สุจิตต์ วงษ์เทศ/ตาบ้องไล่ ยายรำพึง นางยมโดย ตำนานเขาเจ้าลาย (ชะอำ เพชรบุรี) และภูมิประเทศรอบอ่าวไทย

เขาเจ้าลาย เห็นแต่ไกลจากชายทะเลชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี (ภาพจากโดรนมติชน เมื่อมีนาคม 2561)

สุจิตต์ วงษ์เทศ

ตาบ้องไล่ ยายรำพึง นางยมโดย

ตำนานเขาเจ้าลาย (ชะอำ เพชรบุรี)

และภูมิประเทศรอบอ่าวไทย

เขาเจ้าลาย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้ชื่อจากนิทานเรื่องตาบ้องไล่ ยายรำพึง นางยมโดย สำนวนเก่าสุดและดั้งเดิมสุดเป็นลายลักษณ์อักษรอยู่สมัย ร.5
เจ้ากรุงจีนกับเจ้าลาย ต่างแย่งนางยมโดยเป็นคู่ครอง ตาบ้องไล่ผู้เป็นพ่อนางยมโดยตัดสินใจจับสองขาฉีกร่างนางยมโดยแบ่งปันให้สองคนแล้วโยนไปกลางทะเลกลายเป็นเกาะแก่งภูเขาเลากาต่างๆ
ส่วนสำนวนจากสมุดราชบุรี สมัย ร.6 ถูกดัดแปลงแล้วจนกร่อยไป
ตาบ้องไล่สำนวนเก่าสุดจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน แล้วมีผู้แต่งเป็นกลอนนิราศ อยู่ในนิราศตังเกี๋ย โดย หลวงนรเนติบัญชากิจ (แต่งสมัย ร.5 พ.ศ.2430) พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2478
ต่อมาคุรุสภาพิมพ์เผยแพร่ พ.ศ.2504 จะคัดคำอธิบายมาลงไว้ดังนี้

คำอธิบาย
ด้วยเมื่อปีกุน พ.ศ.2430 ฝรั่งเศสจะปราบปรามพวกฮ่อทางเมืองตังเกี๋ย การคาบเกี่ยวแก่พระราชอาณาเขต
ในเวลานั้นรัฐบาลฝรั่งเศส ขอให้มีข้าหลวงไทยไปด้วยกับกองทัพฝรั่งเศส เพื่อให้เป็นการสะดวกทั้ง 2 ฝ่าย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดข้าหลวงกอง 1 พระไพรัชพากย์ภักดี ทวน บุนนาค กระทรวงต่างประเทศเป็นหัวหน้า หลวงคำนวณ คัคนานต์ ศรี ปายะนันท์ กรมแผนที่ ซึ่งบัดนี้เป็นพระยาคำนวณคัคนานต์ กับ นายบรรหารภูมิสถิตย์ เผื่อน กรมแผนที่ เป็นข้าหลวงรอง รวมเป็นข้าหลวง 3 นาย ขุนปราบชลไชย ชุน ล่าม ซึ่งต่อมาได้เลื่อนเป็นหลวงขจรธรณีนาย 1 นายแวว กระทรวงต่างประเทศเป็นเลขานุการสำหรับจดหมายเหตุนาย 1 รวมเป็น 5 นาย ไปราชการครั้งนั้น
นายแวว เป็นบุตรขุนสารประเสริฐ นุชอาลักษณซึ่งเป็นจินตกวีมีชื่อเสียงในรัชกาลที่ 4 ได้แต่งหนังสือหลายเรื่อง เช่น ฉันท์สรรเสริญพระมหามณีรัตน์ ฉันท์กล่อมสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เป็นต้น
นายแววได้ศึกษากระบวนแต่งกาพย์กลอนในสำนักบิดา ไปราชการคราวนี้จึงแต่งนิราศเรื่องนี้เรียกว่านิราศตังเกี๋ย แต่เห็นจะเป็นเพราะนายแวว เป็นผู้รับราชการกระทรวง นิยมในทางราชการเป็นสำคัญ เช่นหม่อมราโชทัย (ม.ร.ว.กระต่าย อิศรางกูร ณอยุธยา) ที่แต่งนิราศลอนดอน ความในนิราศที่แต่งเป็นเล่าจดหมายเหตุการณ์ที่เดินทางเป็นสำคัญกว่าจะว่าในทางสังวาส เพราะฉะนั้น นิราศตังเกี๋ยนี้จะนับว่าเป็นจดหมายเหตุระยะทางที่ข้าหลวงไปครั้งนั้น แต่งเป็นกลอนก็ว่าได้ โวหารที่แต่งก็ไม่เลว จึงเห็นว่าควรพิมพ์ให้แพร่หลาย และรักษาสำนวนไว้อย่าให้สูญเสีย
นายแววนี้ไม่ใช่แต่แต่งกลอนได้อย่างเดียว เป็นผู้รักในการศึกษากฎหมายด้วย ต่อมาได้เป็นที่หมื่นพิพิธอักษร แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ไปช่วยราชการกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เมื่อโปรดให้เป็นข้าหลวงพิเศษจัดการศาลยุติธรรมเริ่มแรกในมณฑลกรุงเก่า ต่อมาได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นหลวงนรเนติบัญชากิจ ในกองข้าหลวงพิเศษ แล้วจึงได้ถึงแก่กรรม
หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ.2478

