การ์ตูนที่รัก : ดาบพิฆาตอสูร (4) / นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

 

ดาบพิฆาตอสูร (4)

 

เล่ม 6 หลังจากพิชิตครอบครัวแมงมุมแล้ว ทันจิโร่และเนซึโกะถูกควบคุมตัวไปปรากฏต่อหน้าเสาหลักทั้ง 9 ของกลุ่มพิฆาตอสูร หนึ่งในเสาหลักคิดฆ่าเนซึโกะเพราะเนซึโกะเป็นอสูร มันเสียบดาบเข้ากล่องไม้ที่เนซึโกะอยู่ภายในจึงถูกทันจิโร่ตีโต้ทั้งที่ตัวเองถูกมัดเอาไว้

“ถ้าแยกอสูรดีกับเลวไม่ออก ก็เลิกเป็นเสาหลักได้แล้ว!” ทันจิโร่ว่า

โครงเรื่องวรรณกรรมปราบปีศาจนอกเหนือจากเรื่องความยากจนและความเกลียดชัง อีกโครงเรื่องหนึ่งคือความหวาดกลัว นั่นคือความหวาดกลัวต่อคนนอก ต่อคนต่างด้าว และต่อคนที่ไม่เหมือนเรา

รวมทั้งความหวาดกลัวและความหวาดระแวงต่อคนที่คิดไม่เหมือนเรา

 

ก่อนที่ทันจิโร่และเนซึโกะจะถูกรุมกินโต๊ะ พลันปรากฏตัว “นายท่าน” ออกมารับรองทันจิโร่และเนซึโกะด้วยตัวเอง “ถ้าเนซึโกะกินคน ซากอนจิ กิยู และทันจิโร่รวมสามคนจะคว้านท้อง” แต่ถึงกระนั้นเสาหลักบางคนก็ไม่ยินยอม “มนุษย์ถูกฆ่าตายและกินไปแล้วคว้านท้องไถ่โทษแล้วชีวิตมนุษย์จะคืนมาได้หรือ”

จะเห็นว่าโครงสร้างการปกครองตามลำดับชั้นใดๆ มักเป็นเช่นนี้เอง

กล่าวคือ มีกลุ่มคนที่เรียกว่าวงกลมชั้นใน (inner circle) เสมอ

คือกลุ่มที่มีคอนเน็กชั่นกันเองสูงสุดและแวดล้อมตัวประมุข ประมุขมิได้มีอำนาจสิทธิ์ขาดดังที่เข้าใจ ที่แท้แล้วในหลายๆ ที่ประมุขมิได้เป็นตัวของตัวเอง ผู้กุมอำนาจที่แท้ประกอบด้วยวงกลมชั้นในด้วย

และคนกลุ่มนี้เองที่มักจะหวาดกลัวหรือหวาดระแวงคนนอกมากถึงระดับวิตกจริต

เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะความหวาดกลัวหรือหวาดระแวงที่เกิดขึ้นมิใช่เป็นของปัจเจกคนเดียว แต่เป็นอาการหวาดระแวงหมู่ (shared delusion)

ราษฎรอย่างทันจิโร่และเนซึโกะจึงเจาะเข้ายากนักหนา

 

เมื่อ “นายท่าน” ปรามเสาหลักบางคนไม่ได้ดังใจนึก จึงเปิดเผยว่าทันจิโร่เป็นคนเดียวที่เคยเห็นหน้าจอมอสูร คิบุซึจิ มุซัน นั่นนำความตกตะลึงมาสู่เสาหลักทั้งเก้าเพราะพวกเขาเองก็ไม่เคยเห็นจอมอสูรมาก่อน

เมื่อนักเขียนปล่อยวรรณกรรมออกสู่สาธารณะ เท่ากับพ้นมือนักเขียนแล้ว บัดนี้การตีความเป็นของสาธารณะ และนักเขียนปฏิเสธมิได้ว่าเนื้อหาที่เขียนออกมานั้นหากมิใช่ด้วยความตั้งใจก็เป็นจากจิตใต้สำนึก รวมทั้งโครงสร้างสังคมและการเมืองที่ครอบงำนักเขียนซึ่งเป็นผู้ผลิตวรรณกรรมเสมอ

กลับไปที่โครงสร้างที่ 1 ถ้าจอมอสูรมุซันเป็นความยากจน และถ้าทันจิโร่กับเนซึโกะเป็นพวกคนจน นายท่านและเสาหลักทั้งเก้าเป็นชนชั้นปกครอง ชนชั้นปกครองแม้อ้างว่ามีหน้าที่ขจัดความยากจนแต่พวกเขาจะไปรู้จักหรือเคยเห็นความยากจนได้อย่างไร ชีวิตของพวกเขาอยู่กันเฉพาะคอนเน็กชั่นเดียวกัน ดังนั้น พวกเขาจึงทำเป็นเพียงแค่ฆ่าคนจน

