ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 20 - 26 กรกฎาคม 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | หน้า8 |
เผยแพร่ |
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล
ทำงานขมีขมันอีกรอบ
คราวนี้ป้องปากกระซิบ
เมื่อเร็วๆ นี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีข้อสั่งการไปยังกระทรวงมหาดไทย
ขอให้เป็นหน่วยงานหลัก
ร่วมกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เร่งรัดการดำเนินการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยทั้งระบบให้เกิดผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนโดยเร็ว
โดยให้เร่งจัดตั้งศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจร
ในทุกกลุ่มพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 7,852 แห่ง
ที่มีการรวมกลุ่มเพื่อกำจัดขยะมูลฝอย (Cluster) ทั่วประเทศไว้แล้วจำนวน 324 กลุ่ม ภูเขาขยะ 324 ลูก
มีการกำชับเข้มๆ ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
เส้นตายภายใน 1 เดือนนี้
ออกมาหลังมีข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรีไปหลายครั้ง
คือ 24 พฤษภาคม 2559, 16 พฤษภาคม 2560 และ 30 พฤษภาคม 2560
และว่าที่จริง ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ หลังการรัฐประหาร
มีการชูนโยบายแก้ปัญหาขยะเป็นปัญหาสำคัญ
แต่ 4 ปีผ่านไปแล้ว อำนาจพิเศษ ดูจะไม่ขลัง
แทบไม่มีอะไรคืบหน้า
เลยไม่รู้ว่าเส้นตาย 1 เดือน
จะเป็นไปได้หรือไม่
ว่าที่จริง สำหรับมหาดไทย สั่งอะไรมักเป็นแบบฮิตาชิ
เปิดปุ๊บ ติดปั๊บ
แต่ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะเป็นเช่นนั้นหรือไม่
เพราะเรื่อง “ขยะ” กำลังทะมึนๆ
เหมือนอยู่ในถ้ำ
อาจต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญระดับโลก จึงจะเคลียร์หรือตอบคำถามได้
เคลียร์หรือตอบคำถามว่า เหตุใดจึงย้ายวีรบุรุษถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน
จากเชียงราย ไปพะเยา
นี่คือหลักบริหาร “คนดี” แบบไหน
แถมมีเสียงก้องแปลกๆ ในถ้ำว่า ให้ไปดูโครงการกำจัดขยะดูสิ
อาจจะรู้เหตุผลการที่ทำให้วีรบุรุษถ้ำหลวงถูกย้ายดังกล่าว
เรื่องขยะ สำหรับบิ๊ก-บิ๊กมหาดไทย ตอนนี้เลยไม่อยากมีคนพูดถึง
เลี่ยงได้เลี่ยง
งั้นที่มีสั่งการให้มหาดไทยเป็น “หลัก” ตั้งไข่ให้เสร็จใน 1 เดือน
จะทำได้ไหม-นั่นน่ะสิ
อย่าลืม ปัญหาขยะ กลิ่นแรง
ที่ผ่านมา จู่ๆ ประเทศไทยก็กลายเป็นที่ทิ้งขยะพิษของโลกไปเสียแล้ว
ของในประเทศยังกำจัดไม่หวาดไม่ไหว มาเจอขยะนอกเข้าอีก
เรื่องก็ไปกันใหญ่
ใครจะยอมเสียสละลงไปคลุก
คลุกแล้วได้อะไรตอบแทนดี-ดีหน่อยก็น่าทำ
แต่เกิดไปร่วมเสริม “กลิ่น” ให้แรงขึ้นไปอีก ก็ไม่คุ้ม
สรุปง่ายๆ ปล่อยให้ขยะซุกในถ้ำต่อไป
ถือเป็นอีกหนึ่งที่ “เสียของ”