การ์ตูนที่รัก : Raya the Last Dragon / นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

 

Raya the Last Dragon

ทํารายได้ดี นักวิจารณ์ทั่วโลกชื่นชอบ แต่ทำไมคนเอเชียอาคเนย์เช่นผมดูแล้วออกจะแปลกๆ ตั้งแต่ฉากแรก

หนังใหม่ปี 2021 ของดิสนีย์ ถึงคิวนางเอกอุษาคเนย์ ที่ผ่านมาดิสนีย์เข้ามาเอเชียได้แค่จีนหรืออินเดียเสียมาก รอบนี้มาถึงบ้านเราจนได้ การแต่งกาย บ้านเรือน สถาปัตยกรรม เครื่องครัว และสำรับอาหาร นั่งดูวัสดุประกอบฉากเหล่านี้ก็ให้เพลินไปอีกแบบ

แต่เนื้อเรื่องและเนื้อหาก็ยังออกจะชุลมุนและผสมปนเปจีนกับอินเดีย

อสูรชื่อดรูน (Drunn) ดรูนปรากฏตัวฉากแรกเป็นกลุ่มควันสีม่วงดูคล้ายสิงโตหินตามศาลเจ้าจีน ดรูนทำให้ผู้คนกลายเป็นหินรวมทั้งเผ่าพันธุ์มังกรทั้งหมด เหลือเพียงมังกรแห่งคุมันตรา (Kumandra ผมออกเสียงเอง) ตัวเดียวที่ใช้อัญมณีวิเศษสะกดดรูนเอาไว้ได้

หลังจากนั้นมังกรแห่งคุมันตราและอัญมณีมังกรนั้นก็หายไป

 

เวลาผ่านไปห้าร้อยปี ริมฝั่งแม่น้ำที่มีรูปร่างเหมือนมังกรเป็นที่อยู่ของชนเผ่า 5 กลุ่ม เรียงรายไปตามริมน้ำ ชนเผ่าทั้งห้านี้มีชื่อว่า เขี้ยว (Fang) หัวใจ (Heart) สันหลัง (Spine) กรงเล็บ (Talon) และหาง (Tail) ตามตำแหน่งบนร่างของมังกร

ดูจากสีผิวและเครื่องแต่งกาย พวกนางเอกกับพ่อน่าจะเป็นชนเผ่าไทมากที่สุด ส่วนที่เหลือผสมปนเประหว่างเอเชียใต้และโพลีนีเซียน นี่ถ้าพวกอู้เมืองหรือไทใหญ่ละก็ใช่เลย

หนังเปิดตัวนางเอกของเรายังเป็นเด็กหญิงชื่อรายา ฝึกวิชาร่ายรำกระบองต่อสู้กับพ่อชื่อเบญจา หากไม่บอกว่าชื่อเบญจาดูจากเสื้อ (ยันต์) ที่ใส่ก็อาจจะนึกว่าชื่อพลายแก้วได้ง่ายๆ สองพ่อ-ลูกแห่งเผ่าหัวใจเป็นผู้ครอบครองอัญมณีมังกรเอาไว้

วันนี้เบญจามาแนวใหม่ คิดเชิญหัวหน้าเผ่าทั้งสี่มาหารือกันเพื่อจะได้อยู่ร่วมกันในลุ่มแม่น้ำโขงของหมู่เฮาอย่างสันติ ช่างซื่อเหมือนคนบ้านเฮาเสียจริงๆ หารู้ไม่ว่าแม่น้ำที่มีรูปร่างเหมือนมังกรอย่างที่เห็นในหนังจะถูกทึกทักว่าเป็นของเชื้อชาติที่อยู่เหนือน้ำในอนาคต ส่วนดรูนสิงโตหินนั้นรูปร่างก็บ่งชี้เชื้อชาติยิ่งใหญ่อยู่แล้ว นี่เป็นเรื่องราวของชนเผ่ากลุ่มน้อยในเงื้อมมือยักษ์หลับตั้งแต่แรก

สตรีหัวหน้าเผ่าฝาง (Fang ผมออกเสียงเอาเอง) ชื่อวิรัญณา (Viranna ผมสะกดเอาเอง) หล่อนพาลูกสาวชื่อน้ำอารีมาด้วย (Namaari ผมสะกดเอาเองอีก) รายาและน้ำอารีเข้ากันได้ดีด้วยวัยไล่เลี่ยกัน สีผิวเหมือนพวกเราคล้ายๆ กัน รายาพาน้ำอารีไปดูอัญมณีมังกรใกล้ๆ น้ำอารีเผยธาตุแท้แม่สั่งมาลงมือชิงอัญมณี ลามไปสู่การต่อสู้ชุลมุนของห้าเผ่า

แล้วจบลงด้วยอัญมณีตกแตกเป็นชิ้นๆ

ดรูนที่ถูกสะกดไว้ห้าร้อยปีหลุดออกมาได้ พ่อเบญจากลายเป็นหินยืนแก๊กแด๊กยะหยังบ่ได้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในขณะที่เศษของอัญมณีที่แตกกระจายก็ถูกลู่เอาไปตามเผ่าต่างๆ ตลอดแนวลุ่มน้ำโขงนั้นเป็นที่น่าเสียใจแต๊ว่า

