“มาร์ค” หาเสียงเขตบางแค โดนชูป้ายไล่ ชี้ แค่ทีมงานพปชร. เลี่ยงตอบ ปม “สุเทพ” แฉ

“มาร์ค” หาเสียงเขตบางแค โดนชูป้ายไล่ ชี้เรื่องปกติ ระบุ พปชร.โจมตี ปชป.หนักเป็นเรื่องธรรมดาเพราะไม่เอา “บิ๊กตู่” ตอกกลับพลังประชารัฐ ให้พรรคเสียงข้างมากตั้งรัฐบาลก่อนหรือไม่ พร้อมไม่ตอบโต้ปม “สุเทพ” แฉ-ทวงบุญคุณ

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลงพื้นที่เพื่อรณรงค์หาเสียงช่วยนางอรอนงค์ คล้ายนก ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต28 บางแค ที่ตลาดบางแค โดยได้รับการตอบรับจากประชาชน พ่อค้า แม่ค้าขอถ่ายรูปเซลฟี่จำนวนมาก ขณะเดียวกันก็มีแม่ค้าบางรายตะโกนบอกไม่เอาพรรคปชป.ก่อนชูป้ายไล่ ที่มีข้อความ “ไม่ต้อนรับพรรคการเมืองที่ไม่เอาลุงตู่ (หมดเวลาเกรงใจ)คนบางแค ต้องมาก่อน อย่าลังเลคืนความสุขให้ประเทศชาติ” โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวกับแม่ค้าที่ชูป้ายไล่ ว่า รู้อยู่แล้ว เพราะนายโกวิทย์ ธารณา อดีต ส.ส. พรรคปชป. ที่ลาออกเพราะไม่พอใจเรื่องไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.ซึ่งได้ไปช่วยงานพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้บอกไว้แล้วว่า จะจัดคนมาด่า ขณะที่ผู้หญิงคนดังกล่าวตอบกลับว่า “ไม่เกี่ยว คุณไม่ใช่คนบางแค และคุณอรอนงค์ คนบางแคเขาไม่เอาคุณ ให้คุณรู้ไว้ด้วย ไปเลยไป ไม่เอาพรรคปชป. ไปเลย” ทีมหาเสียงของนายอภิสิทธิ์จึงเลี่ยงออกมา จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้ขึ้นรถแห่มาตามถนนเพชรเกษมเพื่อมาที่หมู่บ้านเศรษฐกิจเพื่อหาเสียงต่อในชุมชนหมู่บ้านดังกล่าว

นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ว่า หลังการประกาศจุดยืนของพรรคปชป.พบว่า ได้รับเสียงตอบรับทางการเมืองอย่างดีในหลายพื้นที่ ไม่มีปัญหา เพราะเราทุกคนต้องการความชัดเจนทางการเมือง เมื่อประกาศจุดยืนก็มีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนการที่พปชร.มีการโจมตีตนนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการแข่งขัน การจะให้เขามาชอบคงไม่ได้ แต่ต้องการให้ประชาชนเห็นอย่างชัดเจนว่า บ้านเมืองมีความท้าทาย 2 เรื่องที่ต้องก้าวไปให้พ้นคือเรื่องเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมา 5 ปี แม้รัฐบาลจะมีความตั้งใจดีแต่การแก้ปัญหาก็ยังไม่ตรงจุด ซึ่งพรรคปชป.ก็ได้เสนอนโยบายที่ชัดเจนคือ การเพิ่มกำลังซื้อ พลิกฟื้นภาคธุรกิจ

เมื่อถามว่า พปชร. ประกาศเพิ่มค่าแรงเป็น400-425 บาทต่อวันจะมีผลกระทบอะไรบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเป็นห่วงในเรื่องการเพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการ ซึ่งอาจเกิดการย้ายฐานการผลิตได้ โดยการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่พรรคปชป.มีวิธีปฏิบัติที่ชัดเจน ส่วนปัญหาอีกเรื่องคือ เรื่องการเมืองก็จะเห็นชัดเจนว่า ทุกคนพูดตรงกันว่า รัฐบาลนี้สืบทอดอำนาจ เราจึงคิดว่าการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องนี้ก็เป็นทางออกที่ดี

เมื่อถามถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย(พท.) ทวิตข้อความ ถามว่าพรรคปชป.จะร่วมงานกับพรรคการเมืองใด เพราะประกาศไม่ร่วมทั้งกับพท. และพรรคพปชร. นายอภิสิทธ์ กล่าวว่า ตนมองว่า เป็นความพยายามกดดัน ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่หลักการ หากไม่มีประเด็นสืบทอดอำนาจและการทุจริตคอร์รัปชั่น เราก็สามารถร่วมงานได้ และการที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ประกาศอยากให้เลิกพูดเรื่องสืบทอดอำนาจ หากการแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทุกพรรคปฏิบัติเท่าเทียมกันหมดก็ไม่มีปัญหา แต่กลับตรงกันข้าม ทุกพรรคเห็นตรงกันว่า ควรให้พรรคที่รวบรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ทำการจัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่พปชร.กลับไม่ยอมยืนยันในเรื่องนี้
ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดคือ การเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งและเคารพการตัดสินใจของประชาชนเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย เพราะทุกฝ่ายเรียกร้องว่าให้เข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งโดยยึดถือเจตนารมณ์ของประชาชน นั่นคือประชาธิปไตย เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ขณะเดียวกันต่างชาติก็จะมองว่าประชาธิปไตยของประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แต่ทั้งนี้ ตนไม่สามารถตอบแทนพรรคพปชร.ได้ว่า จะปล่อยให้พรรคที่รวบรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลก่อนหรือไม่ แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือ ต้องมีเส้นทางที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง ซึ่งหากเลือกพรรคปชป.เข้ามาจำนวนมากพอ เราก็จะแก้ปัญหาได้

เมื่อถามถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำกปปส.และผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.)กล่าวปราศรัยโจมตีนายอภิสิทธิ์และพรรคปชป. โดยระบุว่า ถ้าไม่มีนายสุเทพชาติหน้านายอภิสิทธิ์ ก็ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายอภิสิทธิ์ ตอบคำถามเพียงสั้นๆว่า “ผมไม่ทราบว่านายสุเทพพูดว่าอย่างไร”

มติชนออนไลน์