ไม่น่าเชื่อว่างานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 89 ที่เพิ่งผ่านมา จะเกิดเหตุการณ์ “จดหมายผิดซอง” แบบเพลงสุดฮิตของ คุณมนต์สิทธิ์ คำสร้อย เมื่อ 20 ปีก่อน

เหตุเกิดขึ้นเมื่องานดำเนินมาถึงการประกาศรางวัลสุดท้ายซึ่งถือว่าเป็นรางวัลใหญ่สุดคือภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

ผู้ประกาศรางวัลคือ เฟย์ ดันนาเวย์ (76 ปี) และ วอร์เร็น เบ็ตตี้ (79 ปี) คู่พระเอกนางเอกหนังเรื่องบอนนี่ แอนด์ ไคลด์ (Bonnie and Clyde) ภาพยนตร์อมตะที่หนุ่มสาวไทยเมื่อราวๆ 50 ปีก่อนโน้นยังไม่ลืม

ทั้งสองคนเปิดซองคำตัดสินแล้วประกาศว่า “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปีนี้ได้แก่….ลา ลา แลนด์”

สิ้นเสียงประกาศก็มีเสียงเฮดีใจของทีมลา ลา แลนด์ และกองเชียร์ดังลั่น

คณะผู้สร้างและดาราของหนังเรื่องนี้เกือบ 20 คนขึ้นไปรับรางวัลบนเวที หัวหน้าทีม 3 คน ผลัดกันกล่าวขอบคุณผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ และขอบคุณครอบครัวของตัวเองที่ให้กำลังใจมาตลอด

แต่หลังจากทีมลา ลา แลนด์ พูดขอบคุณไม่ทันจบก็มีการประกาศว่าหนังเรื่องมูนไลต์ (Moonlight)ได้รางวัลนี้ พร้อมกับโชว์แผ่นกระดาษผลการตัดสินให้กล้องทีวีถ่ายทอดสดจับภาพอย่างชัดเจน บนเวทีชุลมุนพอประมาณเพราะทีมลา ลา แลนด์ ทุกคนยังไม่เดินลงมา

กลายเป็นเรื่องช็อกโลกแบบเดียวกับการประกาศผลและสวมมงกุฎมิสยูนิเวิร์สผิดคนเมื่อปี 2016

ถามว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างไรในงานออสการ์?

สาเหตุที่ประกาศผลผิดเพราะตัวแทนของบริษัทไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PricewaterhouseCoopers หรือ PWC) ซึ่งเป็นบริษัทที่รับผิดชอบเรื่องการนับคะแนนผลรางวัลออสการ์ ส่งประกาศผลรางวัลผิดซองให้ วอร์เร็น เบ็ตตี้ ตอนก้าวขึ้นเวที โดยยื่นซองผลรางวัลดารานำแสดงหญิงยอดเยี่ยม ที่มีชื่อ เอ็มม่า สโตน และชื่อภาพยนตร์ La La Land อยู่ในใบประกาศผล

โดยพิมพ์ว่าชื่อ Emma Stone บรรทัดบน

และชื่อหนัง La La Land บรรทัดล่าง

ตอนที่ วอร์เรน เบ็ตตี้ เปิดซองประกาศผล และดึงใบประกาศผลออกมา เขาอึ้งไปประมาณ 3 วินาที และพยายามตรวจดูในซองประกาศผลอีกครั้งว่ามีใบอะไรอย่างอื่นอีกรึเปล่า

ปรากฏว่าไม่มี จึงเงยหน้ามองกล้องพร้อมที่จะประกาศผล แล้วก็อึ้งไปอีกรอบ และหันไปมองด้านข้างเวทีเหมือนจะขอความช่วยเหลือจากทีมงาน ซึ่งสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมในโรงละครจัดงานเพราะนึกว่า วอร์เรน เบ็ตตี้ เล่นมุข

ขณะเดียวกัน เฟย์ ดันนาเวย์ ที่ไม่รู้ว่าจดหมายผิดซองก็รอคิวที่จะประกาศผล เพราะตามคิวที่ซ้อมกันก่อนวันจริง เฟย์ ดันนาเวย์ จะเป็นคนประกาศชื่อภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัล

