เขย่าสนาม/เงาปีศาจ/วิเคราะห์สาเหตุ ‘ช้างศึก’ ฝันสลายคัด ‘บอลโลก’ ถึงเวลาคิดใหม่-ทำใหม่

เขย่าสนาม/เงาปีศาจ [email protected]

 

วิเคราะห์สาเหตุ ‘ช้างศึก’

ฝันสลายคัด ‘บอลโลก’

ถึงเวลาคิดใหม่-ทำใหม่

 

เป็นอันว่าทีมฟุตบอลไทย ฉายา “ช้างศึก” ตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มจี ไม่สามารถทะลุเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว

ต้องยอมรับกันตามตรงว่า พลพรรคช้างศึกของกุนซืออย่างอากิระ นิชิโนะ ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง ในการไปเตะที่สนามกลาง ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) หลังจากมีการแพร่ระบาดของไวรัส “โควิด-19”

ก่อนไปยูเออี เราเหลืออีก 3 นัด เตะไป 5 นัด มี 8 แต้ม เรียกได้ว่ายังมีลุ้นอยู่เต็มตัว ขอเพียงทีมฟุตบอลไทยเอาชนะอินโดนีเซียและมาเลเซียให้ได้ ส่วนเกมกับเจ้าถิ่นยูเออี ขอเพียงเสมอ หากเป็นไปตามที่คาดเราจะเก็บเพิ่ม 7 แต้ม รวมเป็น 15 แต้ม แทบจะการันตีเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายโซนเอเชีย

แต่อย่างที่เราทราบกันดีว่า นัดแรกที่พบกับอินโดนีเซีย เราทำได้แค่เสมอ 2-2 ทั้งที่ออกนำ 2 ครั้ง 2 ครา แต่ก็มาพลาดกันง่ายๆ และนั่นคือหายนะ เมื่อเรายังก้าวไม่พ้นทีมอาเซียน ทำแต้มหล่นง่ายๆ ทำให้งานในนัดที่จะพบกับยูเออียากขึ้น

เป้าหมายกับยูเออี เราต้องชนะสถานเดียว จากที่คิดกันไว้ว่าเสมอได้ ทำให้แผนทุกอย่างพังพินาศ เราต้องเปิดเกมแลกกับยูเออี และสกอร์ที่ออกมาก็เป็นไปตามคาด “ช้างศึก” พ่ายยูเออี 1-3 ตกรอบสนิท

ดับฝันวลีเด็ดที่นำมาปลุกขวัญกันมานาน “บอลไทยจะไปบอลโลก”

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทีมฟุตบอลไทยต้องผิดหวัง ทั้งกับมหกรรมใหญ่อย่างปรีโอลิมปิกและคัดเลือกฟุตบอลโลก เราเจอกับความผิดหวังและคราบน้ำตากันมาตลอด แม้กระทั่งซีเกมส์ ทีมฟุตบอลไทยก็เคยตกรอบไม่ได้แชมป์มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

แต่ทุกๆ ครั้งที่ทีมฟุตบอลไทยหกล้มคลุกคลานจะได้รับกำลังใจ แรงสนับสนุนจากแฟนบอลไทยเพื่อลุกขึ้นมาใหม่อีกครั้งเสมอ

เรายังเหลือโปรแกรมทิ้งทวนนัดสุดท้ายพบกับมาเลเซียในวันที่ 15 มิถุนายน เวลา 23.45 น. แม้เราจะตกรอบไปแล้ว แต่เกมกับมาเลเซีย ทีมช้างศึกยังต้องเล่นกันเต็มที่เพื่อเรียกศรัทธาแฟนบอลไทยกลับคืนมา รวมถึงเก็บคะแนนทำอันดับโลกกันต่อไป

เมื่อมองถึงความผิดพลาดของทีมช้างศึกชุดนี้เห็นได้ชัดว่า สภาพความฟิตของนักเตะทุกคนยังไม่ทะลุ 100% อาจจะมีปัจจัยแทรกซ้อนหลายอย่าง ทั้งในเรื่องปัญหาการเตรียมทีมที่จู่ๆ ก็มีนักเตะในแคมป์ติดโควิด-19 ทั้งเรื่องห้วงเวลาเตะเป็นช่วงที่อยู่ในฤดูกาลปิดลีกฟุตบอลอาชีพของไทย

