โฟกัสพระเครื่อง/โคมคำ/เหรียญรุ่นแรกรูปไข่ มงคล ‘ครูบาผาผ่า’ ตนบุญแห่งแม่สะเรียง

ครูบาผาผ่า ปัญญาวโร

โฟกัสพระเครื่อง  โคมคำ

เหรียญรุ่นแรกรูปไข่

มงคล ‘ครูบาผาผ่า’

ตนบุญแห่งแม่สะเรียง

 

“ครูบาผาผ่า ปัญญาวโร” หรือ “พระครูปัญญาวรวัตร” อดีตเจ้าอาวาสวัดผาผ่า อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮองสอน และอดีตเจ้าคณะตำบลแม่คะตวน พระเถราจารย์ชื่อดังภาคเหนือ นักบุญที่ยิ่งใหญ่ของชาวแม่ฮ่องสอน ชื่อเสียงเกียรติคุณของท่าน เป็นที่รับรู้กันเป็นอย่างดี เปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมี มีศีลาจารวัตรยึดมั่นในสัมมาปฏิบัติ เคร่งครัดในพระกัมมัฏฐาน มีสมาธิแก่กล้า

ในห้วงที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่เคยสร้างวัตถุมงคลใดๆ มีเพียงผ้ายันต์ที่มีคนขอท่าน แต่ท่านทำให้เป็นรายบุคคล หลังจาSaveกมรณภาพ จึงมีคณะศิษย์ได้จัดสร้างรูปเหมือน พระผง และเหรียญของท่าน เพื่อเป็นอนุสรณ์น้อมรำลึกถึงคุณความดีและประกาศเกียรติคุณ

ในปี พ.ศ.2517 มีการจัดสร้างวัตถุมงคลเหรียญเป็นครั้งแรก จัดทำในนามของวัดกิตติวงศ์ อ.แม่สะเรียง ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ เนื้อทองแดง ด้านหน้าเหรียญ เป็นรูปเหมือนครูบาผาผ่าครึ่งองค์ เขียนข้างซ้ายว่า “พระครูปัญญาวรวัตร” ข้างขวาเขียนว่า “ตนบุญแห่งแม่สะเรียง” และด้านล่างเขียนว่า “ครูบาผาผ่า”

ส่วนด้านหลังเหรียญ เป็นรูปพระบรมธาตุวัดกิตติวงศ์ ด้านบนเขียนว่า “อำเภอแม่สะเรียงจังหวัดแม่ฮ่องสอน 2517 รุ่น 1 พิเศษ พระบรมธาตุ วัดกิตติวงศ์” ใต้รูปพระบรมธาตุฯ เขียนว่า “๒๕๑๗ รุ่น ๑ พิเศษ” จัดสร้างจำนวน 10,000 เหรียญ

เหรียญดังกล่าว เชื่อกันว่ามีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้าน ส่วนราคาเช่าหาบูชา ตามความคมชัดสวยงามของเหรียญ

จัดป็นอีกเหรียญหนึ่งที่นักสะสมพระเครื่อง ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

 

ครูบาผาผ่า มีนามเดิมว่า สวน คำภีระ เกิดที่หมู่บ้านผาผ่า ต.แม่คะตวน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮองสอน ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2432 ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 2 ปีฉลู

อายุ 17 ปี ได้รับการบรรพชา โดยมีครูบาเต๋ เป็นพระอุปัชฌาย์ ศึกษาคำภีร์มูลกัจจายน์พระสูตรและพุทธมนต์คาถา และพระกัมมัฏฐานจนมีความรู้ความสามารถ

ครั้นอายุครบ 21 ปี เข้ารับการอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดผาผ่า มีครูบาตุ้ย วัดห้วยสิงห์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการอินต๊ะ วัดบ้านใหม่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้นามฉายาว่า ปัญญาวโร มีความหมายว่า ผู้มีปัญญาอันประเสริฐ

ต่อมา ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดผาผ่า สืบแทนท่านครูบาเต๋จ๊ะ ซึ่งสิ้นอายุขัย

ด้านการปกครองคณะสงฆ์ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลและเป็นพระอุปัชฌาย์ในเขตตำบลแม่คะตวนมาเป็นเวลาอันยาวนาน

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2501 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่พระครูปัญญาวรวัตร

