กขค.งัดกฎเหล็กคุมล้งผลไม้ ป้องเกษตรกรถูกเอาเปรียบ

กขค.งัดกฎเหล็กคุมล้งผลไม้ ป้องเกษตรกรถูกเอาเปรียบ

กรณี นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ อภิปรายในสภากรณีเกษตรกรไทยถูกล้งเอาเปรียบ เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 14 กันยายน นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า ขณะนี้ประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เรื่อง แนวทางการพิจารณาการปฏิบัติทางการค้า ที่ไม่เป็นธรรม และการกระทำอันเป็นการผูกขาด หรือลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขันในการประกอบธุรกิจรับซื้อผลไม้ ได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา และผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2563 ทำให้มีมาตรการจะเข้าไปดูแลเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ให้ได้รับความเป็นธรรมจากผู้รับซื้อผลไม้ (ล้ง) และจะช่วยแก้ปัญหาเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการรับซื้อผลไม้ได้ประกาศดังกล่าว ได้กำหนดพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรม อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 ได้แก่

1.การกำหนดเงื่อนไขอย่างไม่เป็นธรรม หรือละเว้นการกำหนดเงื่อนไขในสัญญาอย่างไม่เป็นธรรม ได้แก่ การไม่ระบุวันหรือช่วงเวลาในการเข้าเก็บผลไม้ การกำหนดไม่ให้เกษตรกรมีสิทธิริบเงินมัดจำหรือไม่ระบุกรอบเวลาที่แน่นอน ให้เกษตรกรมีสิทธิริบเงินมัดจำกรณีผู้รับซื้อผลไม้ผิดนัดไม่เข้ามาเก็บผลไม้ตามที่ตกลงในการไม่ระบุวันสิ้นสุดของสัญญา ส่งผลให้เกษตรกรไม่สามารถขายผลไม้ให้ผู้รับซื้อผลไม้รายอื่นได้ การแก้ไขสัญญาเพียงฝ่ายเดียวโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเกษตรกรหรือใช้อำนาจต่อรองที่เหนือกว่าให้เกษตรกรยินยอม และเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรมในสัญญาในลักษณะอื่นๆ

2.การกำหนดหรือปรับลดราคารับซื้อ หรือกำหนดเงื่อนไขใดๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมภายหลังการทำสัญญา ซึ่งส่งผลต่อการปรับลดราคารับซื้ออย่างไม่เป็นธรรม ได้แก่ การปรับลดราคารับซื้อผลไม้ให้แตกต่างจากที่กำหนดไว้ในสัญญาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร การกำหนดระดับคุณภาพ (เกรด) ของผลไม้หรือเงื่อนไขอื่นใดอย่างไม่เป็นธรรมในขณะที่เก็บผลไม้หรือภายหลังเข้าเก็บผลไม้ เช่น ขนาดของผล ลักษณะของผล หรือสีของเปลือก เป็นต้น ให้ต่ำกว่าความเป็นจริงและแตกต่างจากมาตรฐานที่กำหนดเพื่อการปรับลดราคารับซื้อให้แตกต่างจากที่กำหนดไว้ในสัญญา และการกำหนดเงื่อนไขอื่นหรือการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในการรับซื้อ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรซึ่งส่งผลให้ราคารับซื้อลดลง

3.การปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ได้แก่ การชะลอการเข้าเก็บผลไม้ให้แตกต่างจากเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรไม่สามารถขายผลไม้ให้ผู้รับซื้อผลไม้รายอื่นได้หรือขายได้ในราคาที่ลดลง การเก็บผลไม้ไม่ครบตามจำนวนที่ตกลงไว้ในสัญญา หรือเลือกเก็บผลไม้บางส่วน ในกรณีที่มีการทำสัญญารับซื้อแบบเหมาสวน ส่งผลให้เกษตรกรไม่สามารถขายผลไม้ให้ผู้รับซื้อผลไม้รายอื่นได้หรือขายผลไม้ได้ในราคาที่ลดลง และพฤติกรรมในลักษณะอื่น ๆ ที่เป็นการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมอันเป็นผลให้เกิดความเสียหายแก่เกษตรกร เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้กำหนดเงื่อนไขเรื่องของการตกลงร่วมกัน หรือการฮั้วกัน ของผู้รับซื้อผลไม้ในตลาดเดียวกัน ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 54 แห่งพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า ที่เป็นการร่วมกันผูกขาดหรือลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขัน ได้แก่ 1.การร่วมกันกำหนดราคาซื้อหรือเงื่อนไขทางการค้าใด ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมที่ส่งผลต่อราคาผลไม้ 2.การร่วมกันจํากัดปริมาณของสินค้าที่ผู้รับซื้อผลไม้แต่ละรายจะซื้อตามที่ตกลงกัน 3.การร่วมกันกำหนดแบ่งท้องที่หรือกำหนดเกษตรกรผู้รับซื้อผลไม้แต่ละรายจะซื้อผลไม้ อันเป็นการจำกัดทางเลือกขายของเกษตรกร

สำหรับ “ผู้รับซื้อผลไม้” ตามประกาศฉบับนี้ หมายความว่า ผู้ประกอบธุรกิจรับซื้อผลไม้ หรือรับซื้อแล้วนำมาคัดบรรจุในหีบห่อ หรือภาชนะใด ๆ เพื่อผลิตหรือจำหน่ายต่อภายในหรือส่งออกไป นอกราชอาณาจักร และเข้าทำสัญญากับเกษตรกร หรือที่เรียกว่า ล้ง ส่วน “เกษตรกร” หมายความว่า
ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งเป็นผู้ผลิตเพื่อจำหน่ายผลไม้ และเข้าทำสัญญากับผู้รับซื้อผลไม้ ขณะที่ “สัญญา” หมายความว่า สัญญาซื้อขายหรือสัญญาจะซื้อจะขายผลไม้หรือที่เรียกเป็นอย่างอื่นที่จัดทำขึ้นระหว่างผู้รับซื้อผลไม้กับเกษตรกร

“มั่นใจว่าแนวปฏิบัติดังกล่าว จะช่วยสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติทางการค้าให้เป็นไปตามหลัก การประกอบธุรกิจที่เสรีและเป็นธรรม ตลอดจนแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างเกษตรกรและผู้รับซื้อผลไม้ (ล้ง) ทำให้เกษตรกรได้รับการดูแล ส่วนล้ง ก็จะได้ทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา และยังเป็นการยกระดับมาตรฐานทางการค้าในธุรกิจรับซื้อผลไม้ของประเทศด้วย” นายสมศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ สามารถดูรายละเอียดของประกาศฉบับเต็ม ได้ที่ www.otcc.or.th และผู้ประกอบธุรกิจรายได้ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบและไม่ได้รับความเป็นธรรมในการประกอบธุรกิจ สามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า หมายเลขโทรศัพท์ 02 199 5444