ตาบ้องไล่
บางตอนจากนิราศตังเกี๋ย
ตาบ้องไล่ยายรำพึงซึ่งมีบุตร บริสุทธิ์งามพริ้งยิ่งสมร
เรียกนางได้โดยชื่อลือขจร งนครกรุงจีนแสนยินดี
ให้ไทจือมาขอต่อตาบ้อง แก่ยกย่องให้เป็นพระมเหสี
จึงเตรียมขันหมากมาจากธานี ถึงวันดีจะสมานการมงคล
ฝ่ายเจ้าลายชายข้างตะวันตก ก็เพ้อพกรักรุ่มทุกขุมขน
ขอนางโดยต่อยายแม่พอแก้จน แก่ยกตนบุตรสาวให้เจ้าลาย
แห่ขันหมากมากระไรดูไม่น้อย ถึงสามร้อยสิ่งของกองถวาย
เขยทั้งสองพ้องกันเข้าทั้งบ่าวนาย ก็นัดหมายขอให้ส่งองค์บุตรี
แต่ตายายไม่รู้กันช่างขันนัก ทำงกงักอิ่มเอมเกษมศรี
ไม่ไต่ถามเหตุผลต้นคดี เพราะอยากมีลูกเขยไว้เชยชม
ก็ต่างคนต่างกริ่มขยิ่มเหงือก ไม่ต้องเลือกให้ลำบากยากขนม
เขาเป็นเชื้อธิบดีบุรีรมย์ เกิดนิยมเห็นงามไม่ถามกัน
ตาบ้องไล่จะส่งกับองค์เจ๊ก หางเปียเล็กรวยอู๋กินหมูหัน
ยายรำพึงก็จะให้เจ้าลายพลัน จำเพาะวันเดียวพ้องถึงสองคน
ไม่ตกลงงงอยู่จึ่งรู้เรื่อง ตาก็เคืองยายก็แค้นกว่าแสนหน
ต้องค้างค้านการวิวาห์เข้าตาจน ลงนั่งบ่นพึมพำกรรมของกู
ฝ่ายเจ้าจีนเจ้าลายโดนรายนึก พอรู้สึกกำสรดแสนอดสู
เมื่อดักลันปลาไหลมาได้งู มีศัตรูเพราะผู้หญิงต้องชิงนาง
ก็ต่างคนต่างเหี้ยมเตรียมทหาร จะรบราญเจ้าบุรีที่มีหาง
ตาบ้องไล่ให้ขยั้นเข้ากั้นกาง พูดเป็นกลางว่าอย่าแย่งจะแบ่งปัน
ฉวยลูกสาวฉีกกลางขว้างให้เขย มันตกเลยอยู่เป็นเกาะจำเพาะขัน
เรียกว่าเกาะนมสาวเท่าทุกวัน อยู่ฟากจันทบุรีมีพยาน
อีกซีกหนึ่งไปถึงตะวันตก อดห่อหมกบ่าวสาวทั้งคาวหวาน
เจ้าลายเห็นศพโศกโรคบันดาล ไม่กลับบ้านเลยตายในสายชล
เดี๋ยวนี้ยังเป็นเขานอนยาวเหยียด ไม่น่าเกลียดเหมือนมนุษย์สุดฉงน
โต๊ะฝาชีพานกระจับกลับวิกล ตั้งอยู่จนทุกวันไม่อันตราย
เขาเรียกสามร้อยยอดตลอดหมด ฉันไม่ปดพูดเพ้อละเมอหมาย
แต่ทองหมั้นนั้นถมลงจมทราย ตกอยู่ฝ่ายนครังบางตะพาน
เป็นกำเนิดเกิดประจำธรรมชาติ สุกสะอาดสืบมาอาวสาน
เป็นทองของเจ้าลายที่วายปราณ อยู่นมนานตั้งกัปป์ไม่นับปี
ฝ่ายเจ้าจีนสิ้นอาลัยก็ให้โหย เห็นนางโดยซีกเดียวเขียวเป็นผี
ก็ทำศพกว่าจะเสร็จเจ็ดราตรี กับสิ่งที่เป็นขันหมากไม่อยากเอา
ทั้งโรงโขนโรงหนังคลังใส่ของ ก็เลยกองอยู่เหมาะเป็นเกาะเขา
สารพัดสัตว์สิงห์กลิ้งเป็นเลา เรื่องตาเฒ่าบ้องไล่ยายรำพึง
แสนสงสารเจ้าจีนแผ่นดินเผง ถอดกางเกงค้างเปล่าเข้าไม่ถึง
ต้องกลับไปพาราทำหน้าตึง สิ้นความหึงหม้ายหอเพราะพ่อตา