สนช.มติเอกฉันท์ 228:0 เสียง ผ่าน3วาระรวด ร่างแก้ไขรธน.ชั่วคราว ปี’57

AFP / PORNCHAI KITTIWONGSAKUL

สนช.มีมติเอกฉันท์ผ่านร่างรธน.ชั่วคราว 3 วาระรวด แก้ไขเพิ่มเติม ประเด็นตั้งผู้สำเร็จราชการในบางกรณี และ เรื่องอำนาจและความชอบธรรมในการขอพระราชทาน ร่าง รธน.ประชามติ กลับมาแก้ไขตามข้อสังเกตพระราชทาน

(13 ม.ค.) ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. วันนี้เริ่มขึ้นเวลา 10.00น.มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม มีวาระสำคัญพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2557 โดยตั้งคณะกรรมาธิการเต็มสภาพิจารณา 3 วาระรวด ซึ่งทางคณะรัฐมนตรี มอบหมายให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เข้าชี้แจงและร่วมเป็นคณะกรรมาธิการ

โดยนายวิษณุ กล่าวชี้แจง ว่า แก้ไขใน 2 ประเด็น คือประเด็นแรก เพิ่มข้อความในมาตรา 2 ที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในบางกรณี และประเด็นที่ 2 แก้ มาตรา 39/1 เพื่อให้เกิดอำนาจและความชอบธรรมในการขอพระราชทานร่างรัฐธรรมนูญกลับคืนมาแก้ไข เนื่องจากสำนักราชเลขาธิการได้แจ้งมาว่ามีข้อสังเกตบางประการที่ต้องรับไปดำเนินการ และรัฐบาลได้พิจารณาร่วมกับคสช.แล้วเห็นควรว่าจะต้องดำเนินการในขณะนี้ เพราะหากปล่อยให้ร่างรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ แล้วค่อยแก้ไข แม้โดยกลไกทางกฎหมายจะทำได้ แต่การจะแก้ไขบางข้อความในบางหมวดจำเป็นจะต้องนำไปทำประชามติ ซึ่งจะใช้เวลายืดยาวและกระทบกระเทือน เรื่องอื่น ๆ และปัญหามีอยู่ว่าเมื่อทูลเกล้าฯแล้วตกอยู่ในพระราชอำนาจแล้วรัฐบาลจะนำกลับมาแก้โดยพลการไม่ได้ จึงต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชั่วคราว ให้เกิดความกระจ่างแจ้ง

ทั้งนี้ ในวาระ 2 ที่ประชุมได้ปรับแก้ไข มาตรา 3 เพิ่มเติมความว่า ในเมื่อพระมหากษัตริย์ไม่ประทับอยู่ในราชอาณาจักร หรือจะทรงบริหารราชภาระไม่ได้ด้วยประการใดก็ตาม จะทรงแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์หรือไม่ก็ได้ และให้ประธานรัฐสภาเป็นผู้สนองพระราชโองการแต่งตั้ง และเมื่อกรณีเป็นไปตามมาตรานี้แล้วมิให้นำความในมาตรา 18/19 และ 20 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550

ส่วนมาตรา 4 ที่ ยกเลิกความวรรค11 ของ มาตรา39/1 และให้เพิ่มข้อความ เป็น เมื่อนายกรัฐมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นเกล้าทูลกระหม่อมถวาย หากกรณีที่พระมหากษัตริย์พระราชข้อสังเกตว่าสมควรแก้ไขเพิ่มเติมข้อความภายใน 90 วัน ให้นายกรัฐมนตรีขอพระราชทานคืนมาเพื่อดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมเฉพาะประเด็นตามข้อสังเกต และประเด็นที่เกี่ยวเนื่อง และแก้ไขเพิ่มเติมคำปรารภให้สอดคล้องกัน และให้นายกรับมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระม่อมภายใน 30 วันตั้งแต่วันที่ได้รับพระราชทานคืนตามที่ขอ

และเมื่อนายกรัฐมนตรีนำร่างรับธรรมนํญที่มีการแก้ไขขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมและทรงลงพระปรมาธิไธยให้ประกาศใช้ในการราชกิจจานุเบกษาและบังคับใช้ได้ โดยให้นายกรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ในกรณีที่พระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญหรือร่างที่แก้ไขเพิ่มเติมและไม่พระราชทานคืนกลับมา หรือพ้น 90 วันที่นายกรัฐมนตรีนำร่างขึ้นทูลเกล้าแล้วมิได้พระราชทานคืนให้ร่างรัฐธรรมนูญหรือร่างแก้ไขเพิ่มเติมเป็นอันตกไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมสนช. ได้มีมติเอกฉันท์เห็นชอบแก้ไขทั้ง 2 มาตรา ตามที่เสนอ และภายหลังใช้เวลานานเกือบ 3 ชั่วโมง ที่ประชุมสนช. ได้ทำการลงมติในวาระ 3 ด้วยการขานชื่อสมัครรายบุคคล ก่อนจะมีมติเป็นเอกฉันท์ 228:0 เสียง เก็นชอบให้ประกาศใช้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมต่อไป