เป็นเรื่องที่ฮือฮาไม่น้อย ผู้ที่ได้รับฉายาว่า ‘ขงเบ้งแห่งกองทัพบก’ อย่าง ‘บิ๊กจิ๋ว’พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตผบ.ทบ.และนายกฯ ในวัย 86 ปี ที่พบรักใหม่ หลังดูใจมายาวนาน เป็นการแต่งงานครั้งที่ 4 ของ ‘พ่อใหญ่จิ๋ว’ และจดทะเบียนสมรสด้วย และได้หย่าขาดกับ ‘หญิงหลุยส์’คุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ ด้วย
.
โดย พล.อ.ชวลิต ได้แต่งงานใหม่เมื่อช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่ขอเป็นข่าว กับ น.ส.อรทัย สรการ วัย 53 ปี บุตรสาวของ นายนิพนธ์ สรการ อดีตนายกกำนันผู้ใหญ่บ้านสุราษฎร์ธานี และอดีตส.ว. ได้เข้าพิธีแต่งงาน และเปลี่ยนนามสกุลเป็น ยงใจยุทธ เมื่อ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยในภาพฝ่ายหญิงมอบพวงมาลัยให้ พล.อ.ชวลิต และสวมนาฬิกาคู่กันอีกด้วย โดยมีบุตรชายคนโตและลูกสะใภ้ของ พล.อ.ชวลิต ร่วมเป็นสักขีพยาน
.
ซึ่งคนรักใหม่ได้รู้จักกับ ‘บิ๊กจิ๋ว’ มาแล้วกว่า 10 ปี เป็นคนใกล้ชิดที่กลายเป็นคนรู้ใจ ที่คอยดูแลกัน ซึ่งการเลิกกับ ‘หญิงหลุยส์’ เหตุผลหลักอย่างหนึ่ง คือ การหาคนดูแล เพราะสุขภาพ ‘บิ๊กจิ๋ว’ ที่ไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน โดยเฉพาะเรื่องขา ที่เคยหกล้มเมื่อปีก่อน จนหัวฟาดพื้นมีเลือดออก ต้องทำกายภาพบำบัดอยู่โรงพยาบาลหลายเดือน

ล่าสุด ‘บิ๊กจิ๋ว’ ไม่ได้จัดงานวันเกิดที่บ้านพัก ที่หมู่บ้านปิ่นประภาคม ย่านแคราย เช่นเดิมทุกปี แต่มาจัดที่ร้านอาหารอิตาลี ย่านพระราม3 แทน พร้อมกับเปิดตัว น.ส.อรทัย กับสื่อครั้งแรก ในงานวันเกิดที่ไม่มี ‘หญิงหลุยส์’ เคียงข้างเช่นเดิม โดยพล.อ.ชวลิตมาซื้อบ้านพักอยู่กับ นางอรทัย ย่านเกษตรนวมินทร์แทนแล้ว
.
ซึ่งในงานวันเกิด นางอรทัย ก็นั่งรถตู้ข้างๆ และออกงานพร้อมกับ ‘บิ๊กจิ๋ว’ ซึ่ง พล.อ.ชวลิต ยืนยันว่าให้เกียรติกับภรรยาใหม่ เพราะพาออกงานสังคมทุกครั้ง ในงานวันเกิดก็เช่นกัน ที่ทานข้าว เป่าเค้ก ร้องเพลง เคียงข้างกัน ซึ่งก็สร้างรอยยิ้มให้ ‘บิ๊กจิ๋ว’ ไม่น้อย
.
ซึ่งบุคคลิกของ นางอรทัย เป็นคนแต่วตัวเรียบง่าย และมีอัธยาศัยดี ทักทายแขกที่ไปร่วมงานดี ดูแลอย่างทั่วถึง แต่ในเวลานั้นหลายคนก็ไม่ได้แปลกใจกับ นางอรทัย ว่าเป็นคนรักใหม่ของ ‘บิ๊กจิ๋ว’ แต่จำได้ว่าเคยเจอกันในบ้านพักย่านแคราย เวลาเปิดบ้าน จึงคิดว่ามาร่วมงานกันเท่านั้น ซึ่งในวันนั้นหลายคนก็ต่างถามกันว่า ‘หญิงหลุยส์’ หายไปไหน

