อติภพ ภัทรเดชไพศาล : นาร์โคคอร์ริโด ดนตรี ยาเสพติด กับชีวิตจริงในเม็กซิโก

“ด้วยปืนอาก้ากับบาซูก้าประทับบ่า

เราจะระเบิดหัวใครก็ได้ที่เข้ามาขวาง

เราเป็นพวกกระหายเลือด บ้า และโรคจิต

พวกเราชอบฆ่า!”

(เนื้อร้องท่อนแรกจากเพลง Sanguinarios Del M1 ของวง BuKnas De Culiacan)

เพลง Sanguinarios Del M1 เป็นการร่วมงานกันระหว่างกลุ่มศิลปิน BuKnas De Culiacan กับศิลปิน-นักแต่งเพลงชื่อดังชาวเม็กซิโก El Komander และยังประกอบไปด้วยศิลปินรับเชิญอื่นๆ จำนวนมาก

เพลง Sanguinarios Del M1 ได้รับการเผยแพร่ตั้งแต่ปี 2010 และเป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้ฟังทั้งในเม็กซิโกและบางส่วนของสหรัฐ จนถือกันว่าเป็นเพลงนำขบวนการของผู้นิยมดนตรีแนว “นาร์โคคอร์ริโด” (narcocorrido)

แนวดนตรี “นาร์โคคอร์ริโด” มีลักษณะสนุกสนาน เหมาะกับการเต้นรำ และเป็นที่นิยมในกลุ่มประเทศละตินอเมริกา

แต่ขณะเดียวกัน เนื้อหาของเพลงที่มักเกี่ยวพันอยู่กับเรื่องของความรุนแรงและยาเสพติด (คำว่า “narco” ก็บ่งชัดอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องของยาเสพติด) ก็ทำให้ดนตรีแนวนี้มักมีปัญหากับทางรัฐในประเด็นเรื่องศีลธรรมมาตลอด


จากเพลงพื้นบ้านสู่วัฒนธรรมป๊อป

ดนตรีนาร์โคคอร์ริโดมีต้นกำเนิดมาจากเพลงพื้นบ้านเก่าแก่ของสเปนที่สืบสาวกลับไปได้ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ในภาพกว้าง ดนตรีประเภทนี้ถูกเรียกว่า “norte?o-corrido” ซึ่งหมายถึงเพลงคอร์ริโดทางเหนือ (ของเม็กซิโก) เพลงคอร์ริโดส่วนหนึ่งเป็นเพลงปฏิวัติที่ใช้ในการปลุกระดมผู้คนในทศวรรษที่ 1910s

ศิลปินคนแรกๆ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับดนตรีนาร์โคคอร์ริโดคือ Chalino S?nchez นักร้องชาวเม็กซิกันผู้อพยพไปอยู่สหรัฐ และเริ่มต้นอาชีพจากการขับร้องเพลงเพื่อความบันเทิงในหมู่ผู้อพยพด้วยกัน แล้วจึงบันทึกเสียงจำหน่ายในลอสแองเจลิส (ซึ่งเต็มไปด้วยผู้อพยพเม็กซิกัน) และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในทศวรรษที่ 1980s

เนื้อเพลงของ Chalino S?nchez มีความหลากหลาย ทั้งเรื่องความรัก การปฏิวัติ ความเหลื่อมล้ำ วีรกรรมของบุคคลผู้ทรงอิทธิพล (มาเฟีย)

แต่ยังไม่มีเนื้อหาที่เกี่ยวพันกับเรื่องยาเสพติดอย่างโจ่งแจ้ง แต่ขณะเดียวกันก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าชีวิตของ S?nchez มีความจำเป็นต้องข้องเกี่ยวอยู่กับเรื่องของมาเฟียและธุรกิจการค้ายา ดังเห็นได้จากความร่ำรวยผิดธรรมดาของเขา

โดยเฉพาะวีรกรรมสุดห้าวหาญในปี 1992 เมื่อมีมือสังหารบุกขึ้นไปยิง S?nchez บนเวทีคอนเสิร์ต ปรากฏว่าเขาชักปืนออกมายิงสวนในทันทีและส่งผลให้มือสังหารนั้นเสียชีวิต

