รายงานพิเศษ : คิดอย่าง “เจนนิเฟอร์ คิ้ม” “ช่างมัน ฉันต้องหายใจต่อไป”

ก่อนหน้านี้ เวลาคุยกับใครเรื่อง “แผนชีวิต” บ้างก็มาในเรื่องของการงาน การดูแลสุขภาพ หรือไม่ครอบครัว หรือความรัก

หากสำหรับ เจนนิเฟอร์ คิ้ม-พรพรรณ ชุณหชัย เธอบอกชัด “ไม่ค่ะ ไม่มี”

“ทั้งชีวิตไม่เคยวางแผนอะไรเลย”

“แค่พร้อม” ฟังดูอาจรู้สึกอี๋ย์ย์-ก็อะไรจะต้องตอบให้อาร์ตขนาดนั้น!!

แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งหมั่นไส้ ด้วยเอาเข้าจริง ที่เธอเป็นอย่างนั้นเพราะประสบการณ์สอนไว้

“เวลาวางแผนเมื่อไหร่ ชีวิตจะพัง สมมุติจะไปเที่ยว จะไม่สามารถจองที่พัก จองตั๋ว เพราะงานมันจะเข้าในช่วงที่จะไป ก็ต้องทิ้งบัตร ทิ้งตั๋ว ทิ้งทุกอย่าง เพราะเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ที่งานมา เราจะทิ้งทุกอย่าง แล้วไปทำงาน”

ทั้งนี้ หลักการ “ทิ้ง” ไม่ได้จำกัดเฉพาะเรื่องเที่ยว ด้วย “สำหรับเรางานมาก่อนเสมอ”

“ดังนั้น จึงเป็นคนไม่แพลนอะไร แค่ทำทุกวันให้มันดี ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เมื่อวันหนึ่งจังหวะมันเข้ามา จะได้พร้อมเลยที่จะทำสิ่งนั้น”

“คนอาจมองว่าใช่สิ แกประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วนี่ ถึงใช้ชีวิตแบบนี้ได้”

แต่ “ไม่เลย”

เพราะ “ก่อนจะประสบความสำเร็จเราก็ใช้ชีวิตแบบนี้ ทำแบบนี้ คือทำให้ดีทุกๆ วัน”

“แล้วถ้าคนอย่างเราเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้จนอายุจะ 50 ก็ลองคิดดูว่าคุณค่าของคนอยู่ที่ผลของงานจริงไหม มันคือการพยายามและการรอคอย ถ้าคุณคิดว่าคุณแก่ คิดว่าหมดไฟ คิดว่าไม่เอาไหน ก็แพ้ตั้งแต่ในมุ้งแล้ว แต่การทำไปเรื่อยๆ คนเห็นก็ดี ไม่เห็นก็ไม่เป็นไร ไม่เห็นก็ยังรู้สึกว่าเราได้พัฒนาตัวเองในทุกๆ วัน ได้ก้าว ได้ทำให้ลมหายใจมีคุณค่า”

ทำๆๆๆ แล้วถ้าเหนื่อย หรือรู้สึกล้าเมื่อไหร่ ก็ให้นึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไว้-บอกอีก

“พระองค์ไม่เคยพักเลยจนกระทั่งเสด็จสวรรคต เทียบกับพระองค์แล้ว สิ่งที่เราทำถ้าได้สักเสี้ยวหนึ่งของพระองค์ก็ดีแล้ว และเราก็ต้องดำเนินต่อไป”

“ต่อไป” แบบถ้าไม่คาดหวังได้จะดียิ่ง

เพราะ “โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน” นักร้องคนดังยกคำสอนทางศาสนามาประกอบ

ดังนั้น “อย่าทุกข์มากไป อย่าสุขมากไป ทำทุกวันให้ดีที่สุด วันนี้สนุกมาเต็มที่แล้ว พรุ่งนี้ทำอะไรดีๆ สักอย่างหนึ่ง วันนี้เราทำแย่ๆ พรุ่งนี้ก็แก้ตัวใหม่ อย่างนี้ไปเรื่อยๆ”

ถามไปว่าช่วงชีวิตที่ผ่านมาสำหรับเธอเป็นอย่างไร

“ไม่เคยคิดว่าแต่ละปีมันแย่หรือว่ามันอะไรเลยนะ” เจนนิเฟอร์ คิ้ม บอก

“คิดแค่ว่าแต่ละปีมันสอนให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้พร้อมกับอนาคตที่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราเองแข็งแรงขึ้นทุกๆ ปี จริงอยู่ สังขารร่างกายเสื่อมไปกับวัย เวลา แต่ว่าใจเราต้องพร้อมรับกับสิ่งต่างๆ”

ทุกวันนี้เธอจึงพยายาม “ไวกับสิ่งแวดล้อม ตามสถานการณ์ต่างๆ ให้ทัน ชั่วโมงนี้เขาทำอะไรกัน เป็นอะไรกัน อย่าตกหรือหลงยุค”

