ภาพยนตร์ /นพมาส แววหงส์/A FANTASTIC WOMAN

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์  นพมาส แววหงส์

A FANTASTIC WOMAN

‘ออสการ์สาขาหนังต่างประเทศ’

กำกับการแสดง Sebastian Lelio
นำแสดง Daniela Vega Francisco Reyes

ปีนี้ ออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศได้แก่ หนังจากประเทศชิลีชื่อ A Fantastic Woman ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศชิลีสำหรับรางวัลนี้
หนังเลยได้เข้าฉายในโรงในช่วงเดือนนี้ค่ะ ถ้าดูไม่ทัน ก็น่าจะหาแผ่นมาดูได้ไม่ยากนะคะ
มารีนา (ดาเนียลา เบกา) ทำงานเป็นสาวเสิร์ฟและเรียนร้องเพลงเพื่อจะเป็นนักร้องในคลับ เธอเป็นสาวสวย คล่องแคล่ว ฉลาด และมุ่งมั่น แต่เธอก็ไม่ได้มีกำเนิดเป็นผู้หญิง
เธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอยู่กับหนุ่มใหญ่สูงวัยเจ้าของกิจการสิ่งทอที่อายุมากกว่าเธอมาก เราไม่รู้ถึงชีวิตก่อนหน้านี้ว่าเธอเผชิญกับอะไรมาบ้าง และเป็นไงมาไงถึงได้มาเป็นชายในร่างหญิงสาว
ออร์ลันโด (ฟรันซิสโก เรเยส) แยกทางกับอดีตภรรยา โซเนีย (อาลีน คุปเปนไฮม์) และใช้ชีวิตอยู่กับมารีนาอย่างรักใคร่มีความสุขด้วยกัน

เมื่อเปิดเรื่อง เขากำลังวางแผนจะพาเธอไปเที่ยวน้ำตก เป็นทริปที่จะไปเวเคชั่นด้วยกันเยี่ยงคู่รัก แต่หลังจากไปนวดในร้านสปาในเมืองแซนติเอโกของชิลี เขาก็ทำเอกสารเดินทางส่วนตัวหาย ไม่รู้ว่าเอาวางผิดไว้ที่ไหน และเปรยให้มารีนาฟัง ในการเลี้ยงฉลองวันเกิดภายใต้แสงเทียน
คืนนั้นเอง ที่อพาร์ตเมนต์ที่ทั้งสองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ออร์ลันโดตื่นขึ้นกลางดึกด้วยอาการผิดปกติร้ายแรง ทำให้มารีนาต้องขับรถพาไปโรงพยาบาลอย่างฉุกละหุก ขณะที่เธอทิ้งให้เขายืนหน้าห้องเพื่อรอก่อนเธอจะปิดห้อง เขาโงนเงนล้มกลิ้งหลุนๆ ลงบันไดไปหลายขั้น กว่าเธอจะทุลักทุเลพาตัวเขาส่งแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล
แต่เธอก็ต้องเจอกับเรื่องที่ทำให้เสียอารมณ์และทำตัวยากมากมาย แรกทีเดียวคือเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเรียกเธอด้วยสรรพนามที่ใช้กับผู้ชาย แม้เธอจะแสดงความเป็นหญิงเต็มตัวและบอกว่าเธอชื่อ “มารีนา” แต่เขาก็บอกว่าเธอต้องใช้ชื่อและเพศตามบัตรประจำตัว และเธอก็ไม่ใช่คนในครอบครัวของคนไข้
สถานการณ์เลวร้ายลงด้วยการที่ออร์ลันโดสิ้นใจ มารีนาเตลิดออกจากโรงพยาบาลอย่างเสียขวัญ
และโทร.หาน้องชายของออร์ลันโดเพื่อให้แจ้งให้ครอบครัวเขาทราบ รวมทั้งอดีตภรรยาและลูกๆ