(แต่อย่างไรก็ตาม ในปีเดียวกันนั้นเอง S?nchez ก็ถูกอุ้มและสังหารด้วยการยิงที่ด้านหลังศีรษะสองนัด)

ชีวิตที่ฉูดฉาดของ S?nchez เป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นหลังจำนวนมาก และนักร้องนักแต่งเพลงแนวนาร์โคคอร์ริโดที่มีชื่อเสียงก็มักมีฐานการผลิตงานอยู่ในเขตสหรัฐ

ต่อมา เนื้อหาของเพลงแนวนาร์โคคอร์ริโดจึงเริ่มเปลี่ยนไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของยาเสพติดและกิจกรรมนอกกฎหมายอย่างโจ่งแจ้ง โดยการเปลี่ยนสไตล์ดนตรีในช่วงนี้ถูกเรียกว่า “Movimiento alterado” (หรือ altered movement)

Movimiento alterado

ในการให้สัมภาษณ์ของ Omar Velenzuela Rivera ผู้เป็น music producer ของบริษัท Twiins Music Group ซึ่งเผยแพร่งานนาร์โคคอร์ริโดแนวใหม่จำนวนมาก เขากล่าวว่า ดนตรีแนวใหม่แบบ Movimiento alterado ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดนี้ (เขาใช้คำว่า “บอกเล่าเรื่องราวความเป็นจริงในท้องถนนของเม็กซิโก”) เริ่มขึ้นในราวปลายทศวรรษที่ 2000s

(ดูเพิ่มเติมได้จากสารคดี Narco Music is the Soundtrack to the Mexican War on Drugs โดย VICE Channel เผยแพร่ออนไลน์เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2014)

Rivera กล่าวอีกด้วยว่า ในกุเลียกัน (Culiac?n) เมืองใหญ่แห่งรัฐซีนาโลอา (Sinaloa) ทางทิศพายัพของเม็กซิโก ชีวิตในท้องถนนที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและอาชญากรรมนั้นอาจถือเป็นเรื่องปกติ

สอดคล้องกับที่ศิลปินแนวนาร์โคคอร์ริโดอีกคนหนึ่งคือ Christian แห่งวง Los Poderosos ให้สัมภาษณ์ว่า ทุกชีวิตในกุเลียกันล้วนเชื่อมโยงกับธุรกิจการค้ายาเสพติดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จนพูดได้ว่าทุกคนในกุเลียกันจะต้องมีญาติหรือเพื่อนหรือคนรู้จักอย่างน้อยหนึ่งคนที่อยู่ในวงจรธุรกิจนี้

และธุรกิจมืดก็ย่อมนำมาซึ่งความร่ำรวยและชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อ ดังเนื้อเพลงเพลงหนึ่งของ El Komander ที่บรรยายไว้ว่า

“ข้าฯ มีชีวิตที่หรูหรา

ข้าฯ ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นคนจน

ความต้องการของข้าฯ นั้นแพงเสมอ

และข้าฯ ก็ใช้เงินไปแล้วเป็นล้านๆ”

อนึ่ง ความเชื่อมโยงของประชาชนทั่วไปในรัฐซีนาโลอากับธุรกิจยาเสพติด ยังสามารถเห็นได้จากปรากฏการณ์การเดินขบวนของผู้คนจำนวนมากเมื่อเดือนมีนาคม 2014 เรียกร้องให้ตำรวจปล่อยตัว El Chapo หรือนาย Joaqu?n Guzm?n หัวหน้ากลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่สุดของสินาลอที่ถูกทางการจับได้

(โดยที่ต่อมา El Chapo ก็แหกคุกออกทางอุโมงค์ลับในเดือนกรกฎาคม 2015 ก่อนจะถูกจับได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2016 นี้เอง)

นอกจากนั้น ทั้งในเม็กซิโกและรัฐทางใต้ของสหรัฐ เรายังอาจพบ “ศิลปินหน้าใหม่” ที่ปรากฏขึ้นและหายไปอย่างรวดเร็วโดยแทบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับวงการดนตรีในภาพรวมเลย และบ่อยครั้งที่ศิลปินเหล่านี้จะเปลี่ยนชื่อตัวหรือชื่อวงไปเรื่อยๆ การจัดการ “ศิลปินหน้าใหม่” เหล่านี้ แท้จริงแล้วคือส่วนหนึ่งของขบวนการฟอกเงินซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญหนึ่งในธุรกิจนอกกฎหมายนั่นเอง

