เผยแพร่ |
---|
จากตัวเลขคาดการณ์จำนวนประชากรโลกที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 9 พันล้านคน ในปี 2593 เป็นความท้าทายในการสร้างความมั่นคงทางอาหารของโลก ภายใต้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดในปัจจุบัน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมอาหารและภาคปศุสัตว์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในฐานะ “ผู้ผลิต” ต้องวิจัยและพัฒนาเชิงรุกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้เพียงพอ และตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต ที่สำคัญต้องเป็นการผลิตที่เป็นมิตรกับมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม
เพื่อผลิตอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยา ค้นพบว่าโปรไบโอติก (Probiotics) หรือ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก (Micro Organism)ที่เรียกกันว่าจุลินทรีย์หลายชนิดมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์ เพื่อส่งเสริมระบบการย่อยอาหาร การทำงานของลำไส้ เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหาร ตลอดจนสามารถสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อโรคขึ้นในร่างกายได้ ซึ่งดีต่อสุขภาพของทั้งคนและสัตว์ที่ได้รับ ทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความมั่นคงทางอาหารในห่วงโซ่อาหารของสิ่งมีชีวิต
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับโลก ทำงานวิจัยเรื่องโปรไบโอติก ร่วมกับ สถาบันระดับโลก เช่น Elanco ,Dupont , Chr. Hansen ,Adisseo นานกว่า 5 ปี เพื่อพัฒนาและคิดสายพันธุ์โปรไบโอติกที่ดีที่สุด เหมาะสมกับสายพันธุ์หมูและไก่ของซีพีเอฟ โดยศึกษาจุลินทรีย์กว่า 125,000 สายพันธุ์ และคัดเลือกเพียง 9 สายพันธุ์ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนานวัตกรรมอาหารสัตว์ ด้วยการเติมจุลินทรีย์โปรไบโอติกในอาหารสัตว์ทุกสูตรอย่างเหมาะสมทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ ช่วยให้ระบบการย่อยอาหารของ ไก่เนื้อ ไก่ไข่ หมูและกุ้ง ทำงานดีขึ้น สัตว์มีสุขภาพแข็งแรง ช่วยลดต้นทุนการผลิตจากการที่สัตว์ดูดซึมสารอาหารได้มากขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องให้อาหารเกินความจำเป็น และยังช่วยลดของเสียที่เกิดจากการขับถ่ายของสัตว์ด้วย เช่น ลดปริมาณไนโตรเจนในมูลสุกรแลมูลไก่ไข่ลง ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ดร. ไพรัตน์ ศรีชนะ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สำนักวิชาการอาหารสัตว์ ซีพีเอฟ กล่าวว่า 70 % ของแบคทีเรียที่อยู่ในร่างกายจะอยู่ที่ทางเดินอาหาร ซึ่งระบบทางเดินอาหารต้องมีกำแพงคอยป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมจากที่กินผ่านเข้าไปสู่ร่างกาย จึงต้องมีระบบภูมิคุ้มกัน โปรไบโอติก ช่วยให้สัตว์มีภูมิคุ้มกันจากภายใน แข็งแรงตามวิถีธรรมชาติ ไม่ป่วย จึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาในการเลี้ยง
ซีพีเอฟ ยังได้พัฒนาสินค้าสดกลุ่ม หมู ไก่ และไข่ ภายใต้แบรนด์ “CP Selection” เป็นอีกหนึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่นำนวัตกรรมโปรไบโอติกมาใช้ในอาหารสัตว์ เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้สินค้า ด้วยหลักการ Natural Prevention เป็นการเสริมภูมิคุ้มกันให้สัตว์แข็งแรงตามธรรมชาติ เมื่อสัตว์แข็งแรง ไม่ป่วย ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฎิชีวนะ สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคในความปลอดภัย
ซีพีเอฟ ตระหนักดีว่าต้นทางของเนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพดี มาจากการกระบวนการเลี้ยงสัตว์ จึงให้ความสำคัญตั้งแต่การคัดเลือกและปรับปรุงสายพันธุ์สัตว์ อาหารสัตว์ การนำเทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยง เลี้ยงในโรงเรือนมาตรฐานหรือโรงเรือนระบบปิดควบคุมอุณหภูมิ ภายใต้หลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมสัตว์สุขภาพดีและเติบโตตามวัย ทำให้ได้เนื้อสัตว์คุณภาพดีและปลอดภัย ป้อนให้กับกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ขณะเดียวกัน ซีพีเอฟ ดูแลไปถึงการลดการสูญเสีย ในกระบวนการผลิต การใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตลอดห่วงโซ่การผลิต มุ่งสู่เป้าหมายการสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกในวันนี้และในอนาคต