จริงตนาการ : ช้างศึกส่งออก งานหนักในลีกใหญ่ที่แข้งไทยต้องฝ่าฟัน

คอลัมน์เขย่าสนาม

ดูเหมือนว่านักเตะไทยจะขายดิบขายดีส่งออกไปเล่นในลีกใหญ่ของเอเชีย และลีกยุโรปกันหลายคน

ต่อยอดจากความสำเร็จของ “เจ” “ชนาธิป สรงกระสินธ์” ที่ “เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด” ปล่อยตัวให้ “คอนซาโดเล ซัปโปโร” ทีมในเจลีก ญี่ปุ่น ยืมตัวไปร่วมทีม และสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม มีส่วนร่วมกับต้นสังกัดเกือบทุกแมตช์ พาทีมไปไกลกว่าการหนีตกชั้น และเป็นขวัญใจคนใหม่ของแฟนบอลไปเป็นที่เรียบร้อย

เจลงเล่นในเจลีก 16 นัด เป็นตัวจริง 15 นัด จ่ายบอล 469 ครั้ง ผ่านบอลสำเร็จ 83.4 เปอร์เซ็นต์ ผ่านบอลยาวสำเร็จ 63 เปอร์เซ็นต์ สร้างโอกาส 16 ครั้ง แอสซิสต์ 1 ประตู แต่ยังไม่สามารถยิงประตูได้

ถือเป็นการสร้างชื่อในเจลีกที่น่าปรบมือให้ของนักเตะไทยบนแผ่นดินญี่ปุ่นเลยทีเดียว

 

หลังปิดฤดูกาลของโตโยต้า ไทยลีก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็ปล่อยนักเตะคนสำคัญของทีมและล้วนแต่เป็นทีมชาติไทยออกไปเพิ่มอีก 3 คน คือ “มุ้ย” “ธีรศิลป์ แดงดา” กองหน้าคนสำคัญ “อุ้ม” “ธีราทร บุญมาทัน” แบ๊กจอมดุดัน และคนล่าสุด “ตอง” “กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์” นายทวารมือหนึ่งของทีมชาติไทย

ธีรศิลป์ไปร่วมทีม “ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิมา” ในเจลีก ธีราทรไปเล่นให้กับ “วิสเซล โกเบ” ทีมจากเจลีกเช่นกัน ทั้งคู่ย้ายไปด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี

ด้านกวินทร์ต้องเดินทางไกลกว่าใคร เมื่อย้ายไปร่วมทีม “โอเอช ลูเวิน” ในพร็อกซิมุสลีก หรือดิวิชั่น 2 ของเบลเยียม ซึ่งเป็นทีมน้องของ “จิ้งจอกสยาม” “เลสเตอร์ ซิตี้”” ที่มีคิง เพาเวอร์เป็นเจ้าของอยู่นั่นเอง

ดูจากฝีเท้าของนักเตะเหล่านี้แล้ว ต้องยอมรับว่าพวกเขาเป็นนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ของประเทศไทย การส่งออกไปเล่นในลีกที่แข็งกว่าย่อมมีความเป็นไปได้ทั้งในรูปแบบที่ต้นสังกัดใหม่สนใจจริงๆ และการช่วยกันดันเพื่อให้ได้ไปพิสูจน์ตัวเองของคนในวงการฟุตบอลไทย

ว่ากันจริงๆ แล้วธีรศิลป์และธีราทรมีดีพอที่จะค้าแข้งในเจลีกได้ไม่ยาก

แต่ปัญหาของธีรศิลป์นั้น คือการเป็นกองหน้า ผลงานจะดีหรือไม่ วัดกันที่จำนวนประตู การแบกศักดิ์ศรีดาวซัลโวไทยลีกไปนั้นย่อมต้องสร้างความกดดันให้มุ้ยไม่มากก็น้อย

ความผิดหวังจากการไปค้าแข้งกับ “อัลเมเรีย” ในสเปน น่าจะเป็นแรงผลักดันให้มุ้ยได้มากทีเดียว

 

