เนย์มาร์…ไม่น่าสิ้นคิด

คอลัมน์ Technical Time-Out /คนโดนสิงห์

แม้ชีวิตนี้ยังไม่เคยได้รางวัล “บัลลงดอร์” แต่ “เนย์มาร์” กำลังเข้าใกล้เป็นนักเตะระดับโลกตาม ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้าไปอีกก้าว หลังสร้างมูลค่าตัวเองในการตกเป็นข่าวย้ายทีมแบบมหากาพย์ เหมือน 2 รุ่นพี่ที่ว่ามาไม่มีผิด ทั้งที่การออกมาพูดผ่านสื่อ หรือกระดิกนิ้วผ่านโลกโซเชียลสมัยนี้ ก็เป็นอันรู้แล้วว่าจะ “ย้าย” หรือ “ไม่”

แต่ถ้าทำอย่างนั้น ก็ไม่สมราคานักเตะ “ระดับ” โลก! มันต้องมีเชิง ยึกยัก ทิ้งให้นักข่าว และแฟนบอล หรืออาจรวมทั้งต้นสังกัดคิดกันให้หัวแตกเล่น

“เมสซี่” เคยทำเป็นตัวอย่างให้เห็นไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เรียกได้ว่าขู่หนี “บาร์ซ่า” แทบทุกปี “โรนัลโด้” เองก็เช่นกัน ตั้งแต่ตอนย้ายจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มารีล มาดริด จนย่างเข้าสู่ปีที่ 9 ในถิ่นซานเตียโก้ เบร์นาเบว ก็ไม่เบื่อกับลูกไม้เดิมๆ

ไม่ว่ามันจะเป็นการนั่งเทียนเขียนของนักข่าว หรือแอบเป็นฝ่ายปล่อยข่าวเสียเอง แล้วปล่อยให้ไฟลามทุ่ง โดยเฉพาะช่วงปิดฤดูกาลนี้ ซึ่งทั้งคู่พร้อมใจจัดหนักจัดเต็มแบบไม่ได้นัดหมาย

 

กว่าเมสซี่จะต่อสัญญาเล่มใหม่ต้องรอให้เหลือปีสุดท้าย ก่อนได้ค่าจ้างหลังหักภาษีเพิ่มจากเดิมที่รับสัปดาห์ละ 365,000 ปอนด์ เป็นครึ่งล้านปอนด์

ส่วนโรนัลโด้ที่อุตส่าห์อัพเกรดค่าเหนื่อยเท่าเมสซี่ในการต่อสัญญาปลายปีที่ผ่านมา ทนเห็นอีกฝ่ายเร่งหนีไปที่ 500,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ไม่ได้ ปั่นกระแสไม่พอใจทีม “ราชันชุดขาว” กรณีปกป้องตัวเอง คดีหลบเลี่ยงการจ่ายภาษีให้รัฐบาลสเปน และอาจหาทางออกย้ายไปเล่นให้ทีมเงินถุงเงินถังปารีส แซงต์แชร์แมง

ถึงไม่มีสัญญาฉบับใหม่จากมาดริดมาดับความร้อนแรงของข่าว แต่อีกไม่นานค่าจ้างระดับเดียวกับเมสซี่ต้องมาวางอยู่บนตักโรนัลโด้ร้อยเปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ตาม ด้วยฝีเท้าและผลงานที่เป็นรูปธรรมของทั้งคู่ ก็เหมาะสมแล้วที่สโมสรร่ำรวยเงินทองอย่างบาร์เซโลน่า และรีล มาดริด ต้องยอมทุ่มเงินมัดใจไปเรื่อยๆ หากไม่อยากเสี่ยงขายเมสซี่ และโรนัลโด้ออกไป แล้วระดับทีมเกิดตกลงไป ซึ่งอาจกระเทือนต่อรายรับในทุกๆ ด้าน

 

จึงไม่แปลกที่เนย์มาร์จะลอง” “วัดกำลังภายใน”” ดูสักตั้งว่า ตัวเองเข้าข่ายดีพอในการทาบรัศมีกับอีก 2 คนแล้วหรือไม่ หลังเป็นลูกน้องเมสซี่ตลอด 4 ปี และได้แชมป์มาแล้วทุกรายการที่ลงเล่น ทั้งลาลีก้า สเปน 2 สมัย, โกปา เดล เรย์สเปน 3 สมัย, สแปนิช ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย และแชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย ขาดเพียงแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2015 ที่บาร์ซ่าชนะเซบีญ่าช่วงต่อเวลาพิเศษ 5-4 เพราะอาการป่วย

ส่วนผลงานระดับชาติ แม้จะทำให้คนบราซิลผิดหวังกับการตกรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2014 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ ด้วยโศกนาฏกรรมลูกหนังที่ทีม “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ยัดเยียดให้

แต่วันนั้นไม่มีเนย์มาร์อยู่ในสนาม เนื่องจากหลังแทบหักในเกมชนะโคลอมเบียก่อนหน้านั้น ตามด้วยการตกรอบ 8 ทีมแบบขายขี้หน้าต่อการดวลจุดโทษปารากวัย ศึกโคปา อเมริกา ปีถัดมา

ทว่า อดีตแข้งซานโตสช่วยให้บราซิลคว้าเหรียญทองฟุตบอลครั้งแรก ในประวัติศาสตร์กีฬาโอลิมปิก 2016 ที่นครรีโอ เดจาเนโร เป็นเจ้าภาพ

 

ดังนั้น คงไม่ผิดที่เนย์มาร์ในวัยกลัดมัน 25 ปี จะลองวัดใจบาร์ซ่า และแฟนบอลทั่วโลกกับข่าวคิดเป็น “หัวหมา ดีกว่าหางราชสีห์” เมื่อปารีส แซงต์แชร์แมง ที่มีประวัติตามจีบเมสซี่และโรนัลโด้ ที่ได้รางวัลบัลลงดอร์รวมกันถึง 9 สมัยมาตลอด หันมามองเขา และพร้อมทุ่มเงินให้บาร์ซ่าที่เพิ่งทำค่าฉีกสัญญากับเนย์มาร์ไม่ถึง 10 เดือน ด้วยค่าตัวปีแรก 200 ล้านยูโร และเพิ่มเป็น 222 ล้านยูโรในปีที่ 2 และ 250 ล้านยูโรในปีที่ 3

แล้วไม่มีท่าทีตั้งโต๊ะปฏิเสธข่าวอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกที่กระแสข่าวทั้งหนักหน่วง และสับสนไปมาราวกับเป็นเมสซี่หรือโรนัลโด้ จนประธานสโมสร และเพื่อนร่วมทีมต้องออกมาแก้ต่างกันพัลวันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งมันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น

เพราะนักเตะที่มีลูกล่อลูกชนในสนาม ไม่ใช่แข้งสาย “แฟร์เพลย์” อย่างเนย์มาร์คงไม่สิ้นคิดไปสร้างบารมีเพื่อให้ตัวเองทัดเทียมเมสซี่และโรนัลโด้ที่เมืองหลวงฝรั่งเศส กับลีกรั้งท้ายของบิ๊กไฟว์ยุโรป แม้จะมีเงินเป็นฟ่อนยั่วยวนอยู่ก็ตาม

สู้รอปีหน้าให้ “ปีศาจแดง” ของ โจเซ่ มูรินโญ่ มาสู่ขอจะเข้าท่ามากกว่า

แต่สุดท้ายหากปารีสได้ตัวไปจริงๆ บอกได้คำเดียวเลยว่า “เนย์มาร์” สิ้นคิดสิ้นดี!