บิ๊กตู่ เตรียมพร้อม อสม. เฝ้าระวังโควิดรอบ 2 ถาม กดเงินดูหรือยัง? รบ.โอนค่าเสี่ยงภัยให้แล้ว

“หมอตู่” ควงหมอหนูรณรงค์ความพร้อม ย้ำ อสม.เฝ้าระวังโควิดระบาดระลอก 2 ยันจ่ายค่าตอบแทน เยียวยา และเสี่ยงภัยให้กับ อสม. 7 เดือน และสนับสนุนต่อเนื่อง ฝากช่วยสร้างความรักชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์

เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่อิมแพ็คฟอรั่ม ฮอลล์ 4 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดการจัดงานรณรงค์เตรียมความพร้อม อสม.เฝ้าระวัง ป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกที่ 2 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ โดยพล.อ.ประยุทธ์ได้สวมเสื้อสีขาว โลโก้กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นเสื้อของผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง พร้อมเดินทักทายกับตัวแทน อสม.

โดยนายอนุทินกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ชื่นชมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จิตอาสาช่วยระบบการแพทย์และสาธารณสุข ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการระบาดโรคโควิด-19 ในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จนได้รับการยอมรับ ยกย่อง ชมเชยทั้งในประเทศและต่างประเทศ คณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงมีมติสนับสนุนค่าตอบแทน ชดเชย เยียวยา และเสี่ยงภัยให้กับ อสม.เป็นระยะเวลา 7 เดือน และจะสนับสนุนอย่างต่อเนื่องหากเกิดการระบาดระลอกที่ 2 เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ สำหรับการเตรียมความพร้อม เฝ้าระวัง ป้องกันการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกที่ 2 อสม.มีบทบาทในการสำรวจสุขภาพจิตของประชาชนในเขตที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันภาวะเครียด ซึมเศร้า หรือการฆ่าตัวตาย

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่ได้พบอสม.ทุกคน ในสถานการณ์ที่กำลังมีปัญหา ซึ่งในหลายประเทศไม่มีอสม. แต่ในประเทศไทยนั้นมี ถือเป็นอีกหนึ่งศักยภาพของไทย การที่เรามาช่วยกันในเชิงป้องกัน ระงับยับยั้ง เป็นสิ่งที่ดีที่สุดมากกว่าการรักษา พร้อมแสดงความเสียใจกับ อสม.ที่ต้องสูญเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ และได้ช่วยเหลือเยียวยาตามความเหมาะสม ทั้งนี้ รัฐบาลได้โอนเงินเสี่ยงภัยให้ทุกคนแล้ว ขอให้ทุกคนใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับเงินเสี่ยงภัยให้กับอสม.เป็นระยะเวลา 7 เดือน เดือนละ 500 บาทรวม 3,500 บาท จากเดิมได้เดือนละ 1,000 บาท และขอให้ใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ

พร้อมหยอกล้อกับ อสม.ว่า ได้กดเงินในบัญชีดูแล้วหรือไม่ เงินเข้าเมื่อคืนตอนตี 3 และอย่าถือว่า เป็นค่าจ้าง ถือเป็นการตอบแทนน้ำใจให้ อะไรที่ตนดูแลได้ก็พร้อมที่จะดูแล ซึ่งตนทราบดีว่า ทุกคนเสียสละ และจะดูแลให้ตามลำดับ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามไม่เพียงแต่โควิด19 เท่านั้นที่ต้องเฝ้าระวัง ต้องเน้นการป้องกันโรคอื่นๆด้วย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีการพัฒนาเรื่องหมอครอบครัว ลงพื้นที่ให้ความรู้ต่างๆ เป็นเน้นการป้องกันมากกว่าการรักษา พร้อมย้ำว่า อสม.คือคนสำคัญของประเทศไทย และไทยถูกยกระดับว่า มีสาธารณสุขที่ดีนั้นก็เพราะมีอสม. อีกทั้งฝากให้ อสม.ช่วยกันสร้างความรัก ความสามัคคี ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

โดยในวันนี้ นายกรัฐมนตรีได้สวมเสื้อขาว ซึ่งเป็นเสื้อของผู้บริหารของกระทรวงสาธารสุข พร้อมกล่าวว่า ถือเป็นการให้เกียรติเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และมีคนแซวว่า ตนเป็นหมอ ขออย่าเรียกว่าเป็นหมอตู่ ไม่เหมาะสม ตนต้องดูแลในหลายกระทรวง ดังนั้นขอให้เรียกตนว่า ช่าง ดีกว่า เพราะเป็นช่างแก้ไข ช่างซ่อม

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดงานว่า วันนี้ตนมาเปิดงานทั้งสองงาน ทั้งในส่วนของงานยุทธศาสตร์ชาติก็จะมีการปรับแผนแม่บทให้สอดคล้องทั้งในปี 2564 และ 2565 พร้อมสอดคล้องกับสถานการณ์โควิดในปัจจุบัน ส่วนในการเปิดงาน อสม. ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้รับเกียรติจากกระทรวงสาธาณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ และขอขอบคุณที่ให้เสื้อตัวนี้มาใส่ในฐานะได้ร่วมมือกันทำงาน แต่ตนไม่ใช่หมอ เพียงแต่ให้เกียรติซึ่งกันและกันโดยเฉพาะกับกลุ่ม อสม.ที่เดินทางเป็นตัวแทนจาก 6 ภาคของประเทศ บุคคลเหล่านี้ถือเป็นต้นทางผู้เสียสละ เสี่ยงภัย รัฐบาลจึงได้ดูแลในส่วนที่สามารถดำเนินการได้และหวังอย่างยิ่งว่าจะเข้มงวดเช่นนี้ต่อไป เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดระลอกที่สอง เพราะหลายประเทศมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากจนเป็นที่น่าเป็นห่วง ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย