“The Good Place : ศีลธรรมคือการทำแต้ม” /ขอแสดงความนับถือ / ฉบับประจำวันที่ 26 ตุลาคม-1 พฤศจิกายน พ.ศ.2561

ขอแสดงความนับถือ

 

ในคอลัมน์ วิช่วลคัลเจอร์

ประชา สุวีรานนท์ นำเสนอ

“The Good Place : ศีลธรรมคือการทำแต้ม”

มาสามตอนและจบลงในฉบับนี้

เนื้อหาทั้ง 3 ตอน โฟกัสพฤติกรรมคนยุคนี้กำลังลุ่มหลงกับการทำและสะสม “แต้ม”

ยิ่งเมื่อมีสื่อดิจิตอลต่างๆ เช่น Facebook Youtube หรือ Instagram มุ่งวัดพฤติกรรมด้วยแต้ม ยิ่งทำให้เรื่องนี้พัฒนาไปมาก

จนถูกหยิบมาสร้างเป็นหนังซีรี่ส์ เพื่อสะท้อนปรากฏการณ์ ตั้งคำถาม และยั่วล้อ

ปรากฏการณ์ก็เช่น การใช้แอพพ์ในสมาร์ตโฟน ที่ทำให้เราสามารถให้คะแนนแก่คนอื่นได้

ใครได้คะแนนสูงจะถูกยกเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ

มีอภิสิทธิ์ในการเข้าถึงทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งการทำงาน ทั้งการพักผ่อน ทั้งที่อยู่อาศัยและการเดินทาง

ในทางกลับกัน

ถ้าทำแต้มได้ต่ำ

ก็จะถูกมองว่าเป็นคนที่อันตราย และไม่มีคนอยากยุ่งด้วย

ตัวละครไม่เป็นอันทำอะไรนอกจากนั่งดูและทำทุกสิ่งเพื่อให้ได้แต้มสูงๆ

 

ย้อนมามองเมืองไทย ก็คงไม่พ้นภาวะสะสมแต้ม

ยิ่งการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น “แต้ม” สำคัญมาก

เพราะจะทำให้สามารถนำไปสู่อภิสิทธิ์ในการเข้าถึงทุกสิ่งทุกอย่าง

การจับผิดกันในทางการเมือง สูงยิ่ง

เพราะนำไปสู่การได้แต้ม หรือเสียแต้ม ได้ง่าย

อะไรได้แต้มเอา เสียแต้มไม่เอา

อันนำไปสู่การตัดสินใจ เลิกหรือไม่เลิกในเรื่องสำคัญได้อย่างง่ายดาย

ดั่งการยั่วล้อของอีตา ปิยพงศ์ (เมืองหละปูน)

กรณีการถอยกรูดเรื่อง ภาษีหมาภาษีแมว ของรัฐบาลที่แม้มากด้วยอำนาจ

แต่เมื่อส่อว่าจะ “เสียแต้ม”

ก็ไม่ลังเลที่จะถอย แม้หลักการมีข้อดีที่จะแลกเปลี่ยนได้

 

มาเร็วไปเร็วจี (ฮ่า)

“โย้…เช้านี้มีอารายมาฝากพวกผมบ้างฮับ พี่เณร”

“ก็เหมือนเดิม ข้าวก้นบาตรกับเศษอาหารสำหรับพวกเอ็ง

และมีข่าวดีพิเศษมาแจ้งให้ทราบ

เรื่องของผู้บริหารบ้านเมือง ที่เข้ามาด้วยวิธีพิเศษ คิดจะออก พ.ร.บ.ควบคุมพวกเอ็ง หมาหมา แมวแมว ที่จะให้เจ้าของพวกเอ็งต้องขึ้นทะเบียนพวกเอ็งกันทุกตัว

โดยคำร้องขอขึ้นทะเบียน 50 บาท

สมุดประจำตัว 100 บาท

เครื่องหมายประจำตัว ตัวละ 300 บาท

ช่างขยันแต่ไม่ค่อยเฉลียวฉลาด (ใจ) กันบ้างเลย

ข้าเองก็คิดหัวแทบแตกมาทั้งคืน เพราะมีบาตรใบเดียว ก็ได้อาศัยข้าวกันบาตรแบ่งให้พวกเอ็งได้รอดกัน และหากกฎหมายออกมาและเจ้าของไม่ปฏิบัติตาม จะต้องถูกปรับขั้นสูงสุด 25,000 บาท

แล้วหมาๆ แมวๆ ที่อาศัยอยู่กุฏิอื่นอีกร่วมร้อย จะทำยังไงกัน

แต่ โลโกปัตถัมภิกาเมตตา–เมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก อย่างคำพระว่า ยังเต็มเปี่ยมในหัวจิตหัวใจของคนไทยทั่วประเทศ

แพลมข่าวออกมาวันเดียว

โดนถล่มเละ จนต้องรีบถอนออกไปพิจารณาใหม่ ตามห้ามนั่งหลังกระบะแคปไปติดๆ

คิดได้ยังไง บริหารบ้านเมืองแบบนี้ เราจะไม่ทิ้งเพื่อนบ้านไว้ข้างหลังแน่

เพราะเราต้องไล่กวดเพื่อนบ้านกันต่อไป (ฮ่า)

แต่ยังไงก็ช่างเถอะ พวกเอ็งต้องขอบคุณคนไทยทั้งประเทศด้วยนะ

ที่ช่วยให้พวกเอ็งรอดตายกันได้ในครั้งนี้”

 

ที่มาขอภาพ : สามเณรกลับจากบิณฑบาต อารามบอยขนานแท้ประจำกุฏิ ดาหน้าออกมาต้อนรับด้วยความดีอกดีใจ

ตากล้อง : อีตา “ปิยพงศ์” (เมืองหละปูน) เจ้าเก่า

อ่านแล้ว จะกดไลก์-ไม่ไลก์ ให้อีตา “ปิยพงศ์” (เมืองหละปูน) ได้สะสม “แต้ม” ความนิยม ก็ไม่ว่ากันเน้อ

ได้แต้มสูงๆ จะได้ไปสมัคร “ผู้แทน”…ฮิ้ว