ไทม์เอาต์/Red Monster /เรื่องราววุ่นๆ ‘นักบาสเอ็นบีเอ’ ฉีด-ไม่ฉีด วัคซีนโควิด-19

FILE PHOTO: Jun 5, 2021; Brooklyn, New York, USA; Brooklyn Nets point guard Kyrie Irving (11) reacts after making a basket against the Milwaukee Bucks during the second quarter of game one in the Eastern Conference semifinals of the 2021 NBA Playoffs at Barclays Center. Mandatory Credit: Brad Penner-USA TODAY Sports/File Photo

ไทม์เอาต์/Red Monster

เรื่องราววุ่นๆ ‘นักบาสเอ็นบีเอ’

ฉีด-ไม่ฉีด วัคซีนโควิด-19

ศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอสหรัฐ ซีซั่นใหม่ 2021-2022 เริ่มเปิดฉากตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม

ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลายดี มีรายงานว่านักกีฬากว่า 95% ฉีดวัคซีนแล้วในช่วงที่หลายๆ ทีมเข้าแคมป์ฝึกซ้อมและลงเกมปรีซีซั่น

ที่ผ่านมามีนักบาสเอ็นบีเอหลายรายยืนยันว่าจะไม่ฉีดวัคซีน บางคนปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าได้ฉีดแล้วหรือยัง

ทาง เอ็นบีเอ แม้ไม่ได้มีการบังคับนักกีฬาว่าต้องฉีดวัคซีน แต่ก็ให้อยู่ภายใต้มาตรการด้านสุขภาพในท้องถิ่นนั้นๆ และเอ็นบีเอยังเปิดช่องให้ทีมต่างๆ งดจ่ายค่าจ้างผู้เล่นได้ในกรณีที่ชวดลงสนามเพราะไม่ได้ฉีดวัคซีน หากมีเกมที่ต้องลงเล่นในเมืองที่มีมาตรการเข้มข้น

ในนิวยอร์กและซานฟรานซิสโก มีข้อบังคับว่านักกีฬาอาชีพทุกคนที่แข่งขันในสนามในร่ม จะต้องมีหลักฐานยืนยันว่าได้ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส ถึงจะร่วมแข่งขันได้

ยกเว้นมีเหตุผลทางศาสนาหรือมีข้อยกเว้นทางการแพทย์เฉพาะบุคคล

 

ด้วยมาตรการท้องถิ่นนั้น ส่งผลให้หลายคนจับจ้องไปที่ ไครี่ เออร์วิ่ง พอยต์การ์ดตัวเก่งของ บรู๊กลิน เน็ตส์ หนึ่งในคนที่แสดงจุดยืนว่าไม่ต้องการฉีดวัคซีน

“พวกคุณก็เลือกสิ่งที่ดีที่สุดของคุณไป ผมไม่ได้อยู่ข้างไหนทั้งนั้น แค่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง รู้ดีว่าผลตามมาคืออะไร ถ้าสิ่งที่ทำลงไปจะทำให้คนอื่นมาตัดสิน หรือถูกมองว่าเป็นคนไม่ดี ก็ต้องปล่อยให้เป็นอย่างนั้น” เออร์วิ่งระบุ

ด้วยการตัดสินใจของเออร์วิ่งบวกกับมาตรการคุมโควิดของท้องถิ่น ส่งผลให้เขาไม่สามารถฝึกซ้อมหรือลงสนามให้ทีมในถิ่นที่นิวยอร์กได้ จนกว่าจะฉีดอย่างน้อย 1 โดส ซึ่งหมายความว่า เขาส่อชวดเงินค่าจ้างครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการพลาดเกมในบ้านของต้นสังกัด

พอยต์การ์ดวัย 29 ปี เผยอีกว่า ถึงจะไม่สามารถฝึกซ้อมหรือแข่งขันกับทีมได้ รวมทั้งไม่ได้รับค่าเหนื่อยตามที่ลีกบาสเกตบอลเอ็นบีเอประกาศ ก็ไม่คิดจะอำลาวงการ หรือหันหลังให้ลีก เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ

