เงาปีศาจ : เปิดใจ “ก้องศักด ยอดมณี” กีฬาไทยยุค “นิวนอร์มอล”

วิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส” “โควิด-19″” เล่นงานทุกภาคส่วนของประเทศไทยให้ชะงักตัวประสบปัญหากันระนาว…

รวมไปถึงภาคส่วนของการท่องเที่ยวและภาคส่วนของกีฬา ที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงภาคส่วนธุรกิจของประเทศไทยต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะเวลานี้ทุกประเทศ รวมถึงไทยเราต่างปิดประเทศล็อกดาวน์ไม่ให้เดินทางเข้า-ออกไปมาหาสู่กันเหมือนภาวะปกติ

ปัญหาดังกล่าวทำให้หนังสือพิมพ์” “มติชนรายวัน”” ผนึกกำลังกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดงานสัมมนา” “ปลุกไทยเที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้า”” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์

โดยได้รับเกียรติจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาเป็นประธานพร้อมบรรยายทั้งภาคส่วนท่องเที่ยวและกีฬา

ขณะเดียวกันยังมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมอัพเดตแวดวงกีฬาเมืองไทยกับวิถีแบบใหม่” “นิวนอร์มอล”” ควบคุมโรคระบาด “โควิด-19” กันอีกด้วย

 

“ดร.ก้องศักด ยอดมณี” ร่วมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ” “ไทยพร้อมแล้วกับการท่องเที่ยววิถีใหม่”” ได้บอกว่า ถ้าย้อนกลับไปวันแรกที่มีผู้ติดเชื้อ จนถึงวันที่ประกาศล็อกดาวน์ ผ่านมาหลายเดือน ถือว่าไทยมาไกลพอสมควรแล้ว ไม่ใช่เรื่องของการกีฬาองค์กรเดียว แต่ทั้งกรมอนามัยและกระทรวงสาธารณสุขได้ทำงานร่วมกันมาทุกระยะ จนทำการปลดล็อกเฟสแรกจนมาถึงปัจจุบัน

ช่วงต้นที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องห้ามกิจกรรมกีฬาทั้งหมด เพราะมีส่วนในเรื่องของการติดเชื้อ สถานการณ์ตอนนั้นไม่มีใครคาดคิด แต่เมื่อมีการล็อกดาวน์ 100 เปอร์เซ็นต์ ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบในวงกว้าง ไม่ใช่แค่ธุรกิจท่องเที่ยวเท่านั้น แต่กีฬาก็ต้องหยุดทั้งหมดเช่นกัน

กกท.หารือกับกรมอนามัยในการปลดล็อกมาเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมาแข่งขันกีฬาต่างๆ จนมาไกลมากเกือบครบทุกชนิดกีฬาแล้ว มีบางส่วนที่ต้องพิจารณาในรายละเอียด โดยเฉพาะกีฬาที่สัมผัสตัวกันมากๆ

ผู้ว่าการ กกท.กล่าวต่อว่า ช่วงที่ผ่านมาเห็นชัดเจนว่าพี่น้องชาวกีฬาได้จัดการแข่งขันตามคู่มือที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทำไว้อย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยให้กรมอนามัยและกระทรวงสาธารณสุขปลดล็อกเพิ่มเติมอีก

การไปจัดฟุตบอลแมตช์พิเศษ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา มีการทำตามมาตรการต่างๆ ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด และผ่านไปด้วยความเรียบร้อย

หลังจากนี้จะทำเป็นรายงานสรุปส่งไปยัง ศบค. เพื่อจะได้ปลดล็อกให้แข่งขันฟุตบอล และแฟนฟุตบอลเข้าชมการแข่งขันตามความเหมาะสม

 

ดร.ก้องศักดกล่าวต่อว่า ส่วนการกลับมาจัดมหกรรมกีฬามีความเกี่ยวกับการท่องเที่ยวค่อนข้างสูง อย่างรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” มีเงินหมุนเวียน 3,200 ล้านบาท มีคนเข้าชมกว่า 50,000 คน หลังจากมีการประกาศยกเลิกของปีนี้ไป หลายจังหวัดในแถบ จ.บุรีรัมย์ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก

ดังนั้น จึงต้องเน้นไปที่การท่องเที่ยวเชิงกีฬา “สปอร์ตทัวริสต์” ทั้งวิ่งและจักรยานแบบที่ จ.ระยอง มีการจัดกิจกรรมริมชายหาด แต่ยังมีข้อจำกัดในการให้คนต่างชาติเข้ามาร่วมวิ่งเทรลนานาชาติ ไทยแลนด์ บาย ยูทีเอ็มบี ที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้ต้องปรับแผนเป็นกระตุ้นนักวิ่งไทยให้ไปแข่งขันแทน

