เปิดใจสุดสตรองของ ‘ใบเตย’ จำได้เลยเคย ‘กราบตีน’ ผู้ชาย!

เพราะไม่นึกไม่ฝันว่า ช่อง 8 จะป้อนบท “แม่นาก” ให้ เมื่อได้รับ ใบเตย อาร์สยาม-สุธีวัน ทวีสิน จึงว่า เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะถ่ายทอดให้ดี ซึ่งหลังคลุกคลีกับบทจนเข้าใจ ก็ทำให้ตระหนักว่า ในบางมุมของความรัก ใบเตยก็มีอะไรที่คล้ายกับแม่นากเหมือนกัน

“คือถ้าเกิดตาย เราก็ยังจะอยู่กับเขา ยังเคยคุยกับพี่แมน (ดีเจแมน-พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา) ถ้าเกิดพี่ไปมีคนอื่น หนูตามหลอกหลอนแน่นอน”

บอกอีกว่า คนอย่างเธอ “เป็นสไตล์ที่เรียกว่าบูชาความรักมากๆ เวลามีแฟนจะทุ่มทุกอย่าง”

ตั้งแต่ครั้งแรกเมื่ออายุ 16-17 ปี กระทั่งครั้งที่ 6 ณ วันนี้ในวัย 28

ตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนมัธยม กระทั่งเป็นนักร้องดัง

ด้วยในความคิดเธอนั้น ต่อให้ดังขนาดนั้น สวยและรวยเพียงใด “ก็เอาชนะความรักไม่ได้”

 

“ผู้หญิงน่ะชนะทุกอย่าง แพ้ทางอย่างเดียวคือความรัก สุภาษิตที่ว่าความรักทำให้คนตาบอดน่ะ จริงมาก เพราะบางทีเราก็ทำอะไรที่ถ้ากับคนอื่น ไม่มีทางทำ แต่กับคนที่เรารัก ทำทุกอย่างจริงๆ”

ทั้ง “ทำ” และ “ทน” จนติดเป็นนิสัย

“เคยมีคนถามว่าทำไมถึงอดทนกับปัญหาทุกอย่างมาได้ ไม่ว่ากี่เรื่องในชีวิต ก็จะตอบทุกคนไปว่า ก็ชีวิตตอนที่ไม่ได้เป็นใบเตย เลวร้ายกว่านี้เยอะมาก”

“มีแฟนคนแรก กินข้าวไม่หมด เขาเอาส้อมแทงนะ เพราะฉะนั้น วันนี้สบายมากค่ะ” คนเล่าเล่าพลางหัวเราะ ขณะคนฟังอย่างเราได้แต่อึ้ง เพราะนึกไม่ถึง

“ตอนนั้นเด็กมาก แล้วรักมากชนิดที่ว่าตื่นมาก็เห็นหน้าเขา หลับตาก็ต้องเป็นเขา”

เขาซึ่งเป็น “พระเอก” อายุเกือบ 30

หากถึงเจอฤทธิ์ส้อมขนาดนั้น สาวเจ้าก็ว่า “ยังรัก ยังกราบเขา พี่อย่าทิ้งหนูไป จำได้เลยเคยกราบตีนผู้ชาย กอดเข่า กอดขา เหมือนในละคร ทำมาหมดแล้วค่ะ”

ตอนที่กราบ ใบเตยว่า เขาสะบัด กระนั้นก็ยอม จึงคบกันยาวถึง 5 ปี แบบมารู้ทีหลังว่า นอกจากเธอแล้วเขายังมีหญิงอื่นอีก 10 คน

“แต่วันที่เลิกจากเขา เขาไม่ได้ทำอะไรเราเลย อยู่ดีๆ ก็ตัด เหมือนเมื่อหมดกรรม ก็หมดกัน”

