ขอแสดงความนับถือ/ฉบับประจำวันที่ 25-31 ตุลาคม 2562

ขอแสดงความนับถือ

 

งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 24 ผ่านไป

“สงกรานต์ บ้านป่าอักษร” เขียนอีเมลมาแลกเปลี่ยน

ต่องานดังกล่าว

 

มหกรรมหนังสือแห่งชาติเป็นมาตรวัดความหวังและกำลังใจของนักเขียน

เป็นแสงเทียนส่องนำทาง

ให้ผู้จาริกแสวงหาความสุขความเจริญก้าวหน้า มีความปลอดโปร่งโล่งสะดวกในการเดินทางสู่ความสำเร็จ

ด้วยว่าหนังสือแต่ละแขนงสาขาอาชีพคือเคล็ดวิชาอันมีเนื้อหาสาระพัฒนาคนให้เป็นเอตทัคคะ

เป็นตำรับตำรารักษาโรคได้ครอบจักรวาล

โดยบันดาลให้ผู้ค้นคว้าหาความรู้เป็นหมอเยียวยารักษาตน

และขจัดปัดเป่า (แบ่งเบาภาระ) อาการป่วยไข้ให้สังคมได้อย่างชะงัดประหยัดงบประมาณ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่ “ผู้นำประเทศ” เสื่อม-คลายศรัทธา

“การเมือง” เสื่อมทราม

“เศรษฐกิจ” เสื่อมทรุด

“สังคม” เสื่อมโทรม

อันเป็นเหตุให้ “สิ่งแวดล้อม” เสื่อมเสีย

เกิดผลกระทบให้บ้านเมืองประสบอุปัทวเหตุเภทภัยต่างๆ นานา

เครื่องมืออันทรงคุณค่าที่จะฟื้นฟูกอบกู้-พัฒนาเสถียรภาพความมั่นคง

ความสงบสุขอยู่ดีกินดีของผู้คนในสังคมให้เสมอภาคทุกสถานะแบบง่ายๆ ประหยัด อบอุ่นและมีความเป็นไปได้อย่างยั่งยืนสถาพร

จึงว่าด้วยหนังสือ…

“หนังสือ” ซึ่งเป็นศาสตร์และศิลป์ ที่มีความจำเป็นต้องศึกษาหาความรู้

มาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ปัจจัยและเงื่อนไขต่างๆ ในการดำรงชีวิตดำเนินไปอย่างวิวัฒนาการ สมานฉันท์-รักใคร่ปรองดองของผู้คนทุกหมู่เหล่า…

…คารวะท่านมาวันนี้ด้วยความเคารพนบนอบในหนังสือ

อันเป็นสื่อนำความรู้ไปสู่กันทั่วบรรณพิภพ

ให้พี่น้องประชาชนทรงความหมายมากคุณค่าอย่างต้องติดตาม “วิถีแห่งอำนาจอักขรสมัย”

ด้วยความระทึกในดวงหทัย (พลัน)…

ด้วยความเคารพและนับถือ

สงกรานต์ บ้านป่าอักษร

 

ขอบคุณแทนนักเขียน คนทำหนังสือทุกคน

แฮ่ม– รวมถึง “วิษณุ เครืองาม” ที่เขียน “ลงเรือแป๊ะ” ให้อ่านด้วย

ซึ่งก็เป็นตามคาด

“ลงเรือแป๊ะ” ติดกลุ่มหนังสือขายดี

ด้วยเนื้อหาดี จน “มติชนสุดสัปดาห์” ฉวยเอามาให้ชิมหลายบท

แต่ก็คงให้ชิมอีกไม่มาก

สักบทสองบท

หลังจากนี้คงต้องไปซื้อฉบับรวมเล่มอ่านกันเอาเอง

รับรองว่า “คุ้ม”

 

บทที่หยิบมาให้ชิมฉบับนี้ ว่าด้วย

“พระมหากษัตริย์กับรัฐบาล”

ที่ปูพื้นให้เราเข้าใจธรรมเนียมในประเทศ ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

อาทิ การถวายรายงานข้อราชการสำคัญของรัฐบาล

การรับพระราชกระแส

ตลอดจนการรับพระราชวินิจฉัย

ซึ่งในการนี้ “วิษณุ เครืองาม” ได้เน้นพระราชปรารภ 4 ประการของรัชกาลที่ 10 มาให้เราได้ทบทวนความจำด้วย

ขณะเดียวกัน ยังได้ระบุถึงการโอนหรือย้ายหน่วยราชการ จากสำนักพระราชวังไปให้รัฐบาลดำเนินการ

และพระราชดำริ ให้จัดระเบียบราชการในพระองค์ใหม่

ซึ่งน่าสนใจยิ่ง และทำให้เราตามสถานการณ์ในปัจจุบันได้ทัน

พลิกอ่านที่หน้า 19

 

อนึ่ง สำหรับ “นักเล่นนาฬิกา”

นิธิ เอียวศรีวงศ์ ผู้ชื่นชอบนาฬิกา

นำเรื่องนาฬิกามาเล่าสู่กันฟังอีกแล้ว

เป็นนาฬิกาแมงดาใหม่ ที่ผลิตในประเทศจีน

ซื้อมาแล้ว “นิธิ เอียวศรีวงศ์” เผชิญกับอะไร

และนำไปสู่บทความชิ้นใหม่ “เทคโนโลยีในระบอบเผด็จการ” ได้อย่างไร

มีแต่ต้องพลิกไปอ่านกันเอาเอง ที่หน้า 30

 

“หนังสือ” เป็นศาสตร์และศิลป์

ที่มีความจำเป็นต้องศึกษาหาความรู้

มาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ปัจจัยและเงื่อนไขต่างๆ

ในการดำรงชีวิตดำเนินไปอย่างวิวัฒนาการ สมานฉันท์-รักใคร่ปรองดองของผู้คนทุกหมู่เหล่า…

อย่างที่สงกรานต์ บ้านป่าอักษร

ว่าไว้จริง-จริง