เขย่าสนาม/จริงตนาการ /’ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก’ ความหวังดีของคนหน้าเงิน!

เขย่าสนาม/จริงตนาการ [email protected]

‘ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก’

ความหวังดีของคนหน้าเงิน!

 

วงการฟุตบอลยุโรปกำลังมีข่าวใหญ่ จากการที่ 12 สโมสรยักษ์ใหญ่จับมือกันตั้งลีกใหม่ “ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก” ขึ้นมา ท่ามกลางคำคัดค้านจากหลายฝ่าย

12 ทีมที่ร่วมก่อตั้งได้แก่ 6 ทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เชลซี, ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และอาร์เซนอล

3 สโมสรจากลาลีก้า สเปน รีล มาดริด, บาร์เซโลน่า และ แอตเลติโก้ มาดริด

3 สโมสรจากกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน และ ยูเวนตุส

รวมทั้งอีก 3 ทีมที่ยังไม่เปิดเผยชื่อ แต่ก็กำลังจะมีการแถลงข่าวเปิดตัวในเร็วๆ นี้

รูปแบบการแข่งขันจะมี 20 ทีม โดยมาจาก 15 ทีมที่ร่วมก่อตั้ง และอีก 5 ทีมที่มาจากรอบคัดเลือกแข่งขันเกมกลางสัปดาห์เหมือนยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยแบ่ง 20 ทีมออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 10 ทีม เตะแบบพบกันหมดในกลุ่ม ระบบเหย้า-เยือน รวม 18 แมตช์ แล้วเอาอันดับ 1-3 ของแต่ละกลุ่มเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วนอีก 2 ทีม จะเอาอันดับ 4-5 ของทั้ง 2 กลุ่มมาเพลย์ออฟไปรวมให้ครบ 8 ทีม หลังจากนั้นก็เตะในระบบน็อกเอาต์เหย้า-เยือน แบบเดียวกับแชมเปี้ยนส์ลีก

สำหรับทีมที่ร่วมแข่งขันในลีกนี้ จะทำให้ไม่สามารถไปแข่งขันแชมเปี้ยนส์ลีกหรือยูโรป้าลีกไปโดยปริยาย เนื่องจากตารางการแข่งขันจะชนกัน

ซึ่งมีการเปิดเผยข้อมูลมาว่า 20 ทีมที่แข่งขันซูเปอร์ลีกจะได้รับเงินมหาศาลกว่าการเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก โดยจะได้รับ 400 ล้านยูโรในทันที เมื่อเทียบกับ 120 ล้านยูโรที่แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้รับแล้ว ถือว่าห่างกันคนละเรื่อง

ทำให้สโมสรต่างๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเข้าร่วมลีกใหม่ที่ว่านี้

 

อย่างไรก็ตาม องค์กรที่ดูแลฟุตบอลในโลกและยุโรปต่างออกมาคัดค้านและตำหนิการตัดสินใจครั้งนี้อย่างรุนแรง

สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ออกแถลงการณ์ว่า องค์กรฟุตบอลทั้ง 6 องค์กร จะแบนนักเตะทุกคนที่ร่วมแข่งขันยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ห้ามแข่งขันรายการในประเทศของทวีปยุโรป (ยูโร) และระดับโลก (ฟุตบอลโลก) รวมทั้งห้ามติดทีมชาติอีกด้วย แฟนบอลไม่ต้องการการแบ่งแยกในลักษณะนี้ ยูฟ่า, ฟีฟ่า และลีกฟุตบอลต่างๆ ในยุโรปก็ไม่ได้ต้องการให้เกิดขึ้น มีเพียงคนจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่มีแนวคิดอยากจะโกยเงินเข้ากระเป๋า ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ควรเกิดกับกีฬาที่ทุกคนรัก

ส่วนพรีเมียร์ลีกได้ออกแถลงการณ์ต่อต้าน 6 ทีมยักษ์ใหญ่ที่ร่วมก่อตั้งลีกว่า พรีเมียร์ลีกขอประณามการก่อตั้งลีกที่จัดขึ้นมาเพื่อทำร้ายฟุตบอลอังกฤษและฟุตบอลทุกระดับชั้นของยุโรป แฟนบอลในอังกฤษและในยุโรปต่างใฝ่ฝันกันว่าจะได้เห็นสโมสรที่ตัวเองรักไต่เต้าขึ้นไปเป็นทีมที่ดีที่สุดในยุโรป แนวทางของยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีกถือเป็นการทำลายฝันเหล่านั้น

ในทางกลับกัน เหล่าผู้บริหารของ 12 สโมสรต่างออกมาให้ข้อดีของการก่อตั้งลีกในครั้งนี้

ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรรีล มาดริด กล่าวว่า ฟุตบอลเป็นกีฬาเดียวในโลกนี้ที่ได้รับความสนใจจากแฟนกีฬากว่า 4,000 ล้านคน ดังนั้น สโมสรใหญ่จึงควรมีหน้าที่ในการดูแลความฝันของแฟนบอล การตั้งยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีกขึ้นมาก็เพื่อช่วยเหลือฟุตบอลในทุกระดับของโลกใบนี้

ด้าน โจเอล เกลเซอร์ ประธานสโมสรร่วมของแมนฯ ยู กล่าวว่า การนำยอดทีมจากยุโรปที่มีผู้เล่นชั้นยอดมากมายมาแข่งขันตลอดทั้งฤดูกาลของยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก จะสร้างตำนานบทใหม่ให้กับวงการฟุตบอลยุโรป เกิดการแข่งขันและสนามระดับเวิลด์คลาส และสามารถนำรายได้ไปสนับสนุนฟุตบอลตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปจนถึงระดับสูงได้อีกด้วย

ดิเอโก้ ซิมิโอเน่ กุนซือแอตเลติโก้ มาดริด เชื่อว่าผู้บริหารสโมสรเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับทีมแน่นอน ดังนั้น การเข้าร่วมลีกใหม่นี้ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนคิดดีแล้ว

 

นับเป็นความขัดแย้งที่ใหญ่โตมโหฬารในวงการฟุตบอลระดับโลกอย่างแท้จริง

ฝ่ายหนึ่งมองว่าทำเพื่อเงินในกระเป๋าตัวเอง

แต่อีกฝ่ายยืนยันว่าจะเอาเงินรายได้ไปแบ่งปันให้กับฟุตบอลทั่วโลก โดยที่ไม่ต้องปล่อยเงินจำนวนมากให้อยู่ในกระเป๋าของยูฟ่าและฟีฟ่าเท่านั้น

มหากาพย์นี้ต้องดูกันไปยาวๆ ว่าจะเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ ท่ามกลางการต่อต้านระดับนี้

และถ้าฝ่าฟันจนเกิดขึ้นได้ จะประสบความสำเร็จจนยืนระยะได้หรือไม่

น่าสนใจจริงๆ