การ์ตูนที่รัก : The Fake / นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

 

 

The Fake

 

การ์ตูนเกาหลี ปี 2013 เพิ่งได้แผ่นบลูเรย์คุณภาพดีมาครับ เขียนและกำกับฯ โดย Yeon Sang-ho ผู้กำกับหนังการ์ตูน The King of Pigs เมื่อปี 2011 ซึ่งการ์ตูนที่รักเคยแนะนำไปแล้ว และหนังดัง Train to Busan เมื่อปี 2016

เรื่องนี้ได้รับรางวัลการ์ตูนยอดเยี่ยมจากบางเวที ความยาว 101 นาที ลำพังลายเส้นแบบเกาหลีก็อึดอัดแล้ว เนื้อเรื่องจะยิ่งทุรนทุราย เนื้อหาใช้ได้เลย

สปอยล์นะครับ ยกเว้นตอนจบ

หนังเปิดฉากที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งกำลังจะถูกน้ำท่วมเนื่องจากการสร้างเขื่อน หลายหมู่บ้านย้ายออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงหมู่นี้ที่มีอยู่ไม่กี่หลังคาเรือน สภาพแวดล้อมโดยรอบแห้งแล้งและเสื่อมโทรม ต้นไม้แห้งตาย ที่นารกร้าง ข้าวของเครื่องใช้ถูกทิ้งขว้างระเกะระกะ

วันหนึ่ง มีชายวัยกลางคนทีท่าสุภาพเรียบร้อยชื่อชอย (Choi Gyeong-seok) กับนักเทศน์หนุ่มชื่อซุง (Sung Chul-woo) เดินทางมาตั้งโบสถ์ชั่วคราว นักเทศน์เทศน์น่าฟัง อาซิ่มคนหนึ่งซึ่งป่วยด้วยวัณโรคลุกไม่ขึ้นมาหลายเดือนถึงกับมีอาการดีขึ้นผิดหูผิดตาเมื่อได้กินน้ำมนต์ของนักเทศน์ วันนี้เธอแข็งแรงเดินเหินกระฉับกระเฉงช่วยงานโบสถ์

ชอยเป็นนักเลงและนักต้มตุ๋น เขาบอกชาวบ้านว่าจะสร้างโบสถ์ใหม่และที่อยู่อาศัยให้ใหม่ หากใครต้องการไปสวรรค์ให้ทำบุญสร้างโบสถ์ใหม่เพื่อจองที่นั่งไปสวรรค์

ชอยตั้งใจสูบเงินค่าชดเชยที่ชาวบ้านได้จากการสร้างเขื่อนแล้วเชิดหนี ส่วนนักเทศน์หนุ่มมีประวัติล่อลวงเด็กสาวถึงฆ่าตัวตายจึงถูกขับออกจากโบสถ์แห่งหนึ่ง เขามาทำงานนี้กับชอยโดยมิได้เต็มใจเท่าไรนัก

 

 

หนังเปิดตัวชายร่างใหญ่หน้ากร้านริ้วรอยโชกโชนชื่อคิม (Kim Min-chul) มันเดินทางกลับบ้าน ชาวบ้านทุกคนรู้จักมันดี มันน่ากลัวและนิสัยไม่ดีมากที่สุด

เมื่อถึงบ้านก็ค้นเอาเงินของลูกสาวชื่อคิมยังซุน (Kim Young-sun) ที่เตรียมไว้เป็นค่าเล่าเรียนวิทยาลัยใหม่ที่เซอูลไปเล่นพนัน จากนั้นไปนั่งกินเหล้า มันเมาแล้วเกะกะระรานผู้คน

ที่โต๊ะตัวหนึ่งตรงมุมร้าน ชอยในมาดนักธุรกิจกำลังนั่งคุยกับคนสามคน คนหนึ่งมีวัยเป็นพ่อ สองหนุ่ม-สาวมีวัยเป็นลูก ชอยเหลือบมาทางคิมแวบหนึ่งก่อนจะพูดว่า “ปัญญาอ่อน” แล้วไปเข้าห้องน้ำ

คิมในสภาพเมามายตามเข้าไปในห้องน้ำทันทีแต่ถูกชอยเอาก้อนอิฐฟาดหัวแตกล้มลง คิมลุกขึ้นมาด้วยความโมโหโกรธา เป็นเวลาเดียวกันกับที่อาเจ๊เจ้าของร้านเหล้าโทร.เรียกตำรวจ ตำรวจนำคิมไปโรงพักให้สงบสติอารมณ์แต่ไม่ยอมรับแจ้งความจากคิมว่าเขาถูกทำร้าย