ส่วนธีราทรนั้น เยี่ยมยอดทั้งเกมเล่นเกมรับ และการช่วยเกมรุกด้านข้าง รวมทั้งมีลูกตั้งเตะที่ไว้ใจได้ สุดท้ายอยู่ที่โอกาสและเวลาในการมีส่วนร่วมกับทีมเท่านั้น

คนที่น่าห่วงที่สุด หนีไม่พ้นกวินทร์ที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของแฟนบอลโอเอช ลูเวิน สังกัดใหม่ของเขาในแง่ที่ว่าไม่เข้าใจว่าบอร์ดบริหารจะดึงนายทวารมาเสริมทีมอีกทำไม ในเมื่อทีมมีผู้รักษาประตูฝีมือดีอยู่กับทีมถึง 3 คนแล้ว สิ่งที่ต้องการตอนนี้คือ กองหน้า เพราะทีมขาดนักเตะที่ยิงประตูแบบพึ่งพาได้

หลังจากที่มีการประกาศข่าวว่าเจ้าตองได้ตกลงย้ายไปร่วมทีมด้วยสัญญายาว 5 ปี เฟซบุ๊กของสโมสรก็มีวิวาทะของแฟนบอลเบลเยียมกับแฟนบอลชาวไทยเกิดขึ้นอย่างเผ็ดร้อน แต่คนไทยจำนวนมากที่เข้าไปช่วยกันโพสต์ขอโอกาสให้ผู้รักษาประตูชาวไทยได้พิสูจน์ตัวเองก่อนจะโดนวิจารณ์

กวินทร์ถือเป็นผู้รักษาประตูที่เยี่ยมยอดคนหนึ่งในวงการฟุตบอลเอเชีย มีรูปร่างที่เหมาะสม ลงเล่นให้กับทีมชั้นนำของประเทศอย่างเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดมาตั้งแต่อายุยังน้อย และประสบความสำเร็จกับทีมในระดับประเทศและคว้าแชมป์ในระดับอาเซียนกับทีมชาติไทยมาแบบไม่มีข้อกังขาแล้ว

แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตจากแฟนบอลเบลเยียมว่า ทำไมถึงกล้าเอานักเตะที่ไม่เคยเล่นนอกทวีปเอเชียมาเฝ้าเสาให้กับทีมในลีกที่มาตรฐานสูงกว่าได้?

คำตอบที่ตรงที่สุด คือ การที่เจ้าของโอเอช ลูเวินเป็นชาวไทยเหมือนกับกวินทร์นั่นเอง

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าของสโมสรอยากจะเอานักเตะในประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองมาเล่นในทีม และถ้านักเตะคนนั้นมีฝีเท้าที่มีโอกาสจะเล่นได้ ก็ไม่เสียหายที่จะลอง

ความกดดันถาโถมใส่กวินทร์ตั้งแต่ยังไม่ออกเดินทาง ถือว่าเป็นงานหนักของนายทวารทีมชาติไทยคนนี้ ซึ่งเจ้าตัวก็รู้ดีว่าจะต้องเจออะไรบ้าง

“ในความคิดของผม ผมอยากจะไปหาประสบการณ์ อยากไปหาความท้าทายใหม่ๆ ส่วนตัวผมไม่อยากจะไปเปรียบเทียบกับใคร ซึ่งตรงนี้ผมไม่รู้หรอกว่าไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าไปแล้วจะสู้เขาได้ไหม ด้วยความเป็นนักกีฬาด้วยความที่ต้องมีใจสู้ผมก็พร้อมที่จะสู้ และมั่นใจที่จะสู้” ตองเปิดใจหลังตกลงย้ายทีมเป็นที่เรียบร้อย

ไนเจล เพียร์สัน อดีตกุนซือเลสเตอร์ ซิตี้ ที่ปัจจุบันคุมทัพโอเอช ลูเวินอยู่ แนะนำให้กวินทร์โฟกัสอยู่ที่การฝึกซ้อม เมินคำวิจารณ์ต่างๆ นานา ถ้าการฝึกซ้อมออกมาดี โอกาสในการลงสนามก็จะตามมาเอง

 