หลังประกาศรางวัลผิด เกิดความสับสนบนเวทีอยู่เกือบสองนาที ก่อนที่ วอร์เร็น เบ็ตตี้ จะออกมาอธิบายว่า ผลประกาศที่อยู่ในมือเขานั้นผิดซอง จิมมี่ คิมเมล พิธีกรงานออสการ์ในปีนี้ พยายามทำบรรยากาศให้ผ่อนคลายด้วยการพูดตลกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เขาขอโบ้ยความผิดให้กับ สตีฟ ฮาร์วีย์ พิธีกรชื่อดัง ที่ประกาศผลมิสยูนิเวิร์สผิดเมื่อปีที่แล้ว และเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลก

ทันทีหลังจากประกาศผลออสการ์ผิด ทางกองประกวด Miss Universe ก็มีอารมณ์ขัน ทวีตข้อความไปถึงผู้จัดงานออสการ์ ผ่านทางทวิตเตอร์ @MissUniverse ว่า Have your people call our people – we know what to do. #Oscars “ให้คนของคุณโทร.หาคนของเรา – เรารู้ว่าต้องจัดการอย่างไร”

ส่วน สตีฟ ฮาร์วีย์ ก็ทวีตข้อความแซว วอร์เรน เบ็ตตี้ ผ่านทางทวิตเตอร์ของเขา @IamSteveHarvey ว่า Call me Warren Beatty. I can help you get through this! #Oscars “โทร.หาผม วอร์เรน เบ็ตตี้ ผมสามารถช่วยคุณให้ผ่านพ้นเรื่องนี้ได้!”

บริษัทไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส เป็นสำนักงานบัญชีและบริการธุรกิจที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งทำหน้าที่นับคะแนนให้กับการประกาศผลออสการ์มายาวนานถึง 83 ปี ยอมรับผิดทั้งหมด

ไบรอัน คัลลิแนน (Brian Cullinan) ประธานบริษัทไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส ภาคพื้นอเมริกา เป็นหนึ่งในสองตัวแทนบริษัทที่ดูแลเรื่องผลรางวัลออสการ์ ยอมรับว่าเป็นความผิดของเขาเองที่ยื่นซองประกาศผลผิดให้กับ วอร์เรน เบ็ตตี้

ไบรอัน คัลลิแนน ทำหน้าที่นี้ตั้งแต่ปี 2014 ส่วนคนทำหน้าที่ส่งซองผลการตัดสินให้ผู้ประกาศอีกคนชื่อ มาร์ธา รูอิซ (Martha Ruiz) เริ่มปี 2015

ทั้ง 2 คนนี้เป็นตัวแทนเพียงสองคนของบริษัทที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องการนับคะแนนและพิมพ์ผลรางวัลออสการ์แล้วบรรจุใส่ซองด้วยตัวเองโดยไม่มีการพิมพ์ชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลใส่โพยกระดาษเพราะเกรงว่าจะเล็ดลอดก่อนวันงาน

แต่ใช้วิธีท่องจำชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลออสการ์ทั้ง 24 สาขา จนขึ้นใจ

สําหรับผู้ที่มีสิทธิ์โหวตลงคะแนนรางวัลออสการ์คือสมาชิกของสถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์การภาพยนตร์ (Academy of Motion Picture Arts and Sciences) มีจำนวนกว่า 7,000 คน ซึ่งเป็นคนในวงการบันเทิงทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง

โดยขั้นแรกสมาชิกจะได้รับบัตรลงคะแนนให้เสนอชื่อผู้เข้าชิงก่อนราวปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และต้องส่งบัตรเสนอชื่อเข้าชิงกลับคืนภายในต้นเดือนมกราคม

หลังจากนับผลคะแนนแล้วว่าใครบ้างที่ทำคะแนนติดอันดับอยู่กลุ่มได้รับการเสนอเข้าชิง ราวๆ ปลายเดือนมกราคมก็จะมีการส่งบัตรลงคะแนนรอบสองให้สมาชิกเพื่อโหวตผู้ชนะ โดยจะมีเพียง ไบรอัน คัลลิแนน และ มาร์ธา รูอิซ เท่านั้นที่ทราบว่าใครเป็นผู้ได้รับรางวัลออสการ์

ทั้งสองคนใช้เวลาสามวันในการนับผลคะแนน จะเริ่มนับคะแนนตอนกลางคืนวันอังคาร โดยช่วงนี้จะไม่ติดต่อสื่อสารกับใครทั้งนั้นเพราะเป็นความลับสุดยอด

