ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2559 |
---|---|
คอลัมน์ | ภาพยนตร์ |
ผู้เขียน | นพมาส แววหงส์ |
เผยแพร่ |
ค.ศ.1630 เป็นเวลาที่กำหนดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน The Witch
ปีนั้นอยู่ในอเมริกายุคอาณานิคม ชาวอังกฤษรุ่นแรกๆ ที่เรียกกันว่าพวกพิวริตันอพยพมาสู่โลกใหม่ในทวีปอเมริกา ตั้งถิ่นฐานในดินแดนที่รู้จักกันต่อมาว่า “อังกฤษใหม่” หรือนิวอิงแลนด์
พวกพิวริตันเป็นคนอังกฤษที่ต้องการปฏิรูปศาสนานิกายเชิร์ชออฟอิงแลนด์โดย “ทำให้บริสุทธิ์” หรือ purify จากโรมันคาทอลิกภายใต้อิทธิพลของสันตะปาปา
คำว่า “พิวริตัน” สมัยต่อๆ มา ใช้กันในความหมายที่พูดถึงคนที่ยึดถือหลักการศาสนาหรือศีลธรรมที่เข้มงวดและไม่แสวงหาความสุขทางโลก แต่พวกพิวริตันก็ยังยอมให้แก่การหาความสุขด้วยเพศสัมพันธ์ภายใต้สัตยาบันของการสมรส
คนพวกนี้เกรงกลัวพระเจ้า และกลัวการทำบาปเป็นที่สุด และสั่งสอนลูกๆ ให้สวดมนต์และประณามการทำชั่วทั้งปวง ซึ่งถือเป็นบาปขั้นรุนแรงถึงขั้นไม่ได้ขึ้นสวรรค์ และต้องตกนรกหมกไหม้ตลอดกาล
การใช้ชีวิตด้วยความกลัวบาป และความกลัวโดยไร้เหตุผล กลับส่งผลลัพธ์ในทางตรงข้าม ต่อพวกที่ “มีตราบาปอยู่ในใจ” และสร้างลัทธิบูชาซาตานขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
นี่คือบรรยากาศและความคิดความเชื่อของกลุ่มชาวอังกฤษที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในอเมริการุ่นแรกๆ
The Witch สร้างเหตุการณ์ขึ้นจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ รวมทั้งคำให้การของผู้คนในกรณีการพบ “แม่มด” และลัทธิการบูชาซาตาน
บทสนทนาจึงเป็นภาษาอังกฤษโบราณแบบที่ผู้คนพูดกันในยุคนั้น และผู้เขียนบทหยิบยกมาให้ตัวละครพูดจากัน อาจฟังยากสักหน่อย แต่ก็ให้สีสันตามประวัติศาสตร์แก่เนื้อหาของหนังย้อนยุคเรื่องนี้
หนังเปิดเรื่องขึ้นในการพิจารณาคดี ที่มีวิลเลียม (ราล์ฟ อิเนสัน) เป็นจำเลย โทษฐานเป็นชาวคริสต์จอมปลอม โดยปฏิบัติตนหรืออวดอ้างพระวจนะผิดๆ
ต้องบอกว่ามาตรฐานของความผิดความถูกในที่นี้ ล้วนอาศัยการตีความทั้งสิ้น และวิลเลียมซึ่งหัวแข็งไม่ยอมอนุโลมตาม จึงถูกเนรเทศให้ไปใช้ชีวิตนอกชุมชนไกลโพ้น
สิ่งนี้ วิลเลียมจะได้ตระหนักในเวลาต่อมาเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างสายเกินไปเสียแล้ว คือความยโสของเขาเป็น “บาป” ชนิดหนึ่ง และความยโส หรือ pride นั้นก็เป็นหนึ่งในเจ็ดของบาปมหันต์ในคริสต์ศาสนา
วิลเลียมเพิ่งจะพาครอบครัวข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากอังกฤษไม่เท่าไร ยังไม่ทันจะลงหลักปักฐานในโลกใหม่ แต่มาถูกขับออกจากชุมชน เป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ ต้องหลบลี้หนีหน้าจากผู้คนไปตั้งบ้านเรือนโดดเดี่ยวอยู่ชายป่า
ครอบครัวของเขาประกอบด้วยภรรยาชื่อแคเธอรีน (เคต ดิกกี้) ลูกสาววัยรุ่นชื่อโทมาซิน (อันยา เทย์เลอร์-จอย) ลูกชายที่กำลังจะแตกเนื้อหนุ่มชื่อ เคเล็บ (ฮาร์วีย์ สกริมชอว์) ลูกฝาแฝดชื่อเมอร์ซี่ (เอลลี เกรนเจอร์) กับโจนาส (ลูคัส ดอว์สัน) และลูกชายแบเบาะชื่อแซมวล
วิลเลียมเป็นคนตัดไม้ ล่าสัตว์ไม่เป็น เพาะปลูกไม่เป็น งานอย่างเดียวที่เราเห็นเขาทำอย่างประสบความสำเร็จคือการผ่าฟืน และครอบครัวจึงอดอยาก เพราะพืชผลไม่งอกงาม ลูกๆ ถูกห้ามไม่ให้ย่างกรายเข้าไปในป่าซึ่งอาจมีความชั่วร้ายแฝงอยู่