“เพราะตกหรือหลง แปลว่าหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองเคยประสบความสำเร็จมากที่สุด และเอาสิ่งนั้นเป็นที่ตั้ง ไม่นะ ต้องโละใหม่ ล้มกระดานนั้นไป อย่าเปรียบเทียบกับอะไรที่ตัวเองมี ตัวเองเคยเป็น แล้วมันจะกลายเป็นแข่งกับตัวเองใหม่ไปเรื่อยๆ เพราะถ้าเรายึดอยู่ตรงนั้น เราจะบอกว่าชีวิตเราตกต่ำ เพราะเราเคยสูงแล้ว และถ้าคิดว่ามันตกต่ำอยู่เรื่อยๆ และมันไม่ยอมสูงสักที ทำไมชีวิตแย่ขนาดนี้ ทำไมเราไปไม่ถึง คงไม่ดี เพราะคนเราต้องอยู่ได้ด้วยการมีความหวัง”

“การอยู่อย่างมีความหวังคือการมองโลกในแง่ของความจริงที่กลางๆ”

เนื่องจาก “โลกนี้มันไม่มีดีที่สุดหรอก เลวที่สุดก็ไม่มี และเราก็ไม่ใช่คนที่ดีที่สุด เตือนตัวเอง มีสติอยู่ตลอดเวลาที่จะทำอะไร ดังนั้น แต่ละปีจึงไม่ได้เป็นปีที่แบบนั้น แบบไหน และไม่ใช่ปีใหม่ เอาใหม่ เหมือนเขียนที่หน้ากระดาษเสร็จ แล้วขยำๆ ยัดลงถังขยะ เลิกประเมินผลอะไรต่างๆ”

“สิ่งที่ผ่านๆ มาในแต่ละปีจะสอนให้เรามีประสบการณ์ แล้วเราก็จะแม่นยำต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ต่อผู้คน สภาพแวดล้อมต่างๆ”

ในแง่ของการใช้ชีวิตนักร้องคนดังยังบอกอีกว่า เธอเป็นคนประเภทที่สามารถให้ของขวัญตัวเองได้ทุกวัน

“แล้วถ้าอยากได้อะไร จะไม่อ้างว่าเป็นของขวัญ จะบอกว่าก็ฉันอยากได้อ่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตายไปแล้วฉันจะไม่ได้ใช้ มีเงินก็ซื้อไป ไม่เดือดร้อนใครก็ซื้อมา”

“แต่บางสิ่งบางอย่างควรปล่อยให้มันเป็นแค่ความฝัน เพราะตอนเป็นความฝัน มันจะเหมือนตอนที่เราหลงชอบผู้ชายคนหนึ่งแล้วยังไม่ได้คบกัน ผู้ชายคนนี้จะดีมาก หล่อมาก”

หากเมื่อได้คบแล้ว ก็อาจพบว่ามีอะไรที่ไม่ดีมาก-มากอยู่เช่นกัน

“บางคนมาปรึกษาว่าฉันอยากเสียเงินเลี้ยงผู้ชาย เชิญ ฉันอยากเปย์ผู้ชายคนนี้โดยที่ไม่ได้มันมาเลย เชิญ จะบอกกับเพื่อนว่าทุกคนมีงบฯ ของตัวเอง เที่ยว กิน แต่งตัว ศัลยกรรม ทำบุญ หรือเอาเงินไปเที่ยวผู้ชาย อะไรก็แล้วแต่ที่อยากทำ เพราะเราไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร เวลาอยากทำก็คิดแค่คำเดียว รับผิดชอบชีวิตตัวเองเสร็จแล้วหรือยัง รับผิดชอบคนที่เรารักเสร็จแล้วหรือยัง ที่เหลือก็เป็นของเรา”

“แล้วไม่ต้องไปเปรียบกับคนอื่นที่ดีกว่า หรือที่ตกต่ำกว่า เพราะถ้าเทียบกับคนที่ดีกว่า เราจะรู้สึกด้อยค่ามาก แต่ถ้าเทียบกับคนที่ต่ำกว่า ก็เป็นการให้กำลังใจตัวเองอย่างที่ไม่พัฒนา”

“อย่างบางคนบอกว่าให้ลูกมานั่งเล่นเกมที่ไม่มีประโยชน์ยังดีกว่าให้ลูกไปติดยา แต่มันก็หาสาระไม่ได้เหมือนกันไหมคะคุณ ดังนั้น เปรียบเทียบแค่ในแต่ละวันเราเอาตัวรอดได้ไหม ถ้ารอดได้แล้วก็พอ อย่างฉันแฮปปี้แล้ว วันนี้กินอิ่มแล้ว ขี้ออกแล้ว นอนหลับแล้ว จบ พรุ่งนี้เอาแรงไปทำงานใหม่”

ทำดีที่สุดต่อไป เพื่อรอโอกาสเหมาะๆ ที่เข้ามา

“อยากให้ทุกคนอยู่อย่างมีความหวัง มองโลกอย่างมีความหวัง”

และถ้าหากจะมีคนมองว่าเพ้อ หรืออยู่ในสวย ก็ไม่ต้องสนใจ

“ใครจะว่าเพ้อช่างมัน”

“ฉันต้องหายใจต่อไป”