นั่นเป็นจุดเริ่มของฝันร้ายที่มารีนาต้องเผชิญกับความโศกเศร้าเสียใจอยู่คนเดียวอย่างว้าเหว่และหาคนเข้าใจไม่ได้ คนรอบข้างทุกคนล้วนทำตัวเป็นปฏิปักษ์ อดีตภรรยาของออร์ลันโดห้ามไม่ให้มารีนาไปร่วมงานศพ ลูกชายของเขาไล่เธอออกจากอพาร์ตเมนต์ที่พักอยู่ และยังยึดสุนัขของเธอไป
ซ้ำร้าย ตำรวจที่ทำคดีความในครอบครัว ตามมาสอบสวนเรื่องความตายของออร์ลันโด เนื่องจากเขามีแผลฟกช้ำทั่วตัวจากการตกบันได แถมยังให้เธอไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่สถานี และบีบให้เธอต้องอับอายขายหน้าด้วยการแก้ผ้าถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน
ทุกวันก่อนออกจากบ้าน มารีนาต้องชกลูกบอลสำหรับซ้อมชกเพื่อระบายอารมณ์ก่อนออกมาสู้หน้ากับโลกทั้งโลก
คำพูดที่โหดร้ายที่สุดที่มารีนาได้เจอจากปากของซอนยา อดีตภรรยาของออร์ลันโด คือ “เวลาฉันมองดูเธอ ฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังเห็นใครอยู่ ตัวไคเมราน่ะ นั่นแหละที่ฉันเห็นอยู่”
คำว่า “ไคเมรา” มีต้นตอมาจากสัตว์ในปกรณัมกรีกโบราณ มีหัวเป็นสิงโต ตัวเป็นแพะ และหางเป็นงู แถมพ่นไฟได้อีกต่างหาก ความหมายปัจจุบันที่ใช้กันโดยทั่วไปหมายถึง สิ่งที่เป็นไปได้ยาก หรือสิ่งที่ไม่มีอยู่ในโลกของความเป็นจริง
มารีนาซึ่งเป็นชายที่มีจิตใจเหมือนผู้หญิง และแต่งกายเป็นหญิง โดนดูถูกดูแคลนซึ่งๆ หน้าว่าเป็น “หัวมังกุท้ายมังกร” นั่นคือไม่เป็นอะไรสักอย่าง อยู่ในสภาพครึ่งๆ กลางๆ แถมอุปมาที่บอกว่าเหมือนไคเมรา ยังบอกลักษณะที่พ่นไฟใส่คนอื่นอีกด้วย
หนังมีลักษณะเหนือจริง (เซอร์เรียล) แทรกสลับอยู่ เนื่องจากเป็นการเดินเรื่องจากมุมมองของมารีนา ดังนั้น บางครั้งที่เธอรู้สึกว่าต้องฝ่าฟันเดินฝ่าพายุที่โหมกระหน่ำใส่ไปข้างหน้า เราจึงเห็นภาพเหนือจริงที่ร่างของเธอเอนเป็นมุมสี่สิบห้าองศากับพื้นราบ ระหว่างเดินต้านกระแสลม
และเธอเห็นออร์ลันโดอยู่แทบทุกที่ เหมือนกับว่าเขายังมีชีวิตอยู่ แม้ระหว่างทางเดินไปเยี่ยมศพเขาในที่เก็บศพ
หนังใช้เพลงที่เป็นที่รู้จักดีของอรีธา แฟรงกลิน ซึ่งมีเนื้อร้องตรงกับความรู้สึกของมารีนาอย่างที่สุด นั่นคือ You Make Me Feel Like a Natural Woman เป็นการแสดงตัวตนและบอกความในใจของมารีนาให้เรารู้

นี่เป็นเรื่องราวอันละเอียดซับซ้อนของการประกาศตัวตนให้โลกรับรู้ ขณะที่โลกทั้งโลกปฏิเสธที่จะยอมรับ ซึ่งเล่าเรื่องอย่างงดงามประณีต ชวนติดตาม เราแทบจะไม่รู้เลยว่าหนังจะพาเราไปในทิศทางไหน
แรกทีเดียวก็ดูเหมือนจะเป็นการสืบสวนคดีฆาตกรรมอำพราง ในขณะที่ตัวเอกเป็นผู้บริสุทธิ์เต็มตัวต่อหน้าคนดู
และแล้วก็ยังมีเงื่อนงำของกุญแจปริศนาที่ออร์ลันโดพกติดตัวอยู่ ซึ่งทำให้มารีนาตามหาเบาะแส และคนดูก็คอยลุ้นว่าจะคลี่คลายไปในทางไหน แต่ก็ปรากฏว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ทั้งสองเรื่อง เป็นแต่การเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นแก่ชีวิตของมารีนาหลังจากคนรักตายไป และเธอกำลังช็อกและอาลัยเศร้าโศก โดยไม่มีหนทางแสดงออกและไม่มีใครยอมรับรู้และเห็นใจ
แต่ผู้เขียนชอบประเด็นที่แฝงอยู่ในเรื่องราวของมารีนา จากอาชีพคู่ขนานของเธอที่ฝึกฝนตนเองเพื่อเป็นนักร้อง ระหว่างที่หาเลี้ยงชีพด้วยการเสิร์ฟอาหาร
ตอนเธอไปฝึกร้องเพลงกับครู เสียงที่ออกจากปากเธอไพเราะและเต็มไปด้วยความรู้สึกแบบคนที่เข้าใจความทุกข์และกลั่นออกมาผ่านทางศิลปะ
มารีนาอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการสร้างตัวตนในฐานะศิลปินนักร้องชื่อดังต่อไปในอนาคต
นี่อาจเป็นเหตุให้ศิลปินจำนวนไม่น้อยในวงการศิลปะนานาแขนง มาจากพวกเกย์กระมัง
แนะนำให้ดูค่ะ อย่างน้อยก็เป็นหนังคุณภาพที่แตกต่างออกไปจากหนังกระแส แถมเป็นหนังของชิลีเรื่องแรกที่จะได้ดูกันละมัง