สิ่งที่เด็กแฝดเล่นกันอย่างที่ดูไร้เดียงสาในตอนแรกคือ ท่องอาขยานเกี่ยวกับ “แบล็กฟิลลิป” ซึ่งเป็นแพะดำตัวใหญ่ ที่วิลเลียมจับขังไว้ในคอก
ความกลัวในบาปตราตรึงในจิตใจของตัวละครทุกตัวในเรื่อง และการใช้ชีวิตอย่างเข้มงวดไร้ความสนุกสนานสำราญใจก็ส่งผลต่อสุขภาพจิต
โทมาซินสวดมนต์สารภาพบาปที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ และคิดอะไรนอกลู่นอกทาง
เช่นเดียวกับเคเล็บซึ่งลอบมองทรวงอกของพี่สาวอย่างพิศวงและอยากรู้อยากเห็น
วิลเลียมเอาเครื่องเงินของภรรยาไปขายแลกกับปืนล่าสัตว์โดยไม่ได้บอกภรรยา ทำให้โทมาซินถูกแม่ดุด่าและประณามว่าเป็นขโมย
ตัวแคเธอรีนเองก็มีบาปผิดอยู่ในใจในเรื่องทารกคนใหม่ที่เพิ่งคลอด
เหตุการณ์เลวร้ายทั้งหลายประดังประเดเข้ามา รวมจุดอยู่ที่การหายตัวไปของทารกแซมวล ขณะที่โทมาซินกำลังเล่นปิดตาจ๊ะเอ๋กับเด็กน้อย ครั้งหนึ่งเมื่อเปิดตามาจ๊ะเอ๋ ก็พบเบาะว่างเปล่า ไม่มีร่องรอยของทารกอยู่ด้วย
การตามหาเด็กที่หายตัวไป นำไปสู่เหตุการณ์ที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ในครอบครัวที่โดดเดี่ยวไร้ที่พึ่งพา นำไปสู่ความระแวงสงสัยในกันและกัน และการกล่าวหาอย่างผิดๆ
หนังสร้างบรรยากาศได้อย่างเยี่ยมยอด ความระทึกใจและสงสัยใคร่รู้ทวีเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ การแสดงของนักแสดงทุกคน โดยเฉพาะเด็กๆ เยี่ยมยอดตรึงตรา จากนี้ไป เชื่อเลยว่าเราจะต้องได้เห็น อันยา เทย์เลอร์-จอย เล่นหนังใหญ่ๆ อีกต่อไป
นี่ไม่ใช่หนังสยองขวัญแบบใช้มุขเขย่าขวัญหลอกให้เราตกใจ แต่สร้างเรื่องที่ทวีความเข้มข้นให้เรานั่งแทบไม่ติดที่ เป็นหนังประเภท “น่ากลัว” ที่ทำได้ยอดเยี่ยม
หลังจากทั้งหลายทั้งปวงแล้ว ผู้เขียนก็ยังมีข้อติติงใหญ่ๆ อยู่กับเรื่องราวเหนือธรรมชาติของหนัง ซึ่งถึงแม้จะสอดแทรกไว้เพียงพอประมาณ และไม่ได้น่าเกลียดน่ากลัวแบบหนังผีทั่วไป แต่ผู้เขียนก็ยังนึกเสียดายว่าทำให้หนังหวือหวาและหลุดโลกเกินไป
ถ้าหากว่าเน้นในลักษณะของจิตวิทยาล้วนๆ โดยหลีกเลี่ยงการนำเสนอสิ่งเหนือธรรมชาติอย่างโจ่งแจ้งเสีย น่าจะทำให้หนังมีน้ำหนักและชวนคิดมากกว่านี้อีกเยอะ
นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นราวหกสิบปีก่อนหน้า และเป็นส่วนหนึ่งที่นำไปสู่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่เรียกกันว่า “การพิจารณาคดีแม่มดที่เมืองเซเล็ม” ในช่วง ค.ศ.1692-1693 ซึ่งคนยี่สิบคนถูกตัดสินประหารชีวิตโทษฐานกระทำการในลัทธิบูชาซาตานและสาปแช่งเพื่อนบ้านด้วยเวทมนตร์ของแม่มด
ซึ่ง อาร์เธอร์ มิลเลอร์ นักเขียนบทละครชาวอเมริกัน นำมาเขียนเป็นบทละครชื่อ The Crucible โดยมีความบันดาลใจจะเปรียบเทียบให้เห็นความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์การตามล่าคอมมิวนิสต์ ซึ่งเรียกกันว่า “การล่าแม่มดของวุฒิสมาชิกแม็กคาร์ธี” เหตุการณ์ช่วงนี้ได้รับการนำเสนอในหนังเรื่อง Trumbo เมื่อปีที่แล้วนี้เอง
The Witch เป็นหนังน่าดูเรื่องหนึ่งสำหรับคอหนังนอกกระแส ด้วยฝีมือเยี่ยมยอดและงานสร้างสรรค์สวยงามของผู้กำกับฯ มือใหม่ โรเบิร์ต เอกเกอร์ส ที่สร้างเรื่องเองกำกับฯ เองเสร็จสรรพ
THE WITCH
กำกับการแสดง
Robert Eggersนำแสดง
Anya Taylor-Joy
Ralph Ineson
Kate Dickie
Harvey Scrimshaw