การ์ตูนที่รัก : America the Motion Picture / นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

 

 

America the Motion Picture

 

สหรัฐอเมริกาเป็นข่าวทั่วโลกอีกครั้งหนึ่ง แทนที่จะดูการ์ตูนหดหู่ The Breadwinner เล่าเรื่องอัฟกานิสถานซึ่งการ์ตูนที่รักเคยเขียนถึงไปแล้ว ชวนดูการ์ตูนสหรัฐอเมริกากันดีกว่า

เป็นการ์ตูนที่น่าจะถูกวิพากษ์ว่าไม่รักชาติ สำหรับคนนอกอเมริกาอย่างเราดูแล้วสนุกดี และรู้สึกได้ว่าหนังพูดความจริงอยู่หลายเรื่อง มีทั้งส่วนที่เชิดชูวิถีแบบอเมริกันและส่วนที่เป็นปัญหา หนังจิกกัดหลากหลายประเด็น พูดเร็ว เดินเรื่องเร็ว คำสแลงมากมาย และมีฉากที่คาดไม่ถึงเป็นระยะๆ

เป็นผลงานกำกับเรื่องแรกของ แม็ต ทอมป์สัน ให้เสียงโดย แชนนิง ทาทัม เป็นจอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา และ ไซมอน เพ็กก์ เป็นคิงเจมส์ กษัตริย์อังกฤษเจ้าอาณานิคม

ตัวละครหลักทุกคนมีที่มาที่ไปในประวัติศาสตร์ จะวงเล็บให้ทราบว่าใครเป็นใครนะครับ

หนังเปิดเรื่องด้วยฉากชุมนุมผู้ก่อตั้งสหรัฐอเมริกา (the Founding Fathers of the United States) ด้วยความที่หนังไปเร็วมาก ดูไม่ทันว่ามีใครบ้าง ที่มีแน่ๆ คือ เบนจามิน แฟรงคลิน พวกเขามารวมกันเพื่อฉลองร่างประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา (The United States Declaration of Independence) แต่ไม่ทันจะไปถึงไหนพวกทหารอังกฤษก็บุกเข้ามาสังหารคนทั้งห้าเลือดสาดคอขาดกลิ้งหลุนๆ ไป

หนังเปิดตัว เบเนดิกต์ อาร์โนลด์ (Benedict Arnold 1741 -1801) นายทหารสหรัฐที่แปรพักตร์ไปอยู่กับฝ่ายอังกฤษ จะเป็นชื่อที่คนอเมริกันใช้เรียกคนทรยศในเวลาต่อมา เรื่องนี้เขาเป็นมนุษย์หมาป่า

มีสองคนที่มิได้อยู่ในงานเลี้ยง คือ จอร์จ วอชิงตัน และอับราฮัม ลินคอล์น สองสหายไปดูการแสดงที่โรงละครฟอร์ด (สถานที่ที่ลินคอล์นจะถูกสังหารในปี 1865) วอชิงตันเป็นชายผิวขาวร่างใหญ่นิสัยสนุกสนานร่าเริง ลินคอล์นตัวสูงสวมหมวกสูงตลกโปกฮายิ่งกว่า

ทันใดนั้นเบเนดิกต์ อาร์โนลด์ปรากฏตัวในร่างมนุษย์หมาป่าขย้ำลินคอล์นตายสยดสยอง (เป็นการ์ตูนเรตอาร์) ก่อนตายเขาสั่งเสียเพื่อนรักให้ประกาศสงครามกับอังกฤษและก่อตั้ง “อเมริกา”

ที่งานศพของลินคอล์น สาวที่วอชิงตันพบที่โรงละครคือ มาร์ธา แดนดริดจ์ (Martha Dandridge 1731-1802) ผู้ที่จะเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งคนที่หนึ่งในเวลาต่อมาได้เดินเข้ามาปลอบประโลมวอชิงตันแล้วตามไปปลอบประโลมอย่างเร่าร้อนต่อบนเตียง (เป็นการ์ตูนเรตอาร์)

เธอปลุกกายและใจของบุรุษหมายเลขหนึ่งให้คักคึกตั้งสู้ไม่ท้อถอย ด้วยการรวมกำลังพลเฉพาะกิจเพื่อปลดปล่อยอาณานิคม

วอชิงตันทาบทามแซมมวล อดัมส์เป็นคนแรก (Samuel Adams 1722-1803) เขาเป็นนักการเมืองจากแมสซาชูเซตส์ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับประธานาธิบดีคนที่สองของสหรัฐคือ จอห์น อดัมส์ และเป็นหนึ่งในผู้นำกองกำลังปฏิวัติ