และสำหรับตัวศิลปินเอง การโลดแล่นอยู่ในวงการนาร์โคคอร์ริโดก็ไม่ใช่เรื่องสนุกที่ไร้ความเสี่ยง เพราะเนื้อหาของเพลงที่บางครั้งไปกระทบต่อมาเฟียบางคนผู้อารมณ์แปรปรวนง่าย (รวมถึงเรื่องชู้สาวและการเขม่นกัน) อาจนำความตายมาสู่ตัวศิลปินได้อย่างไม่รู้ตัวเช่นกัน

ดังที่ผ่านมาก็ปรากฏว่ามีนักร้องนักแต่งเพลงนาร์โคคอร์ริโดที่มีชื่อเสียงโด่งดังถูกสังหารจำนวนมาก

ดนตรีต้องห้าม

การเชื่อมโยงชีวิตจริงของผู้คน ธุรกิจนอกกฎหมาย และการค้ายาเข้าไว้ด้วยกันด้วยเนื้อร้องของเพลงนาร์โคคอร์ริโดจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ทางการเม็กซิโกรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ และสั่งแบนงานเพลงประเภทนี้จากการออกอากาศทางวิทยุ

ซึ่งแน่นอนว่านั่นเป็นสิ่งที่ไร้ผล ในโลกที่อินเตอร์เน็ตเป็นสื่อกระแสหลักเช่นทุกวันนี้

ศิลปินชื่อดังอย่าง El Komander ผู้ที่มีพื้นเพเป็นคนขายเสื้อผ้าในลอสแองเจลิส ก็สร้างชื่อเสียงผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางหลัก ดังที่ล่าสุด เพลง Qu? Tiene De Malo ของวง Calibre 50 ที่มีเขาเป็นศิลปินรับเชิญนั้นมีจำนวนผู้ชมใน YouTube สูงถึงกว่า 100 ล้านครั้ง

El Komander กล่าวถึงการแบนดนตรีนาร์โคคอร์ริโดโดยรัฐว่าเป็นการกระทำที่เกิดจากความเข้าใจผิด เพราะนาร์โคคอร์ริโดไม่ได้หมายถึง “life style” คือไม่ได้หมายถึงรูปแบบการใช้ชีวิตอยู่กับความรุนแรงอย่างในเนื้อเพลงจริงๆ แต่เป็นเรื่องของเสียง “ดนตรี” เท่านั้น

เขาถึงกับกล่าวว่า ถ้าทางรัฐจะเหมารวมว่าดนตรีนาร์โคคอร์ริโดหมายถึงอาชญากรรม เมื่อนั้น ทางรัฐก็จะต้องนับพวกนักข่าวที่เขียนเรื่องการค้ายาเสพติดว่าเป็นพวก “narco-journalist” และเงินจำนวนมหาศาลที่สะพัดอยู่ทั่วเม็กซิโกก็ควรจะถูกเรียกว่าเป็น “narco-money” ด้วย

อย่างไรก็ตาม หลายรัฐในเม็กซิโกไม่ได้คิดแบบศิลปิน ในเดือนกันยายน 2015 จึงปรากฏการสั่งห้ามการแสดงดนตรีนาร์โคคอร์ริโดในสถานที่สาธารณะโดยเด็ดขาดในรัฐชิวาวา (Chihuahua) โดยกำหนดค่าปรับแก่ผู้ฝ่าฝืนเป็นจำนวนเงินสูงถึง 350,500 เปโซ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่าเจ็ดแสนบาท

ต่อมา รัฐซีนาโลอาก็ออกคำสั่งห้ามในลักษณะเดียวกัน หลังเกิดเหตุจลาจลในคอนเสิร์ตของวง Enigma Norte?o เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2016 อันส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน รวมเจ้าหน้าที่รัฐ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ทางรัฐโกอาวีลา (Coahuila) ได้ออกคำสั่งห้ามแสดงดนตรีนาร์โคคอร์ริโด และประกาศงดการสนับสนุนแก่สถานีวิทยุใดๆ ก็ตามที่ฝ่าฝืนคำสั่ง