ส่วนกีฬาที่จัดไม่มีคนดู ได้พยายามหากิจกรรมเสริม เพื่อเพิ่มสีสันในสนาม ให้ผู้ชมทางโทรทัศน์ได้ติดตามอย่างสนุกสนานมากขึ้น อยากให้กีฬาเป็นส่วนในการกระตุ้นทั้งเรื่องสุขภาพ เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว กกท. และทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องกำลังมุ่งมั่นทำงานเพื่อก้าวข้ามเฟสนี้ไปสู่การจัดการแข่งขันปกติ เพราะมูลค่ากิจกรรมกีฬาของปี 2562 มูลค่าสูงมากถึง 30,000 ล้านบาท

แต่ปีนี้ลดเหลือ 7,000 กว่าล้านบาทเท่านั้น

 

ด้านฟุตบอลไทยลีก ณ เวลานี้ ศบค.อนุญาตให้สามารถกลับมาจัดแข่งขันได้แล้ว แต่ต้องเป็นระบบปิดไม่ให้คนดู เหมือนที่หลายลีกในยุโรปจัดขึ้น ซึ่งถ้าจัด ณ วันนี้ก็ยังไม่มีคนดูในสนาม

อย่างไรก็ตาม จากการที่ภาครัฐบาลต้องการสร้างความเชื่อมั่นเชิญชวนคนไทยกลับไปเที่ยวจังหวัดระยอง จึงได้ไปจัดการแข่งขันฟุตบอลแมตช์พิเศษที่ จ.ระยอง ที่มีแฟนบอลเข้าชมได้ 2,500 คน ทำให้กลายเป็น “ระยองโมเดล” ที่จะช่วยให้ไทยลีกที่จะกลับมาฟาดแข้งกันได้อีกครั้งในเดือนกันยายน อาจจะปลดล็อกให้ฟุตบอลไทยลีกกลับมามีคนดูได้

ผู้ว่าการ กกท.กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาเห็นชัดเจนว่าชาวกีฬาได้จัดการแข่งขันตามคู่มือที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทำไว้อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้กรมอนามัยและกระทรวงสาธารณสุขปลดล็อกเพิ่มเติมอีก การไปจัดฟุตบอลแมตช์พิเศษ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย

หลังจากนี้จะทำเป็นรายงานสรุปส่งไปยังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เพื่อจะได้ปลดล็อกให้แข่งขันและแฟนกีฬาเข้าชมการแข่งขันตามความเหมาะสม

 

ขณะที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พูดถึงเรื่องกีฬาแบบ “นิวนอร์มอล” ไว้เมื่อตอนนำทีมวีวีไอพี รัฐบาล ไปฟาดแข้งนัดพิเศษกับดารา ออลสตาร์ ที่ จ.ระยอง ว่า ฟุตบอลแมตช์นี้ถือเป็นการทดสอบก่อนที่ฟุตบอลไทยลีก 2020 จะแข่งขันจริงช่วงเดือนกันยายนนี้ ว่าการจัดแบบนิวนอร์มอลจะมีผู้ชมในสนามได้เท่าไหร่ นอกจากนี้ ทั้งกิจกรรมปั่นจักรยานและการจัดฟุตบอลนัดพิเศษจะนำเอามาเป็นโมเดลเบื้องต้นในการจัดการแข่งขันกีฬาแบบนิวนอร์มอล สิ่งเหล่านี้ถือเป็นจุดเริ่มต้น และเป็นต้นแบบของการจัดแข่งขันอีกหลายชนิดกีฬาในอนาคตต่อไปว่า การแข่งขันแบบนิวนอร์มอลจะเป็นอย่างไร หรือการจัดแบบมีผู้ชมในสนาม และผู้เข้าร่วมจำนวนหลายๆ คน

รัฐบาลได้มีการผ่อนปรนให้จัดแข่งขันกีฬาไปแล้วทั้งสิ้น 71 ชนิดกีฬา หนึ่งในนั้นคือ” “กีฬาวิ่ง”” เพราะถือว่าเป็นกีฬาของมวลชน ที่มีจำนวนประชากรนักวิ่งเป็นหลักหลายล้านคน จึงมอบนโยบายเร่งด่วนให้แก่ผู้ว่าการ กกท.รีบไปดำเนินการจัดโครงการนำร่องในรูปแบบต่างๆ โดยเน้นกิจกรรมใน 2 มิติ คือ ส่งเสริมการออกกำลังกายด้วยตัวเองที่บ้าน ใช้ชื่อโครงการว่า” “THAILAND STRONG”” เป็นกิจกรรมในรูปแบบใช้เทคโนโลยีแบบ VIRTUAL (เวอร์ชวล) และส่งเสริมการออกกำลังกายในที่สาธารณะ ภายใต้ข้อกำหนดตามมาตรการผ่อนปรน

นี่คือความเคลื่อนไหวล่าสุดของวงการกีฬาเมืองไทยเวอร์ชั่น “นิวนอร์มอล”

นี่คืออีกบทบาทของกีฬาในแง่ของการส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองไทย…