สรุปข่าวในประเทศ : “แม้ว” ปลุกคนไทย ร่วมแก้ รธน. / ม.44 แก้ปัญหาไม่ต้องโชว์ทรัพย์สิน / คลายล็อกการเมืองที่ไม่เบ็ดเสร็จ

ชี้เลิกคำสั่ง คสช.คลายล็อกการเมืองไม่เบ็ดเสร็จ ให้เดินหน้าคดีที่ค้างต่อไป-เรียกปรับทัศนคติได้

นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม กรณีการออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 22/2561 ปลดล็อกพรรคการเมือง ว่า ถือว่าคำสั่งดังกล่าวได้ผ่อนคลายให้พรรคการเมืองสามารถจัดประชุมหรือดำเนินกิจการใดๆ ในทางการเมืองได้ ประชาชนหรือสมาชิกพรรคการเมืองสามารถชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คนได้ การติดต่อระหว่างพรรคการเมืองกับสมาชิกในลักษณะเป็นการหาเสียงได้ การเผยแพร่นโยบายการหาเสียงให้กับสมาชิกพรรคทราบ ทำได้ เป็นต้น รวมทั้งยกเลิกข้อห้ามเรื่อง การทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น กรณีของนายจาตุรนต์ ฉายแสง อย่างไรก็ดี ข้อห้ามอื่นๆ ตามประกาศ คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. ส่วนใหญ่ก็ยังคงอยู่ โดยเฉพาะการให้อำนาจเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยในการเรียกบุคคลมารายงานตัว ที่เรียกกันว่าปรับทัศนคติ การเข้าตรวจค้นจับกุมการกระทำความผิด เป็นต้น อำนาจต่างๆ ของฝ่ายทหารที่นอกเหนือจากปกติจึงยังคงอยู่ นอกจากนี้ แม้จะมีการยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 แต่คำสั่งที่ 22/2561 ระบุไว้ในข้อ 2 ว่า ไม่กระทบกระเทือนถึงการดำเนินคดี การดำเนินการหรือการปฏิบัติตามประกาศหรือคำสั่งที่ได้กระทำไปก่อนการยกเลิกโดยคำสั่งนี้ ซึ่งเข้าใจว่าผู้ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ไม่ว่าจะอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน การพิจารณาของอัยการ หรือการพิจารณาของศาล ถ้าตีความตามคำสั่งก็ถือว่าต้องมีการดำเนินคดีต่อไป นักเรียน นิสิต นักศึกษา นักการเมืองที่โดนดำเนินคดีก็ว่ากันต่อไป ทั้งนี้ เป็นที่คาดการณ์ของพวกตนอยู่แล้วว่าเขาคงเขียนคำสั่งออกมาเช่นนี้ โดยส่วนตัวมิได้วิตกกังวลอะไร พร้อมจะสู้กับอำนาจเผด็จการต่อไป

มือปืนกราดยิงในฝรั่งเศส ตาย 4 เจ็บ 11 คนไทยดับ 1

มือปืนรายหนึ่งก่อเหตุกราดยิงที่ใกล้กับตลาดคริสต์มาสในเมืองสตราสบูร์ก แคว้นอาลซัสของฝรั่งเศส ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับพรมแดนประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 11 คน ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ โดยยังไม่ทราบว่าอะไรเป็นแรงจูงใจในการก่อเหตุ ขณะที่อัยการด้านต่อต้านการก่อการร้ายได้เริ่มต้นสอบสวนในกรณีดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ ฝรั่งเศสยังอยู่ในการเฝ้าระวังขั้นสูงสุด หลังมีการก่อเหตุโจมตีหลายครั้งภายใต้แรงบันดาลใจจากกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) นับตั้งแต่ต้นปี 2558 ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างว่าอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุ ด้านรัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในของฝรั่งเศสระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้จักตัวมือปืนผู้นี้ ขณะที่ทางการท้องถิ่นก็ยืนยันว่าชายคนดังกล่าวอยู่ในรายชื่อผู้ที่ต้องเฝ้าระวังของหน่วยงานข่าวกรองเช่นกัน