“พอมาคนที่ 2 เลวร้ายหนักกว่า เพราะคบกันมาเกือบปี เขาติดพนันฟุตบอล ตอนนั้นเราเพิ่งออกเช็กเรตติ้ง เพิ่งหาเงินได้ อยู่ดีๆ แฟนโดนกักไว้ในบ่อน เพราะติดเงิน ก็ต้องเอาเงิน 5 หมื่นของเราไปไถ่เขา โห…นอกจากบูชาความรัก ยังเป็นมิสเปรูอีกต่างหาก” ถึงตอนนี้เธอสามารถเล่าไปหัวเราะไป แต่ในตอนนั้นบอกเลยอารมณ์ต่าง

เพราะ “วันดีคืนดีนางก็ทิ้งเราไป หายไปแบบหักดิบ คือบล็อกทุกอย่าง โทรศัพท์ บีบี ดีลีตเราออกจากชีวิต เจ็บปวดมาก”

มากถึงขนาดพยายามกระโดดตึกคอนโดฯ ฆ่าตัวตาย โชคดีที่แม่มาเห็นเสียก่อน

“ตอนนั้นทำงานไม่ได้ ขาดสติ กรี๊ด เป็นแฟนที่เลิกแล้วเศร้าและทุรนทุรายที่สุด คือแฟนคนแรกคบนานกว่าก็จริง แต่ทำร้ายเรา เราก็รู้ว่าเขาไม่ดี รู้ว่าเลิกเพราะอะไร แต่คนนี้ไม่เคยเลย”

หลายวันเข้าเมื่อยังจัดการความรู้สึกไม่ได้ จึงต้องเข้าบำบัดที่ศรีธัญญา

เจอประสบการณ์แบบนี้ พอรายที่ 3-4 และ 5 เมื่อเห็นท่าไม่ดี เธอจึงเป็นฝ่ายที่ยุติความสัมพันธ์

“ฉลาดขึ้นนิดนึงแล้วค่ะ แต่ ณ วันที่ฉลาดไม่ใช่ว่าจะไม่เสียใจ เพียงแต่เราตัดใจได้เร็วขึ้น”

กับดีเจแมนที่แม้จะคบกันถึงขั้นวางแผนแต่งงานในอีก 1-2 ปีข้างหน้า เมื่อเธอเรียนจบจากซูเปอร์สตาร์ อะคาเดมี่ ออฟ เอเชีย ใบเตยก็บอกตามตรง “เอาจริงๆ เราก็ไม่รู้นะคะ ไปดูมากี่หมอดู เขาก็บอกเราไม่ซัคเซสเรื่องนี้ ก็ทำใจไว้ระดับหนึ่ง เพราะด้วยความเป็นผู้ชาย และความเป็นมนุษย์ เวลาเปลี่ยน ใจก็เปลี่ยน ก็ต้องพยายามประคับประคอง อย่างไปเรียนกับครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง เขาก็ว่าเราต้องเชื่อมั่นว่าเรามีรักแท้ แต่เรายังไม่ค่อยเชื่อ”

“ความรักมันเป็นสิ่งที่ยากสำหรับเรา”

แต่กระนั้นเธอก็ไม่เคยหยุดที่จะทำความเข้าใจ

เพราะตั้งแต่เริ่มรู้จักก็ไม่เคยได้มี “ช่วงโสด” ในชีวิต

“เป็นเหมือนดวง อะเมซิ่งมาก สมมุติคนแรกเลิกวันนี้ พรุ่งนี้ได้ใหม่เลย และไม่ได้ไปค้นหานะ เข้ามาเอง”

แถมเป็นระดับพระเอกในวงการทุกคน!