อีกสาเหตุที่ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้เลย แท็กติกของอากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่น ผิดพลาดและประมาทไปในเกมกับอินโดนีเซีย การจัดทัพดูจะขัดตาบรรดากูรูพอสมควร

แถมเมื่อลงไปในสนามเราเน้นเล่นกันเนือยเกินไป การต่อบอลจากแดนหลังมาให้มิดฟิลด์ช้าอืดอาด และเมื่อเข้าพื้นที่สุดท้ายของคู่ต่อสู้ ทีมช้างศึกไร้จินตนาการในการเข้าทำ แถมยังมาเสียประตูง่ายเกินไปจากจังหวะโดนโต้กลับ

ปัจจัยสำคัญอีกเรื่องคือ การขาดหายไปของ 3 ดาวเตะในทีมอย่าง “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ๊กซ้ายจากโยโกฮามา เอฟ มารินอส (ถอนตัวเนื่องจากข้อจำกัดเรื่องโควิด), “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ มิดฟิลด์จากคอนซาโดเล่ ซัปโปโร (บาดเจ็บ) และ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าจากบีจี ปทุม ยูไนเต็ด (สภาพร่างกายไม่ฟิต)

หลังกลับมาถึงเมืองไทยเป็นหน้าที่ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมและทีมงาน ต้องมานั่งคิดทบทวนกันใหม่แล้วว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับผลงาน และแนวทางการทำทีมของกุนซืออย่างอากิระ นิชิโนะ เราเดินมาถูกทางแล้วหรือยัง? แล้วจะมีแนวทางวิธีการบริหารจัดการให้ดีขึ้นอย่างไร?

 

ผมยังสนับสนุนให้อากิระ นิชิโนะ ทำงานต่อไป แต่ต้องปรับวิธีการใหม่ แล้วไปรอประเมินผลงานในศึกฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ 2023 รอบสุดท้ายที่ประเทศจีน ว่าไทยจะได้ไปเป็น 1-24 ทีมสุดท้ายได้หรือไม่ แล้วจะทำผลงานได้ออกมาเช่นใด

ทุกๆ ครั้งที่มีการตกรอบหรือล้มเหลวของฟุตบอลไทย เราก็จะอยู่ในวังวนเดิมๆ คือ ไล่โค้ช เปลี่ยนโค้ช โดยที่ไม่มองไปที่ระบบรากฐานทั้งระบบ ตั้งแต่การพัฒนาเยาวชนไต่เต้ามาจากรากหญ้าทีม 13 ปี, 15 ปี, 17 ปี, 19 ปี, 21 ปี, 23 ปี และชุดใหญ่ ต้องเล่นไปในแนวทางเดียวกัน

ถามผู้มากบารมีในวงการฟุตบอลไทยยุคปัจจุบันว่า เราได้ทำกันอย่างจริงๆ จังๆ แล้วหรือยัง หรือเราเพียงแต่ทำเป็นแผนแม่บทสวยหรู ดึงงบประมาณภาครัฐ แล้วมานั่งแถลงข่าวประกาศออกสู่สาธารณะแบบเท่ๆ แล้วเก็บเข้าลิ้นชัก

ถามกันต่อไปว่า ทุกวันนี้มีใครบ้างที่รู้จัก “บุคลิกฟุตบอลไทย” ว่าต้องเล่นสไตล์ไหน อย่างไรถึงจะเหมาะสมกับสภาพร่างกาย และเบสิกฟุตบอลของนักเตะไทย มีกี่คนที่จะเข้าใจ

ถ้าเราไม่ทำกันอย่างจริงๆ จังๆ ต่อให้อีกกี่ 10 ปี 100 ปี เราก็จะไม่มีทางถึงฝั่งฝันที่จะได้เห็นฟุตบอลไทยไปบอลโลก แต่ถ้าเราทำกันอย่างจริงจัง ทำกันอย่างเป็นระบบ พัฒนากันมาจากรากหญ้า ปลูกฝังนักเตะให้มีระเบียบวินัยตั้งแต่เด็กๆ

ผมเชื่อว่าวันหนึ่งเราจะได้เห็นฟุตบอลไทยไปบอลโลกด้วยวิถีการทำฟุตบอลแบบมืออาชีพ

ไม่ใช่แบบสมัครเล่น เหมือนปัจจุบัน…!?!?!?