เมื่อวันที่ 14 มกราคม นายอนุพงษ์ มาคำ ว่าที่ผู้สมัค ส.ส.เขต 1 จ.พะเยา เปิดเผยว่าในที่ประชุมพรรคพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคเป็นประธานประชุมอย่างเป็นทางการและพรรคมีมติอย่างเป็นเอกฉันท์หรือทางการ ให้เป็นตัวแทนพรรคลงสมัคร สส.ในพื้นที่พะเยาเขต 1 อ.แม่ใจ และ อ.เมืองพะเยา หลังจากได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนพรรค ปชป. จึงได้เตรียมงานกับทีมงานเป็นคณะออกเดินสายหาเสียง ในลักษณะใช้รถกระบะ 4 ล้อ 6 ล้อ ออกตระเวนหาเสียงเริ่มต้นนำรถแห่รอบตัวเมืองพะเยา 13 ตำบล พร้อมแนะนำตัวกับประชาชนชาวบ้านทั่วไป ตามตลาดร้านค้าในเขตเทศบาลเมืองพะเยา และจะตะเวนหาเสียงให้ทั่วทุกพื้นที่ของเขตเลือกตั้ง ประกอบกับเขต1 เป็นเขตกระชับพื้นที่แค่ 2 อำเภอ อ.แม่ใจ อ.เมืองพะเยา ส่วนเขตอื่นๆ เช่นเขต 2. 3 อำเภอคือ อ.จุน-ภูซาง อ.เชียงคำ และเขต 3. อ.ดอกคำใต้-ภูกามยาว-ปง และ อ.เชียงม่วน

นายอนุพงษ์กล่าวอีกว่า ในฐานะตนเองเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ ไฟแรงอีกคนหนึ่งของพะเยากล้าได้กล้าเสียเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านรายที่ยากจน หรือผู้มีรายได้น้อยตกเกณฑ์ จปฐ.มีเงินได้ปีล่ะไม่ถึง 30.000 บาท และหาเสียงแบบเปิดเผยหรือปราศรัย บนหลังคารถผ่านเครื่องขยายเสียง แล้วนำเสนอนโยบายเด่นๆ ของพรรคหรือสโลแกน เช่น “เกิดปั๊บได้สิทธิรับเงินแสน” เด็กแรกเกิดรับเงินทันที 5,000 บาท และรับเดือนละ 1,000 บาท ไปจนเด็กครบอายุ 8 ปี รวมเป็นเงิน ไม่น้อยกว่า 100.000 บาท ส่วนนโยบายระยะยาวที่เกี่ยวกับการเพิ่มเงินสวัสดิการผู้สูงอายุ , นโยบายด้านการประกันราคาพืชผลทางการเกษตรนโยบายการยกระดับ สปก. กู้ได้ ขยายโอกาสเกษตรกรให้ที่ดิน สปก. เป็นโฉนดสามารถนำไปกู้เงิน หรือเข้าถึงแหล่งเงินทุนของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเกษตรกรรม และโฉนด สปก. ยังสามารถสืบทอดไปถึงลูกหลานได้ตามสายเลือดหรือผู้สืบสันดาร ประเด็นนี้จะบรรจุไว้ในนโยบายการเสียงของพรรคระดับประเทศ

มติชนออนไลน์