คิมกลับบ้านด้วยความโกรธแค้นที่ทำอะไรชอยไม่ได้ เมื่อลูกสาวร้องห่มร้องไห้ถามหาเงินสะสมของเธอที่หายไป มันตบลูกสาวล้มลงโดยที่คนเป็นแม่ไม่พยายามช่วยอะไรเลย ได้แต่คอยห้ามปรามลูกสาวมิให้พูดจารุนแรงกับพ่อ

ฉากนี้ดี บ้านเรามีอีกหลายครัวเรือนที่อยู่ในสภาพเช่นนี้ คนเป็นแม่นั่งดูคนเป็นพ่อข่มเหงลูกๆ ได้ทั้งกายใจโดยที่ไม่พยายามทำอะไร

แม่หลายคนจะพูดว่าพยายามแล้วแต่ไม่สำเร็จ ความจริงคือพยายามไม่มากพอ

แม่หลายคนแสดงออกชัดเจนว่าปกป้องสามีตัวร้ายมากกว่าที่จะปกป้องลูกๆ

ความรุนแรงของการข่มเหงมีทั้งที่ไม่มากอะไรนอกจากต้องรองรับอารมณ์พ่อไปเรื่อยๆ กับที่ถูกเอารัดเอาเปรียบทั้งทรัพย์สินหรือร่างกาย ทำโทษรุนแรงจนเข้าข่ายละเมิดเด็ก รวมทั้งทำร้ายร่างกายโดยตรงหรือล่วงเกินทางเพศ อะไรเหล่านี้บ้านเรายังมีทัศนคติว่าเป็นเรื่องในบ้านเสียมาก

เรื่องทำบุญจองที่ไปสวรรค์ก็เหมือนกัน การทำบุญควรเป็นการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ให้ออกไปเพียงเพื่อได้ให้แล้วพอเท่านั้น

แต่บ้านเราก็ดูเหมือนจะติดอยู่ที่การทำบุญเพื่อไปสวรรค์เสียมาก ไม่นับที่ทำบุญเพื่อเอาหน้าอีกต่างหาก

ทำบุญมากกว่าจะได้ที่นั่งที่ดีกว่าบนสวรรค์ก็มี

คิมไปพบชอยและนักเทศน์ซุงกำลังรักษาชายวัยกลางคนนั่งรถเข็นที่โบสถ์ชั่วคราวในตอนเย็นวันหนึ่ง มีลูกชายลูกสาวแต่งกายดีพามา ชายวัยกลางคนลุกขึ้นเดินได้ ชาวบ้านเลื่อมใสเปล่งคำสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้ากันมากมาย

คิมพยายามเปิดโปงกลโกงของชอยและนักเทศน์เพราะชายที่นั่งล้อเข็นกับลูกชายลูกสาวคือสามคนที่นั่งคุยกับชอยในร้านเหล้าเมื่อคืนก่อนนี้เอง

คิมเข้าไปหาเรื่องชอยแต่ถูกชายฉกรรจ์ที่คุ้มครองชอยป้องกันเอาไว้ ลูกสาวคิมยังซุนเข้าไปห้ามพ่อก็ถูกพ่อตบไปอีกสองฉาด ชาวบ้านรุมด่าทอคิมเพราะทุกคนรู้จักประวัติเกเรและสำมะเลเทเมาของมันดี

คิมเอะอะอาละวาดที่โบสถ์จนกระทั่งตำรวจมาอีก ตำรวจขอให้นักเทศน์ซุงชี้ตัวชอยที่คิมกล่าวหา พอดีชอยเพิ่งออกจากโบสถ์ไปโดยรถส่วนตัว นักเทศน์ซุงตอบตำรวจว่าไม่เคยรู้จักชอยต่อหน้าชาวบ้านรวมทั้งอาซิ่มวัณโรคที่ยืนฟังอยู่อย่างงงๆ ครั้นตำรวจหันมาขอให้ชาวบ้านช่วยชี้ตัวชอย ชาวบ้านก็พูดว่าไม่รู้จักกันหมดทุกคนตามหลวงพ่อซุงไปด้วย คิมโมโหมาก