ในหนังการ์ตูนเขาเป็น “คนรวยผิวขาว” ซึ่งจะถูกล้อเลียนล่วงหน้าว่าเหยียดผิวแน่ๆ ไปตลอดทั้งเรื่อง ในตอนจบของหนังการ์ตูนวอชิงตันเรียกเขาว่า ลุงแซม

คนที่สองคือ พอล รีเวีย (Paul Revere 1734-1818) เป็นช่างเงินและนักอุตสาหกรรมคนแรกๆ ของสหรัฐ เขามีชื่อเสียงจากภารกิจขี่ม้าเร็วไปแจ้งข่าวการโจมตีของกองทัพอังกฤษ วีรกรรมของเขาเป็นที่กล่าวขวัญและแต่งเป็นบทกวีในเวลาต่อมา

ในการ์ตูนเขาเป็นเด็กหนุ่มหน้าเอ๋อๆ ที่มีม้าชื่อ ไรด์ (Ride) เป็นเพื่อนคู่ใจ

ในตอนท้ายของการ์ตูนเขาอาสาควบไรด์นำระเบิดเวลาวิ่งออกจากกลุ่ม ไรด์ล้มลง มันสั่งเสียพอลแล้วพาระเบิดเวลาวิ่งตะบึงต่อไปจนถูกระเบิดคอขาดตาย หลังจากนั้นคลาริสซ่า ฮาร์โลว์ บาร์ตัน (Clarissa Harlowe Barton 1821-1912) สตรีผู้ก่อตั้งกาชาดช่วงสงครามกลางเมืองอเมริกา จะผ่าตัดพอลและไรด์ด้วยนาโนเทคโนโลยีรวมร่างทั้งสองกลายเป็นไซบอร์กเซนทอร์โรโบคอป

อีกสองคนเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก คนหนึ่งคือ โทมัส อัลวา เอดิสัน เอดิสันในการ์ตูนเป็นหญิงชาวจีน เธอถูกเรียกว่าแม่มด เธอจึงมีภารกิจพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าที่เธอทำเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักกันตอนนั้น นอกเหนือจากมุขถูกเหยียดว่าเป็นหญิงและเป็นคนจีน บางครั้งอาจจะรู้สึกได้ว่าเป็นทอม แต่โดยรวมๆ เธอดูปกติดีกว่าเพื่อน

อีกคนหนึ่งคืออินเดียนแดง เจอโรนิโม่ เขาต่อว่าคนรวยผิวขาวตั้งแต่ตอนแรกแต่ก็ยอมเข้าด้วยกลุ่มก่อตั้งการปฏิวัติ ในการ์ตูนเขาจะตัดแขนขวาทิ้งเมื่อถูกมนุษย์หมาป่าเบเนดิกต์ อาร์โนลด์กัด

หากดูองค์ประกอบของกลุ่มก่อตั้งนี้จะเห็นว่าวอชิงตันเป็นผู้ประสาน สองคนคือคนรวยผิวขาว อีกสองคนคือคนชายขอบ พวกเขาห้าคนจากต่างเผ่าพันธุ์และต่างยุคสมัยเข้ามารวมกันเพื่อต่อสู้กับคิง เจมส์ เจ้าอาณานิคมตัวอ้วนตะกละตะกลามเพื่อก่อตั้งสหรัฐอเมริกาที่อีกสองร้อยปีต่อมาน่าจะยังเหมือนเดิม

ในหนังการ์ตูน คิง เจมส์มีภาพลักษณ์ของแจ๊บบาเดอะฮัทผสมกับจักรพรรดิจากสตาร์วอร์ส

เขาปรากฏตัวเป็นโฮโลแกรมบนแท่นที่เดินหรือลอยได้ด้วยตัวเอง

บางฉากมีสตรีหมายเลขหนึ่งถูกล่ามโซ่ยืนเคียงข้าง

เขาเดินทางด้วยยานแม่มาแผ่นดินใหม่เพื่อพบกับมือขวาคือเบเนดิกต์ อาร์โนลด์

ในฉากสงครามครั้งสุดท้ายเพื่อประกาศอิสรภาพทำเลียนแบบฉากรบในสตาร์วอร์สจากหลายภาค หุ่นยนตร์และยานรบทุกรุ่นของฝ่ายจักรวรรดิจะผสมผสานเข้ากับรถเมล์แดง ตู้โทรศัพท์แดง และบิ๊กเบน ร่วมด้วยเทคโนโลยีของทรานสฟอร์เมอร์ดาหน้าเข้าใส่กองกำลังปฏิวัติซึ่งประกอบด้วยคนอเมริกันร้อยพ่อพันแม่ดูกันไม่ทัน สนุกดี