หกปีผ่านไป รายาเป็นสาวแล้ว เธอเดินทางกับตัวอะไรสักอย่างคล้ายๆ ตัวลิ้นในกาดเชียงแสน แต่ใหญ่เท่ารถถัง มันขดตัวเป็นลูกบอลกลิ้งได้ต่างล้อพารายาไปได้ทุกหนแห่ง รายาเดินทางมาจนถึงปลายแม่น้ำที่บริเวณแหลมทองเราถอยไปไหนไม่ดีอีกแล้วซึ่งก็คือส่วนหางของมังกร

ที่นี่เธอได้พบซีซู (Sisu) มังกรสีฟ้า และพบเศษอัญมณีชิ้นที่สองที่ช่วยให้ซีซูเปลี่ยนร่างได้ดั่งใจนึก หนึ่งหญิง หนึ่งมังกร และหนึ่งรถถังเริ่มต้นเดินทางจากหางขึ้นไปตามลำแม่น้ำเพื่อตามหาเศษอัญมณีส่วนที่เหลือ มังกรในตำนาน และสะกดดรูนให้ได้อีกครั้งหนึ่ง

อย่าให้มันสร้างเขื่อนเหนือแม่น้ำได้อีก ส่วนจะต้องไปถึงฝางแล้วเลยต่อไปถึงภูเขาอัลไตหรือเปล่านั่งดูการ์ตูนกันต่อไป

ไม่แปลกใจที่ฝรั่งจะชอบ เพราะเครื่องแต่งกายและฉากหลังเป็นอย่างที่เรียกว่าเอ๊กโซติก พบเห็นได้ตามโรงแรมห้าดาวแถบเมืองเหนือทั่วไป อาหารการกิน สำรับกับข้าว และข้าวตอกดอกไม้มีให้ดูครบ หากข้ามความสวยงามเหล่านี้ไปก็จะพบน้ำโขงเหือดแห้ง อากาศเป็นพิษ ผู้คนอดอยาก เหล่านี้เป็นฝีมือของดรูน หนทางแก้ไขเป็นไปตามขนบของดิสนีย์ นั่นคือทุกเผ่าต้องร่วมมือกันในตอนจบ

รวมทั้งรายาและน้ำอารีที่ต้องลืมอดีตที่บาดหมางจับมือกับมังกรพิชิตดรูนให้จงได้

หรือว่าอย่าพิชิตดรูนเลย เมื่อดูแลกันเองมิได้เอาชีวิตไม่รอดก็ฝากผีฝากไข้ไว้กับมังกรเลยจะดีกว่าไหม ไหนๆ ก็ผูกขาดไปหลายสิ่งอย่างแล้ว ร้านค้าปลีกในประเทศ ทางรถไฟข้ามประเทศ รวมทั้งเมืองชายแดนทันสมัยด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่

ชีวิตจริงวันนี้ของบ้านเรา เราไว้ใจมังกรได้หรือเปล่านี่แหละจึงเป็นประเด็น

ดิสนีย์ตั้งใจทำหนังเรื่องนี้มาก เป็นครั้งแรกที่เจ้าหญิงดิสนีย์จะเป็นชาวอุษาคเนย์ เอเชียอาคเนย์ หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดิสนีย์สร้างทีมรีเสิร์ชหลากหลายเชื้อชาติ และมีที่ปรึกษาเส้นเรื่องหลากหลายเชื้อชาติด้วย ทั้งสองทีมลงพื้นที่ทั้งไทย ลาว เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย

แต่เชื่อได้ว่าชาวอุษาคเนย์ดูไปแล้วไม่มากก็น้อยก็จะคิดถึงเอเชียตะวันออกหรือเอเชียใต้ด้วย

ที่จริงแล้วพวกฝรั่งอาจจะยังมองไม่เห็นเรา

หรือไม่ก็เห็นอยู่ แต่ดาราแม่เหล็กที่จะดึงคนดูและรายได้เข้าหนังยังคงต้องเป็นดาราจากเอเชียตะวันออกหรือเอเชียใต้เสียมากกว่า

หนังออกฉายในสถานการณ์โควิดและการเหยียดผิวเหลืองที่ดูเหมือนจะขยายตัวมากขึ้นจากสถานการณ์ดังกล่าว

แต่ก็ได้รับคำชื่นชมกว้างขวางจริงๆ

ผมดูแล้วเขียนตามความรู้สึกส่วนตัวจากบริบทและบรรยากาศรอบตัวเวลานี้ คือน้ำโขงเหือดแห้ง ทุนจีนผูกขาด ฝุ่นควันข้ามแดน และความยากลำบากของเอเชียอาคเนย์ ไปพบบทวิจารณ์ที่ว่าด้วยการคัดเลือกผู้ให้เสียงพากย์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักแสดงจากเอเชียตะวันออกจริงๆ ด้วย

ยกเว้นนางเอกที่เป็นเวียดนาม ส่วนฟิลิปปินส์หายไปไหนไม่รู้