จากนั้นในวันเสาร์-หนึ่งวันก่อนวันงานออสการ์ก็จะพิมพ์ชื่อผู้ได้รางวัลใส่ซอง ปิดซองแน่นหนา จากนั้นก็จะเก็บไว้ในตู้เซฟ

และเช้าวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันงาน ก็จะเปิดตู้เซฟ นำซองประกาศผลใส่ในกระเป๋าเจมส์บอนด์คนละใบ

สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนถือกระเป๋าเจมส์บอนด์กันคนละใบก็เพราะซองผลรางวัลที่ใส่ซองนั้นทำสองชุด ชุดละ 24 ซอง ใส่ไว้ในกระเป๋าเจมส์บอนด์คนละใบ

จากนั้นทั้งสองคนนี้ก็จะนั่งรถคนละคันเพื่อเดินทางไปยังสถานที่จัดงานออสการ์ นี่เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรักษาความปลอดภัยเผื่อมีการดักปล้นซองประกาศรางวัล หรือเกิดปัญหารถเสีย รถติด

เมื่อมาถึงเวทีจัดงานออสการ์ ไบรอัน คัลลิแนน และ มาร์ธา รูอิซ ก็จะแยกกันยืนคนละฝั่งเวที ขวาและซ้าย และต่างคนต่างถือกระเป๋าเจมส์บอนด์ที่ใส่ซองผลรางวัลออสการ์ 24 ซองเพราะผู้ประกาศผลรางวัลออสการ์นั้นเดินขึ้นเวทีจากทั้งด้านซ้ายและขวาแล้วแต่การจัดคิวของคนจัดงาน

ผู้ประกาศผลเดินขึ้นเวทีด้านไหน คนที่ยืนด้านนั้นก็ยื่นซองให้ก่อนปรากฏตัวหน้าเวที

ก่อนหน้างานออสการ์ไม่นาน ไบรอัน คัลลิแนน ให้สัมภาษณ์ว่าการยื่นซองผลรางวัลออสการ์เป็นงานไม่ซับซ้อน แต่ต้องมั่นใจว่าไม่ยื่นซองผลรางวัลผิดซองให้กับผู้ประกาศ!!!

ที่แย่ยิ่งกว่าก็คือ ประมาณ 3 นาทีก่อน เฟย์ ดันนาเวย์ และ วอร์เร็น เบ็ตตี้ ปรากฏตัวหน้าเวที เพื่อประกาศรางวัล ไบรอัน คัลลิแนน โพสต์รูป เอ็มมา สโตน ถือรางวัลออสการ์หลังเวทีหลังจากรับรางวัลหมาดๆ

ทำให้ถูกวิจารณ์ว่ามัวแต่ถ่ายรูปลงทวิตเตอร์ เลยส่งซองประกาศผลรางวัลผิดให้ วอร์เร็น เบ็ตตี้!

ผู้จัดงานออสการ์ตั้งใจเซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการเชิญสองนักแสดงระดับตำนานของฮอลลีวู้ด เฟย์ ดันนาเวย์ และ วอร์เร็น เบ็ตตี้ มาประกาศผลออสการ์รางวัลสุดท้าย และถือว่าเป็นรางวัลสำคัญที่สุดของงาน คือ รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ Best Picture

สาเหตุที่เชิญ เฟย์ ดันนาเวย์ และ วอร์เร็น เบ็ตตี้ ก็เพราะปีนี้เป็นปีครบรอบ 50 ปีของภาพยนตร์อมตะตลอดกาลของโลกที่ทั้งสองร่วมเล่นด้วยกัน คือ Bonnie and Clyde หรือชื่อภาษาไทยว่า “หนุ่มห้าว สาวเหี้ยม” สร้างจากเรื่องจริงของบอนนี่และไคลด์ สองคู่รักหนุ่มสาว ซึ่งเป็นโจรปล้นธนาคาร ร้านค้า และปั๊มน้ำมันในอเมริกา ระหว่างปี 1932 ถึงปี 1934 ที่ทั้งสองถูกจับตาย

แล้วทั้ง เฟย์ ดันนาเวย์ และ วอร์เร็น เบ็ตตี้ ก็สร้างเซอร์ไพรส์ได้สุดๆ และยังไว้ลายบทบาทสองโจร Bonnie and Clyde ด้วยการขโมยซีนออสการ์ปีนี้ไปเต็มๆ