ถ้าพิจารณาคู่แข่งในตำแหน่งผู้รักษาประตูของกวินทร์ในทีมโอเอช ลูเวินนั้น เอาว่าไม่เข้าข้างคนไทยด้วยกันนัก ต้องบอกเลยว่าขอเวลาไม่นานกวินทร์มีสิทธิจะได้บินโชว์ในสนามเดน ดรีฟ อย่างแน่นอน

คนแรก “นิก กิลเลเค่นส์” ผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีมวัย 25 ปี เป็นคนพื้นเมืองลูเวิน และลงเล่นให้กับทีมนี้มาตั้งแต่เป็นนักเตะเยาวชน ขยับขึ้นทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2015 ถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญที่สุดที่กวินทร์ต้องเบียดแย่งมือหนึ่ง เพราะกิลเลเค่นส์ดูดีที่สุดในบรรดาคู่แข่งทั้ง 4 คน

คนที่สอง “โลร็อง อองคิเน่ต์” ผู้รักษาประตูวัย 25 เช่นกัน แต่ผลงานที่ผ่านมาไม่สู้ดีนัก เคยเฝ้าเสาให้ “วาสส์แลนด์-เบเวอเรน” ในลีกสูงสุดของประเทศมาแล้ว และเสียไปถึง 50 ประตูจาก 22 นัด จนถูกยกเลิกสัญญา ก่อนจะย้ายมาเล่นให้ลูเวินนั่นเอง การลงเล่นให้ลูเวินใน 2 นัดแรก ก็โดนส่งไปอีก 5 ลูก

คนที่สาม “บูบาการ์ แบร์รี่” หรือ “บูบาการ์ โคปา” อดีตผู้รักษาประตูเบอร์หนึ่งทีมชาติไอวอรีโคสต์ วัย 38 ปี ที่มีประสบการณ์อย่างสูงในลีกเบลเยียม แต่เพิ่งมาร่วมทีมในฤดูกาลนี้ และยังไม่ได้ลงเล่นเลย

คนที่สี่ “อันเดรียส ซูเดริก” ผู้รักษาประตูวัย 18 ปี ที่มีชื่อเป็นตัวสำรองแล้ว แต่ยังไม่เคยได้ลงเล่น เป็นเด็กปั้นของอันเดอร์เลช ทีมดังของเบลเยียม แต่น่าจะเป็นนักเตะแห่งอนาคตของทีมมากกว่าจะเบียดแย่งมือหนึ่งในเร็วๆ นี้

เมื่อดูชื่อชั้นและผลงานของผู้รักษาประตู 4 คนที่ลูเวินมีอยู่นั้นไม่ได้น่ากลัวขนาดที่ว่ากวินทร์จะเบียดแย่งไม่ไหว มีเพียงกิลเลเค่นส์คนเดียวเท่านั้นที่อันตรายสุด

ลูเวินเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุด หลังจบ 8 นัดในสเตจที่สองของพร็อกซิมุสลีกอยู่แล้ว เท่ากับ “ลีเซ่ร์” จ่าฝูงเสียเท่ากันที่ 7 ประตู เรื่องของแนวรับไม่น่าห่วง แต่ติดปัญหาที่กองหน้ายิงน้อยเกินไป ทำให้โอกาสจะได้เพลย์ออฟเลื่อนชั้นไปเล่นลีกสูงสุดก็ไม่เปิดกว้าง แต่ไม่ถือว่าปิดตาย เพราะตามจ่าฝูงที่ 6 แต้ม มีให้ลุ้นอีก 6 นัด

ตอนนี้ต้องให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง โดยเฉพาะการกัดฟันสู้เพื่อแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงในทีมให้ได้ เชื่อว่าจะมีคนที่แพ้และต้องกลับบ้าน และผู้ที่ประสบความสำเร็จแบบที่ชนาธิปทำให้เห็นอยู่เช่นกัน

แต่สิ่งที่นักเตะชุดนี้ได้ทำคือ การเปิดทางให้รุ่นน้องได้ทยอยกันมาค้าแข้งในลีกที่แข็งกว่าบ้านเรา และนำเอาประสบการณ์ไปช่วยทีมชาติไทยให้พัฒนามากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่