ขสมก. ขาดทุน 4 พันล้าน ชี้แบกต้นทุนสูง หวั่นล้มละลายตาม การบินไทย

วันที่ 3 ส.ค. ที่รัฐสภา น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมกมธ. วันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา โดย

น.ส.พิมพ์รพี กล่าวว่า กมธ. ได้พิจารณางบฯภาพรวม 8 หน่วยงาน จาก 13 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กรมการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางราง กรมเจ้าท่า กรมท่าอากาศยาน สถาบันการบินพลเรือน และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เป็นจำนวนงบฯรวมทั้งสิ้น 193,554,304,900 บาท

อย่างไรก็ตาม ทาง กมธ. ได้ใช้เวลาในการพิจารณาทั้งหมด 15 วัน รวม 118 ชั่วโมง จากจำนวนทั้งหมด 237 ชั่วโมง มีหน่วยงานผ่านการพิจารณาของ กมธ. แล้ว 5 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ด้าน น.ส.วทันยา กล่าวว่า กมธ. ยังมีความเป็นห่วง โดยเฉพาะองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ของบฯ 64 จำนวน 4,485,609,000 บาท แต่ประสบปัญหาขาดทุนจำนวนมาก ซึ่งทางผู้บริหารได้ชี้แจงว่า สถานะการเป็นหนี้ขสมก. 120,000 ล้านบาท เกิดจากการชำระดอกเบี้ยพันธบัตร และสินเชื่อ รวมถึงผลขาดทุนจากการดำเนินงาน คาดว่าปีนี้จะขาดทุนกว่า 4,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นชำระดอกเบี้ย 2,800 ล้านบาท การดำเนินงาน 1,200 ล้านบาท

ปัญหาการขาดทุนของขสมก. ส่วนใหญ่มาจากการขึ้นอัตราค่าโดยสารไม่ได้ ต้นทุนสูง รถที่ให้บริการส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานมากกว่า 25 ปีขึ้นไป ทำให้เกิดค่าซ่อมบำรุงจำนวนมาก และไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้โดยสารที่ใช้บริการ เฉลี่ยวันละ 1,000,000 คนต่อวัน จากรถโดยสารที่มีทั้งหมด 3,000 คัน จึงต้องเรียกรถร่วมบริการมาช่วยเสริม

“กมธ. มีความกังวลและเป็นห่วงต่อประเด็นนี้อย่างมาก จากผลกระทบที่เกิดขึ้นกับกรณีของการบินไทย เราคงไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกกับ ขสมก.อีก”