คิมเป็นอันธพาลแต่ก็มีเพื่อนอยู่บ้าง เพื่อนสนิทคนหนึ่งคือผัวของอาซิ่มที่ดีขึ้นจากอาการวัณโรคนั้นเอง หลังจากปรับทุกข์กับเพื่อนครู่ใหญ่แล้วคิมพูดขึ้นคำหนึ่งว่าไม่รู้ชาวบ้านเห็นเขาเป็นตัวอะไรไปหลงเชื่อจอมหลอกลวงอย่างชอยได้ เพื่อนหัวเราะขบขันแล้วพูดอย่างจริงใจว่า

“นี่แกไม่รู้จริงๆ หรือ ชาวบ้านเขารู้กันทั่วว่าแกเลวที่หนึ่ง”

คิมขอให้เพื่อนช่วยเป็นพยานให้เขาเอาผิดชอยข้อหาทำร้ายร่างกายและต้มตุ๋น เพื่อนซึ่งน่าจะเคยร่วมแก๊งหรือสำมะเลเทเมากับคิมมาก่อนพูดว่า “ทั้งชีวิตข้าไม่เคยทำอะไรดีๆ ให้เมียเลย ไม่เคยพามันไปไหน ไม่เคยพามันไปเที่ยวเกาะจูจูด้วยซ้ำ วันนี้เมียข้าอยากไปสวรรค์ ข้าจะให้มันไป ข้าไม่ขัดมันเพราะแกหรอก”

เพราะเป็นการ์ตูนเกาหลีจึงไม่เข้าใจเท่าไรนักว่าชาวบ้านเกาหลีที่งมงายกับเรื่องแบบนี้ยังมีอยู่มากมาย ดูการแต่งกายของชาวบ้านเกาหลีที่ยากจนและงมงายก็มิได้แย่มากหรือเป็นเพราะลายเส้นการ์ตูนยังไม่ละเอียดพอก็ไม่แน่ใจ หรือไม่ก็เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับความยากจนหรือชนชั้นอะไร คนรวยชนชั้นสูงก็สามารถงมงายเชื่อเรื่องเหลวไหลพวกนี้ได้พอๆ กัน

อาม่าของชายปัญญาอ่อนร่างอ้วนในหมู่บ้านคนหนึ่งตาย อาซิ่มวัณโรคขวัญเสียเพราะที่นั่งไปสวรรค์มีจำกัด บัดนี้เสียอีก 1 ที่ให้แก่อาม่าไปเสียแล้ว อาซิ่มหนักใจเดินซึมกลับบ้าน รบเร้าสามีให้รีบถอนเงินจากธนาคารมาบริจาคเพิ่ม “บริจาคให้หมดเลย” พอสามีบอกให้รอก่อนก็ร้องห่มร้องไห้พร่ำรำพันว่าจะไม่ได้ไปสวรรค์ก็คราวนี้ สามีใจอ่อนจึงรับปากแล้วกอดเมียไว้

อาซิ่มไอเป็นเลือด คิมยังซุนผู้ลูกสาวหายตัวไป เรื่องใกล้ถึงจุดระเบิดแล้ว

เรื่องคิมผู้ลูกสาวหายไปไหนลองไปหาหนังมาดู เรื่องอาซิ่มจะรอดหรือไม่ก็หาหนังมาดูอีกเช่นกัน หนังจะรุนแรงมากขึ้นทุกขณะนับจากนี้ ไปจนถึงตอนจบซึ่งพลิกผันสองสามตลบ

ที่อยากให้เห็นคือเรื่องศรัทธา (faith) ในตอนท้าย แม้ชะตา (fate) ของแต่ละคนจะไปถึงจุดต่ำสุด แต่พวกเขาเชื่อว่าพระผู้เป็นเจ้ารักพวกเขาเสมอ ต่อให้นักเทศน์เป็นคนหลอกลวง (fake) และชอยเป็นอันธพาล เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่อาจจะสั่นคลอนที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวของพวกเขาได้เลย เพราะหากสิ้นซึ่งสิ่งยึดเหนี่ยวสักเรื่องหนึ่งแล้ว ชีวิตจะไปเหลืออะไร

ส่วนคิมนั้นเป็นสัตว์ไม่ใช่คน พระผู้เป็นเจ้าจะช่วยดวงวิญญาณของเขาได้หรือไม่โปรดติดตาม

จบรุนแรงครับ