ในขณะที่ทันจิโร่รู้จักความยากจนที่แท้เขาจึงเป็นคนจนที่รู้จริง เนซึโกะเป็นคนจนที่ติดเชื้อความบ้าคลั่งเข้าใกล้ระดับคนยากจนที่โกรธแค้น ส่วนอสูรทั้งมวลคือคนยากจนที่โกรธแค้นจนกระทั่งเปลี่ยนแปลงไปแล้วอย่างสิ้นเชิงและพร้อมใช้ความรุนแรงเต็มรูปแบบ นี่คือโครงสร้างของวรรณกรรมซอมบี้

เสาหลักทั้งเก้าหวาดกลัวทันจิโร่และเนซึโกะเป็นเรื่องสากล มองไปรอบตัวแล้วจะเห็นกระสวนความคิดนี้มีอยู่ทั่วไป

เสาหลักวายุ ชินาซึงาวะ ซาเนมิ ใช้ดาบแทงเนซึโกะสามครั้งแล้วกรีดเลือดตัวเองเพื่อยั่วเย้าให้เนซึโกะลงมือ ลงมือใช้ความรุนแรง แต่เนซึโกะไม่ทำ เธอมิได้กินเลือดหรือกินมนุษย์มาตั้งแต่แรก รวมเวลานี้ก็สองปีแล้ว เธอและพี่ชายทันจิโร่จะเดินหน้าปราบจอมอสูรมุซันให้ได้ เพราะมีแต่พวกเขาเท่านั้นที่เข้าใจคนยากจนด้วยกันดี และพวกเขายืนยันจะยืนหยัดแม้ว่าจะไม่เป็นที่ยอมรับของชนชั้นปกครอง

“ข้ากับเนซึโกะจะจัดการคิบุซึจิ มุซันให้ได้ จะกวัดแกว่งดาบทำลายวงจรความเศร้าโศกนี้” ทันจิโร่ประกาศ

บทแปลในหนังสือการ์ตูนใช้คำว่า “จัดการ” มิได้ใช้คำว่า “กำจัด” ไม่ว่าต้นฉบับในภาษาญี่ปุ่นจะเขียนว่าอย่างไรก็ตาม แต่จิตวิเคราะห์ได้ครอบงำนักแปลด้วย นี่คือคำที่มีความหมายกว้างกว่าการฆ่าให้สิ้นซาก ซึ่งเป็นเรื่องน่าสนใจมากว่าท้ายที่สุดแล้วทันจิโร่และเนซึโกะจะทนความเย้ายวนอยากใช้ความรุนแรงของตนเองได้มากน้อยเพียงใด

จากตรงนี้ไปจนกระทั่งจบเล่มหกเป็นช่วงพักรบ ทันจิโร่ เนซึโกะ เซนอิทซึและอิโนสุเกะพักรักษาบาดแผลและฟื้นฟูพลัง ในเวลาเดียวกันจอมอสูรมุซันปรากฏตัวในร่างสตรีสูงศักดิ์ระดมพล 12 จันทราอสูร ได้แก่อสูรข้างขึ้น 6 และอสูรข้างแรม 6

ที่แท้แล้ว รุย ลูกอสูรแมงมุมที่ตายไปนั้นคืออสูรข้างแรมที่ 5 ซึ่งถือว่ามีฝีมืออ่อนเกือบที่สุดแล้ว

 

เล่ม 7 ขึ้นรถไฟแห่งฝันนิรันดร์

ทันจิโร่และพรรคพวกขึ้นรถไฟขบวนหนึ่งเพื่อพบกับเสาหลักเพลิงเรนโงคุ เคียวจูโร่ พวกเขามาติดตามนักดาบที่หายไปบนรถไฟขบวนนี้ 40 คนแล้ว เมื่อขึ้นรถไฟ อสูรร่างยักษ์ตนหนึ่งปรากฏตัวแต่ก็ถูกเสาหลักเพลิงเรนโงคุฆ่าตายในดาบเดียวอย่างง่ายดายสร้างความประทับใจแก่สามสหาย

จากนั้นพนักงานตรวจตั๋วก็มาถึงพร้อมกลิ่นบางอย่างที่ทันจิโร่สัมผัสได้ แล้วทุกคนก็นอนหลับไป