จนมาได้คำตอบในสัปดาห์นี้ หลังมีภาพถ่ายระหว่าง ‘พ่อใหญ่จิ๋ว’ กับ นางอรทัย ถูกเผยแพร่ออกมา
.
แน่นอนว่าคำถามนี้ ถูกนำไปถาม ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ด้วย ในฐานะนายกฯเหมือนกัน และเป็นรุ่นพี่ จปร.1 กับ จปร.23 ซึ่งทำให้ ‘บิ๊กตู่’ ตกใจไม่น้อย ถึงกับถามย้ำและอวยพรด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ขอให้โชคดี”
.
แต่ไม่เท่าอาการของ ‘พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์’ อย่าง ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม รุ่นน้องจปร.17 ที่ถึงกับตกใจไม่เชื่อว่า ‘บิ๊กจิ๋ว’ แต่งงานใหม่ ถามย้ำหลายครั้ง แต่พอถูกถามว่า เมื่อไหร่จะถึงคิว ‘ลุงป้อม’ บ้าง ? ทำเอา พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธตอบทันที ก่อนอุทานว่า “หู้ยยย” แล้วขึ้นรถไป

เพราะ ‘บิ๊กป้อม’ ยังเป็นนายทหารที่‘ครองโสด’อยู่ แต่การเป็นโสดนี้ ก็ทำให้ พล.อ.ประวิตร มีเวลาให้กับเพื่อนๆและลูกน้องทุกคน จนนายทหารที่ใกล้ชิด ‘บิ๊กป้อม’ พูดตรงกันว่า “พี่ป้อมดูแลน้องๆเต็มที่” อีกทั้งเครือข่าย ตท.6 ที่เข้มแข็ง หรือที่เรียกกันว่า ‘แก๊งค์เพื่อนป้อม’ ก็ทำงานอยู่กับ พล.อ.ประวิตร และอยู่ในรัฐบาล
.
การไม่มี ‘ครอบครัว’ ของ พล.อ.ประวิตร ก็ทำให้ ‘มีเวลา’ มาทุ่มกับงาน จนสามารถสร้าง ‘บารมี’ ขึ้นมาเป็น ‘บิ๊กป้อม’ พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็ปฏิเสธการเป็น ‘บิ๊ก’ มาตลอดเพราะเกรงจะเป็นดาบสองคมกลับมาหาตัวเองได้ เพราะ ‘อำนาจ-บารมี’ หากใช้ไม่ถูกที่ถูกเวลา ก็จะเป็น ‘ภัย’ มากกว่า

คำถามที่ว่าทำไม ‘บิ๊กป้อม’ ไม่แต่งงาน ? ยังคงเป็นปริศนาอยู่ ไม่มีใครรู้คำตอบแน่ชัด ที่ผ่านมามีเพียงการพูดต่อๆกันมาในหลายเหตุผล ซึ่งเหตุผลที่แท้จริงมีเพียง ‘บิ๊กป้อม’ และบุคคลในครอบครัวที่ทราบชัดเจน
.
แม้ ‘บิ๊กป้อม’ จะไม่ได้แต่งงานและครองโสด ก็แทบไม่เคยมีข่าวเกี่ยวกับ ‘ความรัก’ หรือ ข่าวเรื่อง ‘ความสัมพันธ์’ กับใคร จนเป็นข่าวให้เสียหาย ซึ่งเป็นการ ‘วางตัว’ ที่ดีของ พล.อ.ประวิตร อีกทั้งการไม่มีครอบครัวก็ทำให้ไม่ต้องคอยระวังคนในครอบครัวถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือการจับจ้องจากสังคม
.
เรื่อง ‘หลังบ้าน’ ของ ‘นายทหาร’ หรือ ‘นักการเมือง’ จึงสำคัญไม่น้อยไปกว่า ‘หน้าบ้าน’ เพราะหลายบ้าน ก็มี ‘หลังบ้าน’ ที่เข้มแข็งและมีบทบาทพอๆกับ ‘หน้าบ้าน’ แน่นอนว่าหากสนับสนุนกันและมอบสิ่งที่ดีให้กัน ก็จะเป็น ‘แรงหนุน’ ที่ดีให้แก่กันไม่น้อย
.
การเมืองเรื่องหลังบ้าน !!