไม่ได้

หรือตอนที่ศิลปินทั้งหมดออกมาร้องเพลงในคอนเสิร์ตย่อยๆ ตอนท้ายโชว์

คนดูก็ชอบ

เหมือนกับว่าแท้จริงแล้วคนดูชอบดูในสิ่งที่เขาคุ้นชิน

ดูนักร้องออกมาร้องเพลง

ดู “ติ๊ก” เจษฎาภรณ์ ออกมาโชว์ตัวแบบหล่อๆ

กรี๊ดกันถล่มทลายไปเลย

สมมุติฐานของผมเรื่องนี้มาชัดเจนขึ้นตอนที่ไปดูคอนเสิร์ต “ปรากฏการณ์เฉลียง”

สนุกมากครับ

คนที่ดูคอนเสิร์ตนี้ส่วนใหญ่เป็นแฟนเพลง “เฉลียง” อย่างเหนียวแน่น

มีส่วนน้อยที่พอรู้จักแต่ไม่ถึงขั้น “สาวก”

อย่างน้องๆ ABC 4 ที่ไปดูด้วยกัน

บางคนพอเห็นกล้องจับภาพ “พี่จิก” ประภาส ชลศรานนท์ ที่มานั่งดูด้วย

เธอหันมาถามผมว่า “พี่จิก” อยู่วงเฉลียงด้วยเหรอ

…ประมาณนั้น

แต่เชื่อไหมครับ แม้คนที่ไม่ใช่เป็นแฟนเฉลียงระดับเข้าสายเลือด

ยังสนุกเลยครับ

คอนเสิร์ตนี้ไม่ได้ครีเอทีฟแบบสุดๆ

ทุกอย่างอยู่ในมาตรฐานคอนเสิร์ตทั่วไป

แต่อาจจะแปลกกว่าตรงที่ร้องเพลงน้อยมาก

พูดมากกว่า

ราวกับดู “เดี่ยวไมโครโฟน” แบบ “หมู่” ของ “เฉลียง”

และมีเพลงประกอบ

มุขที่เตรียมไว้ตามสคริปต์ก็ฮา

ที่ฮาที่สุดคือมุขนอกสคริปต์ที่ไหลไปเรื่อยๆ

รู้ว่ารอบสุดท้ายจะอัดวิดีโอเพื่อขายเป็นดีวีดี

พอเล่นพลาด ก็เล่นใหม่

บอกคนดูด้วยมาถ่ายซ่อม

“ปรากฏการณ์เฉลียง” คล้ายๆ กับเราเจอเพื่อนเก่าแล้วคุยกันแบบย้อนอดีต

แซวหรือต่อยอดจากเรื่องเดิมๆ

แค่นี้ก็สนุกแล้ว

“เจี๊ยบ” วัชระ ปานเอี่ยม บอกในรายการวิทยุว่าเขาดูจากบนเวทีแล้วเห็นชัดว่าทุกครั้งที่เขาร้องเพลง คนจะไปห้องน้ำ

แต่ตอนพูด คนจะนั่งฟัง

เขาเห็นเลยจัดตามที่คนดูต้องการ

“เฉลียง” เล่นกับความคุ้นชินของคนดู

ผมคิดเล่นๆ ว่า ถ้า “โน้ส” เอาเรื่อง “หมู่” มา “เดี่ยวไมโครโฟน” เล่นๆ สัก 3-4 รอบ

“เดี่ยว” แบบที่เคยทำ

ไม่ต้องทำฉากอลังการงานสร้างมากนัก

รับรองคนดูตรึม

“ความคุ้นชิน” ยังขายได้ครับ