เรียกได้ว่าเออร์วิ่งมีความแน่วแน่ต่อการตัดสินใจของตัวเองมากๆ แม้อาจชวดเงินค่าจ้างบางส่วน แต่ก็พร้อมจะทำเพื่อสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับร่างกายของเขา

 

ด้านสตาร์ดังอย่าง เลอบรอน เจมส์ ของ แอลเอ เลเกอร์ส ซึ่งเคยมีความลังเลที่จะฉีดในตอนแรก บอกว่าศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนพอสมควรก่อนที่จะตัดสินใจเข้าฉีด โดยทำเพื่อตัวเอง ครอบครัว และเพื่อนๆ แต่จะไม่ไปก้าวก่ายคนอื่นๆ ว่าควรฉีดหรือไม่

ขณะที่ตำนานผู้เล่นอย่าง คารีม อับดุล-จับบาร์ ตำนานแชมป์เอ็นบีเอ 6 สมัย ได้กล่าวอย่างเผ็ดร้อน โดยบอกว่าถ้านักบาสไม่ยอมฉีดวัคซีน ก็ควรจะถูกตัดชื่อออกจากทีม และอยากให้เอ็นบีเอกำหนดเป็นเกณฑ์ที่ชัดเจนไปเลย

“ไม่มีพื้นที่สำหรับผู้เล่นที่เต็มใจเพิ่มความเสี่ยงทางด้านสุขภาพให้กับเพื่อนร่วมทีม สตาฟฟ์ และแฟนๆ เพียงเพราะไม่เข้าใจถึงความร้ายแรงของสถานการณ์และไม่หาข้อมูลให้เพียงพอ” อับดุล-จับบาร์ ระบุ

ขณะที่ ไมเคิล จอร์แดน ตำนานลีกยัดห่วงอีกรายบอกว่าเห็นด้วยกับมาตรการของลีกเอ็นบีเอ เชื่อมั่นในวิทยาศาสตร์ และหวังว่าทุกคนจะปฏิบัติตามกฎของลีก คิดว่าหากทุกคนยอมรับ ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี

 

เมื่อถามว่านักกีฬาที่ไม่ฉีดวัคซีนอาจต้องรับมือกับกฎอะไรอีกบ้างนั้น

บีบีซีระบุว่า สำหรับผู้เล่นฝ่ายทีมเยือนจะได้รับการยกเว้นจากข้อบังคับด้านวัคซีนในท้องถิ่น ดังนั้น ผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนก็สามารถเล่นเกมเยือนในนิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก หรือแอลเอได้

อย่างไรก็ตาม พวกเขาเหล่านั้นจะต้องเข้ารับการตรวจทุกวันก่อนเข้าร่วมกับทีมหรือมีปฏิสัมพันธ์กับโค้ชและนักกีฬาคนอื่นๆ ในขณะที่ผู้เล่นที่ได้รับวัคซีนจะต้องรับการตรวจก็ต่อเมื่อแสดงอาการป่วยหรือเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีผลบวก

นอกจากนี้ ผู้เล่นที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนอาจเสี่ยงเจอโทษจำคุกได้ในขณะที่ไปเล่นเกมเยือนที่โตรอนโตในแคนาดาด้วย

ตามมาตรการกักกันของแคนาดา จะต้องเข้ารับการตรวจโควิดเมื่อเดินทางไปถึงประเทศ และจะได้รับอนุญาตเดินทางออกจากห้องพักในโรงแรมสำหรับกิจกรรมของทีมเท่านั้น ซึ่งหากใครฝ่าฝืนอาจถูกจำคุกสูงสุด 6 เดือน และ/หรือปรับ 750,000 ดอลลาร์สหรัฐ

เชื่อว่าการที่นักกีฬาจะตัดสินใจฉีดหรือไม่ ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ย่อมมีสิทธิในร่างกายของตัวเอง

แต่หากจะเข้าร่วมสังคม ไม่ว่าจะในลีกเอ็นบีเอและใช้ชีวิตในท้องถิ่นนั้นๆ ก็ต้องเข้าใจกฎกติกาส่วนรวม และยอมรับผลที่ตามมาจากการตัดสินใจของตนเองด้วยเช่นกัน