 

กล่าวได้ว่า ในดินแดนล้านนาแห่งภาคเหนือของประเทศไทย ชื่อเสียงของพระเถราจารย์ผู้เรืองวิทยาคม เปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมี มีศีลาจารวัตรยึดมั่น คือ “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” นักบุญแห่งล้านนา

แต่แม้กระนั้น ครูบาเจ้าศรีวิชัยเคยกล่าวยกย่อง ครูบาผาผ่า ปัญญาวโร วัดผาผ่า อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮองสอน ด้วย

เมื่อครั้งครูบาเจ้าศรีวิชัยมีชีวิตอยู่ ชาวเขาแม่สะเรียงจำนวนมากได้หลั่งไหลกันไปทำบุญขอศีลขอพรกับครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่เชียงใหม่ และช่วยกันทำงาน เช่น สร้างทางขึ้นดอยสุเทพ เป็นต้น

ด้วยการคมนาคมในสมัยนั้นแสนทุรกันดาร ไม่มีถนนให้รถราวิ่งสะดวกอย่างปัจจุบัน จากอำเภอแม่สะเรียงไปเชียงใหม่ ต้องเดินเท้า ใช้เวลาเดิน 5-7 วัน เดินขึ้นเขาลงห้วย

ครูบาเจ้าศรีวิชัยเห็นความลำบากของพี่น้องชาวอำเภอแม่สะเรียง ที่ต้องเดินทางมาไกลด้วยความลำบากเช่นนั้น จึงได้บอกว่า “ต่อไปไม่จำเป็นจะต้องมาทำบุญขอศีลขอพรกับอาตมาถึงที่นี่ก็ได้ มีอะไรก็ให้ไปหาตุ๊น้องที่วัดดอยล้อม ที่เมืองยวมโน้นก็ได้ เพราะท่านก็มีบุญบารมีแก่กล้าทุกอย่างเหมือนกัน เพียงแต่ตุ๊น้องไม่ชอบแสดงตนเท่านั้น”

คำว่า ตุ๊น้อง หมายถึง ครูบาผาผ่านั่นเอง

เหรียญครูบาผาผ่า

 

นับแต่นั้นมาบรรดาชาวพุทธ ทั้งชาวเขาอำเภอแม่สะเรียง ต่างพากันไปทำบุญให้ทานขอศีลขอพรกับท่านครูบาผาผ่ามากขึ้นโดยมิได้ขาด มีบางคนไปขอยารักษาโรค น้ำมนต์ วัตถุอันเป็นมงคลเพื่อความสุขความสวัสดีแก่ตนและครอบครัว

ครูบาผาผ่า เป็นพระที่มีอุปนิสัยที่เยือกเย็นสุขุมนุ่มลึก พูดจาสิ่งใดล้วนคิดไตร่ตรองก่อนทุกครั้ง คือ ท่านมีสติตลอดเวลา มีความเมตตาต่อศิษยานุศิษย์เป็นอย่างสูง ขณะเดียวกัน มีความเด็ดขาดมั่นคงทางใจ ใบหน้าผิวพรรณท่านผ่องใสผิดคนธรรมดา เนื่องจากท่านไม่เคยมีความโลภ ไม่ใส่ใจในเงินทอง ไม่สะสม ไม่มีความอยากในเรื่องขบฉัน

ครูบาผาผ่า ตนบุญแห่งอำเภอแม่สะเรียง จึงเป็นพระภิกษุรูปเดียวที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยยกย่องประกาศเกียรติคุณ

ด้านวัตถุมงคลก็เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่ามีความเข้มขลัง พุทธคุณโดดเด่น โดยเฉพาะด้านเมตตามหานิยม แคล้วความจากอุบัติเหตุเภทภัยอันตราย

ถึงแก่มรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2504 สิริรวมอายุได้ 72 ปี

แม้จะมรณภาพไปแล้วก็ตาม แต่คุณความดีเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ มีสาธุชนเป็นจำนวนมาก เมื่อทราบประวัติเกียรติคุณแล้ว ต่างเสาะแสวงหาวัตถุอันเป็นมงคลที่เกี่ยวเนื่องกับท่าน

นับเป็นพระเถราจารย์ระดับแนวหน้าในยุคนั้น