ด้านสมาคมนักเรียนไทยในประเทศฝรั่งเศสในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกแถลงการณ์ว่า เหตุกราดยิงที่เมืองสตราสบูร์ก มีคนไทยถูกยิงจากเหตุการณ์ดังกล่าว ภายหลังได้รับการยืนยันว่าชื่อ นายอนุพงษ์ สืบสมาน อายุ 45 ปี ถูกยิงอาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

“แม้ว” ชูสามนิ้วสู้ ปลุกคนไทย ร่วมแก้ รธน.ฉบับถ่วงความเจริญ

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์รูปตนเองกำลังชู 3 นิ้ว และโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก Thaksin Shinawatra แสดงความเห็นทางการเมือง หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งปลดล็อกทางการเมืองว่า “วันนี้การที่ คสช.จำต้องปลดล็อกไม่ใช่เขามีความกรุณาต่อเรา แต่เป็นการเอาสิทธิขั้นพื้นฐานของเราที่เขาช่วงชิงจากเราไปเป็นระยะเวลาเกือบ 5 ปี คืนกลับมาให้บางส่วนต่างหาก แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวไทย ที่วันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความหวังที่เราจะได้รับสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคกลับคืนมา ถึงแม้ว่าอาจไม่เหมือนเดิมเหมือนเมื่อครั้งได้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปี 2540 เพราะรัฐธรรมนูญนี้ตั้งใจควบคุมและจำกัดสิทธิของประชาชนตามมาตรฐานสากล ดังนั้น เราต้องร่วมกันแก้รัฐธรรมนูญฉบับถ่วงความเจริญของประเทศฉบับนี้

“บิ๊กตู่” ใช้อำนาจ ม.44 รื้อคำสั่ง ป.ป.ช. กก.มหา”ลัย-กองทุนไม่ต้องโชว์ทรัพย์สิน

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 21/2561 เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยใช้มาตรา 44 ยกเลิกผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและเปิดเผยตามมาตรา 102 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2561 โดยคำสั่งระบุว่า ตามที่ ป.ป.ช.มีความเห็นและข้อเสนอแนะมายัง คสช. เกี่ยวกับประกาศ ป.ป.ช. เรื่องกำหนดตำแหน่งของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 พ.ศ.2561 ที่กำหนดให้กรรมการและผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานรัฐทุกแห่งต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. โดยเฉพาะการกำหนดตำแหน่ง ตามมาตรา 102(7) ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง แต่ประกาศดังกล่าว กำหนดให้กรรมการและผู้บริหารระดับสูงในหน่วยงานอื่นของรัฐทุกแห่ง ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ต่อ ป.ป.ช. ส่งผลให้การบริหารจัดการภายในหน่วยงานบางแห่งประสบปัญหา ดังนั้น เพื่อให้การตรวจสอบทรัพย์สินฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามหลักธรรมาภิบาล และเป็นไปตามหน้าที่และอำนาจของ ป.ป.ช. ซึ่งควรให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ใช้ดุลพินิจกำหนดตำแหน่งผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ จึงจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช. เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญต่อไป

จากคำสั่งนี้จะทำให้ ป.ป.ช.สามารถแก้ไขประกาศให้ประธาน รองประธาน และกรรมการในกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร นายกสภาและกรรมสภามหาวิทยาลัย ราชวิทยาลัย ในสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ ไม่ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน หลังจากที่กลุ่มบุคคลเหล่านี้ไม่เห็นด้วยกับประกาศดังกล่าว และเตรียมจะลาออกตำแหน่งจำนวนมาก จึงทำให้นายกฯ ต้องใช้ ม.44 แก้ปัญหาดังกล่าว