เพราะเบเนดิกต์ อาร์โนลด์เป็นมนุษย์หมาป่า จึงมีแต่กระสุนเงินที่จะฆ่ามันได้ ห้าสหายรวบรวมช้อนส้อมเงินจากทุกแหล่งเพื่อไปว่าจ้าง จอห์น เฮนรี่ ให้ทำกระสุนเงิน

ตรงนี้จิกกัดคนรวยผิวขาวและอินเดียนแดงกับคนผิวดำไปพร้อมกัน เมื่อห้าสหายรวบรวมช้อนส้อมเงินได้เป็นกระสอบใหญ่ยักษ์แล้วจึงมอบให้เจอโรนิโม่เอาไปให้จอห์น เฮนรี่

“ข้ามีแขนเดียว!” เจอโรนิโม่ประท้วง

“ไปเหอะน่า หัวหน้าเจอโรนิโม่” ทุกคนชอบเรียกเขาว่าหัวหน้า ซึ่งเขาต้องคอยแก้ไขว่าให้เรียกชื่อเฉยๆ ก็พอ

ฉากที่วอชิงตันไปพบจอห์น เฮนรี่ก็เช่นกัน จอห์น เฮนรี่ไม่มีตัวจริง เป็นเรื่องเล่าพื้นบ้านเกี่ยวกับช่างตีเหล็กผิวดำที่สามารถใช้ค้อนทุบเหล็กกล้าฝังเข้าไปในหินระหว่างก่อสร้างทางรถไฟได้ วอชิงตันเล่นมุขว่าควรเรียกเขาว่ามิสเตอร์สมิธ หรือแบล๊กสมิธ กันแน่

ก่อนสงครามครั้งสุดท้าย สองเกลอคนนอกจอห์น เฮนรี่ผิวดำ กับอินเดียนแดงเจอโรนิโม่ผิวแดงนั่งกินเบียร์คุยกันถูกคอไม่สนใจภารกิจที่ต้องช่วยพวกคนรวยผิวขาวกันอีก

เบียร์จะเป็นอาวุธยุทธศาสตร์ในตอนท้ายด้วย เหตุเพราะอังกฤษมีแผนการร้ายคิดโปรยชาอังกฤษลงจากฟากฟ้าเพื่อเปลี่ยนชาวอาณานิคมทุกคนรวมทั้งกองกำลังปฏิวัติเป็นคนอังกฤษให้หมด วิธีที่จะสะเทินชาได้คือใช้เบียร์อเมริกันเท่านั้น

หนังยังเล่าเรื่องอินทรีอเมริกันและที่มาของเบสบอล ไม่นับเรื่องไก่ทอดและธงชาติอเมริกัน

หนังสนุกนะครับ ยังมีอีกหลายมุขหลายฉากที่มิได้เล่า ทั้งเรื่องไตตานิก วีรกรรมของสตรีหมายเลขหนึ่ง อีกทั้งยังมีพอล บันยันในตำนาน ชาวเม็กซิกัน และคนอาหรับปรากฏตัวด้วยสั้นๆ

ในที่สุดก็ถึงวันที่ 4 กรกฎาคม ปี 1776 ผู้คนหลากหลายมารวมตัวกันเพื่อฉลองเอกราชหน้าอนุสาวรีย์วอชิงตัน จุดเด่นที่ปฏิเสธมิได้ซึ่งหนังการ์ตูนพูดมาโดยตลอดคือ “เสรีภาพและประชาธิปไตย” ปิดด้วยฉากสุดท้ายเป็นการเรียกร้องของชาวอเมริกันทุกหมู่เหล่า

พวกเรียกร้องสิทธิของคนดำ สิทธิสตรี สิทธิของคนข้ามเพศ ชาวเอเชีย ชาวเม็กซิกัน คนอาหรับ อินเดียนแดง เรียกร้องสิทธิในระบบประกันสุขภาพ สิทธิในการครอบครองปืน และข้อเรียกร้องกระบวนการยุติธรรม วอชิงตันกุมขมับพูดประโยคสุดท้ายในตอนจบว่า

“Oh god. We’re gonna fuck this up aren’t we?”

บทบรรยายไทยว่า “แล้วเราจะรอดมั้ยเนี่ย?”