โดยมีอสูรข้างแรมที่ 1 เอนมุเฝ้าดูอยู่

ทุกคนเริ่มฝัน เซนอิทซึฝันได้วิ่งเล่นกับเนซึโกะในทุ่งดอกไม้

อิโนสุเกะฝันผจญภัยไปในถ้ำโดยมีทันจิโร่ เนซึโกะและเซนอิทซึเป็นสมุนบ๊องๆ

เสาหลักเพลิงเรนโงคุฝันกลับไปหาพ่อผู้ที่ไม่เคยยอมรับในตัวเขา

ส่วนทันจิโร่ฝันกลับไปหาแม่และน้องๆ ซึ่งยังมีชีวิตอยู่

เมื่อทุกคนเข้าสู่การฝันระยะแรก อสูรข้างแรมจัดการใช้เชือกล่ามข้อมือของทั้งหมดเอาไว้ด้วยกันกับสาวก แล้วส่งสาวกเข้าไปในความฝันของทุกคน

สาวกนั้นเป็นเด็กหญิง เป็นคนธรรมดา อสูรข้างแรมที่ 1 เอนมุไม่เสี่ยงที่จะส่งอสูรหรือเข้าไปในความฝันของเหยื่อด้วยตนเองเพราะระดับเสาหลักเพลิงเรนโงคุจะจับสัญญาณได้โดยง่าย

แต่ถึงกระนั้น เรนโงคุก็รู้สึกตัวระดับหนึ่งจึงขย้ำคอเด็กหญิงคนนั้นเอาไว้ เขาไม่ฆ่าเพราะติดขัดที่เด็กหญิงเป็นมนุษย์นั้นเอง นับว่าอสูรข้างแรมที่ 1 เอนมุวางแผนไว้รอบคอบยิ่งนัก

ดังนั้น ทุกคนจึงต้องฝันต่อไป

 

มังงะเล่ม 7-9 นี้คือส่วนที่นำไปสร้างเป็นหนังใหญ่ทำรายได้และคำชื่นชมล้นหลาม อีกทั้งเข้ารอบเวทีประกวดหลายเวที เนื้อเรื่องและเนื้อหาเฉพาะที่ปรากฏในหนังสือน่าสนใจและมีความรุนแรง

ความฝันของคนเราช่วยปลดปล่อยความเครียดในใจและช่วยจัดระเบียบความคิดที่ยุ่งเหยิง ความฝันในยามค่ำคืนมีประโยชน์มาก เปรียบเสมือนการ defrag ข้อมูลสมองและจิตใจทุกวันให้เรียบร้อย

ฝันกลางวันหรือ Daydreaming เพ้อฝันหรือ Fantasy เป็นกลไกทางจิตที่ใช้ในการระบายความเครียดและสร้างความหวัง แต่ขึ้นชื่อว่ากลไกทางจิตมักเป็นของที่ควรใช้เพียงชั่วคราว เพราะหากใช้นานจนติดใจคนเราจะไม่พัฒนาอะไรอีกเพราะมัวแต่ฝันกลางวัน คือสิ่งที่อสูรข้างแรมทำกับทุกคนรวมทั้งทันจิโร่

ทันจิโร่อยากได้ครอบครัวคืนมา เขาจึงติดอยู่ในความฝันกลางคืนที่มีรูปแบบของฝันกลางวัน เขาได้พบแม่และน้องๆ ที่สำคัญได้พบน้องเนซึโกะครั้งที่ยังเป็นมนุษย์ เขามีบ้านที่อบอุ่นแม้ว่าจะยากจน แต่เขาพอใจที่จะอยู่ตรงนั้น

นี่คือเรื่องอันตรายที่สุดของฝันกลางวัน กล่าวคือ เป็นบางครั้งที่เราถูกมอบความฝันจอมปลอมให้ กล่าวคือ ฝันไปถึงระดับจงพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ แล้วอยู่ตรงนั้นตลอดไป รอเวลาที่สาวกอสูรจะเข้าไปทำลาย จะเห็นว่าศัตรูของทันจิโร่อาจจะมาจากทั้งสองทิศทาง ทางหนึ่งคือชนชั้นปกครอง ทางหนึ่งคือจอมอสูร

ดังนั้น เรากลับไปที่เล่ม 1 ทันจิโร่และเนซึโกะมีแต่ต้องช่วยเหลือตนเองโดยไม่คิดพึ่งใคร และที่สำคัญคือไม่หลงกลฝันกลางวันใดๆ ที่ผู้อื่นมอบให้ ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นปกครองหรือจอมอสูรก็ตาม

แต่ว่าวิธีที่ทันจิโร่ “ตัด” ตนเองออกจากความฝันอันแสนสุขเป็นวิธีการที่รุนแรงมาก คือส่วนที่น่าจะอ่อนไหวมากที่สุดของการ์ตูนเรื่องนี้