“อย่าให้เอ่ยชื่อ บอกไม่ได้จริงๆ” ปฏิเสธด้วยรอยยิ้มกว้าง

ที่พอจะพูดได้ก็เพียง “พระเอกเนี่ย ตัวดีมากกกกกกก”

 

กับการเป็นคนที่มีพร้อมทั้งชื่อเสียงและเงินทองนั้น ใบเตยบอกเลยว่านี่ไม่ใช่ชีวิตที่น่าอิจฉา

“ภาพในไอจีอาจจะเป็นอย่างนั้น แต่ชีวิตจริงไม่ค่ะ ชีวิตจริงเหนื่อย สิ่งที่ทำไม่ได้ดูดีทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายละคร ร้องเพลง ทุกอย่างต้องอดทน บอกน้องๆ ทุกคนที่ถามอยากเป็นพี่ใบเตยต้องทำยังไง ว่าถ้าไม่สตรองอย่างฉันไม่มีทางทำได้หรอก เราใจสู้มาตั้งแต่เด็ก ซึ่งทุกคนต้องผ่านอะไรหนักๆ อย่างเรามาน่ะ”

“เราประกวดร้องเพลงตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เที่ยงๆ โรงเรียนจะประกาศแล้วว่าคุณพ่อคุณแม่มารับไปประกวด แล้วคุณแม่จะขับรถกระบะจากสงขลามากรุงเทพฯ มาเรียนร้องเพลงทุกอาทิตย์ ผ่านเวทีมาเยอะมาก”

และแม้จะเซ็นสัญญากับอาร์เอสแล้ว ตลอดเส้นทางก็ยังมีหนามกุหลาบโรย ทั้งจากคนที่ได้ร่วมงานและจากคนห่างไกล

“จริงๆ แล้วเราก็ผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ชีวิตคงโชคดีกว่าหลายคน แล้วด้วยความที่มีคำจำกัดความว่าลูกทุ่ง เลยมีอะไรผิดกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย เรื่องสั้นที่โดนด่า แล้วมามีข่าวกับพี่วี (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) คนก็เกลียดหนักไปอีก ลูกทุ่งอะไรมาได้กับพระเอก”

“เข้ามาอาร์สยาม คนก็สงสัยว่าเป็นเด็กพี่เณร (ศุภชัย นิลวรรณ ผู้บริหารค่าย) แต่ไม่ใช่เลย โดนดองมาตั้งนาน ไม่เคยได้สบายเหมือนข่าวออก แล้วเราทำงานด้วยหน้าที่ ไม่ได้รู้เรื่อง เพราะตื่นมาก็มีงานให้ทำ ไม่ได้เห็นหรอกว่าคนเกลียดเราแค่ไหน”

พอมีเพจแอนตี้ก็ทำเอางง

“เจอรายแรกในประเทศเลยนะ เป็นศิลปินแกนนำที่มีแอนตี้และมีเว็บคนเกลียด”

กับเสียงวิจารณ์ต่างๆ นานาที่เจอ ใบเตยว่าทุกครั้งที่โดน เธอก็รู้สึก แต่ถึงอย่างนั้นถ้ามั่นใจว่าสิ่งที่ทำไม่ใช่เรื่องผิด เธอก็ไม่เปลี่ยน

“เราเป็นตัวของตัวเองมาก ไม่มีทางเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่น เพื่อเงิน หรือเพื่ออะไร เป็นศิลปินคนแรกที่เฮีย (ฮ้อ-สุรชัย เชษฐ์โชติศักดิ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ห้ามอะไร ทำหมด”

กฎ ณ ขณะนั้นที่ห้ามมีแฟน ห้ามแต่งโป๊ ห้ามชุดว่ายน้ำ เลยถูกแหกเรียบ

“มันคือเราน่ะ ทำไมเราต้องโกหกคนอื่นว่าเราเรียบร้อย”

“เราอยู่มาได้ทุกวันนี้ก็เพราะตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องทำงาน ตั้งแต่เราอายุ 19 เราดูแลทั้งหมด”

“ตอนนี้บ้านมี 3 หลัง รถ 6 คัน”

และร้านอาหารที่ จ.นครศรีธรรมราช ที่เปิดให้คุณแม่อีกแห่ง

“เราสู้มาทุกอย่าง ถึงได้มาเป็นใบเตยอย่างทุกวันนี้”