พิศณุ นิลกลัด : เรื่อง “ละเอียดๆ” ในทีมลิเวอร์พูล

พิศณุ นิลกลัด

ฤดูกาลแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีกของอังกฤษ 2019/2020 สิ้นสุดลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน นักเตะทีมลิเวอร์พูลและแฟนลิเวอร์พูลทั่วโลกได้ฉลองแชมป์ “รอบแรก” ไปแล้ว หลังจากที่เชลซีเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ทำให้ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร และเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 30 ปีของทีม

การได้แชมป์ของลิเวอร์พูล ไม่เพียงแต่จะนำความดีใจให้กับคนในเมืองลิเวอร์พูล ซึ่งมีประชากรประมาณ 5 แสนคน แต่ยังสร้างงานและสร้างเงินให้กับเมืองลิเวอร์พูลอย่างมหาศาล

 

ทุกๆ ปีเมืองลิเวอร์พูลมีรายได้จากทีมลิเวอร์พูลคิดเป็น 4% ของรายได้ของเมือง

จากตัวเลขปี 2017-2018 ทีมลิเวอร์พูลสร้างรายได้ให้กับเมืองลิเวอร์พูล 454 ล้านปอนด์ หรือ 17,300 ล้านบาท โดยรายได้รวมของเมืองลิเวอร์พูลอยู่ที่ 11,334 ล้านปอนด์ หรือ 432,000 ล้านบาท

แต่ละฤดูกาลมีแฟนเข้ามาชมการแข่งขันที่สนามแอนฟิลด์ประมาณ 1.5 ล้านคน แฟนๆ เหล่านี้ใช้เงินรวมแล้วประมาณ 102 ล้านปอนด์ หรือ 3,900 ล้านบาท สร้างงานประจำ (full time) ให้กับคนในเมืองลิเวอร์พูลกว่า 4,500 คน คิดเป็น 2.3% ของงานทั้งหมดในเมืองลิเวอร์พูล

เฉพาะในทีมลิเวอร์พูลมีพนักงานมากถึง 853 คน โดยจำนวน 675 คน ไม่ใช่นักฟุตบอล

มีงานหลายตำแหน่งในทีมลิเวอร์พูลที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่ามีตำแหน่งนี้ด้วย แต่ขณะเดียวกันก็มีบทบาทสำคัญมากที่ช่วยให้ทีมลิเวอร์พูลได้แชมป์พรีเมียร์ ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทีม

 

ตําแหน่งที่น่าสนใจในทีมลิเวอร์พูลคือโค้ชสอนการทุ่มลูก (Thrown-in Coach)

โธมัส โกรนเนมาร์ก (Thomas Gronnemark) วัย 44 ปี โค้ชสอนทุ่มลูก ชาวเดนมาร์ก ที่ทำหน้าที่นี้ให้ทีมลิเวอร์พูลมาตั้งแต่ปี 2018

โธมัสเป็นเจ้าของสถิติทุ่มลูกฟุตบอลได้ไกลที่สุดในโลก ไกลถึง 51.33 เมตร เขาทำไว้ในปี 2010 ซึ่งถือว่าไกลมากเมื่อเทียบกับสนามฟุตบอลที่มีขนาดกว้าง 68 เมตร ยาว 105 เมตร

ฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลทำประตูได้ 12 ประตูจากการทุ่มลูก

 

โธมัสเป็นโค้ชสอนทุ่มลูกให้กับทีมฟุตบอลในเดนมาร์กตั้งแต่ปี 2014

เขาเล่าว่า เดือนกรกฎาคม ปี 2018 เยอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมหงส์แดงโทร.หาเขา บอกว่าฤดูกาล 2017/2018 ลิเวอร์พูลทำผลงานดี ได้อันดับ 4 ของพรีเมียร์ ลีก และได้รองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีก แต่เยอร์เก้น คล็อปป์ บอกกับโธมัสในตอนนั้นว่า ลิเวอร์พูลเสียบอลตอนทุ่มลูกเกือบตลอด

เยอร์เก้น คล็อปป์ เคยให้สัมภาษณ์ถึงโธมัสว่า เมื่อได้ยินกิตติศัพท์เรื่องการทุ่มลูกฟุตบอลของโธมัส เขาก็อยากพบกับโธมัส เมื่อได้พบกับโธมัส เขาก็มั่นใจ 100% ว่าต้องการจ้างโธมัสแน่นอน

โธมัสบอกว่า แต่ก่อนนี้ทีมฟุตบอลที่จ้างเขาให้เป็นโค้ชสอนทุ่มลูกฟุตบอลมักจ้างแบบชั่วคราว เพราะคิดว่าการเป็นโค้ชสอนทุ่มลูกฟุตบอลนั้นเป็นแค่การสอนทุ่มลูกให้ไกล

แต่เมื่อเยอร์เก้น คล็อปป์ ได้ติดต่อให้เขามาเป็นโค้ชสอนทุ่มฟุตบอล เขาไม่ได้สอนแต่การทุ่มลูกฟุตบอลให้ไกล แต่เขาเพิ่มการสอนการทุ่มให้เร็วและทุ่มโดยใช้สมองว่าทุ่มลูกอย่างไรให้ทีมของเราได้เปรียบ ได้ครองลูก หรือทุ่มลูกอย่างไรให้ทำประตูได้

 

โธมัสบอกว่า ฤดูกาลแรกที่เขามาเป็นโค้ชสอนทุ่มให้กับลิเวอร์พูล (2018/2019) เปอร์เซ็นต์การครองลูกหลังการทุ่มลูกดีขึ้นอย่างมาก อยู่ที่ 68.4% จากเดิมในฤดูกาล 2017/2018 อยู่ที่ 45.4% ดีขึ้นถึง 23% กลายเป็นทีมที่ครองลูกหลังจากทุ่มดีที่สุดในพรีเมียร์ ลีก

โธมัสไม่เปิดเผยเทคนิคว่าสอนนักเตะลิเวอร์พูลให้ทุ่มลูกฟุตบอลอย่างไร แต่บอกว่า เขาสอนการทุ่มประมาณ 20 แบบ นักเตะแต่ละคนก็มีเทคนิคการทุ่มที่ต่างกันออกไป และต้องทำเหมือนเดิม

โธมัสไม่ได้เป็นโค้ชสอนทุ่มที่อยู่กับทีมลิเวอร์พูลแห่งเดียว เขายังเป็นโค้ชสอนทุ่มให้กับทีมอายักซ์ของเนเธอร์แลนด์ด้วย

 

แม้นักเตะทีมลิเวอร์พูลจะทุ่มลูกได้ดีมาก แต่โธมัสบอกว่ายังสามารถพัฒนาให้ดีกว่านี้ได้ ซึ่งไม่ได้เพียงแต่การพัฒนาด้านเทคนิค พัฒนาการทุ่มให้เร็ว แต่ยังรวมถึงควรจะทุ่มให้เร็วตอนไหน

การทุ่มบอลที่ได้ผลดี ทำให้ทีมครองลูกได้ ควรทุ่มภายในเวลา 5 วินาที ซึ่งการทุ่มเร็วทำให้ทีมคู่แข่งมีเวลาไม่พอที่จะตั้งตัว

หากทุ่มบอลภายในเวลาไม่เกิน 5 วินาทีและทุ่มในระยะไม่เกิน 15 เมตร โอกาสที่ทีมจะครองบอลได้อยู่ที่ 66.9% หากใช้เวลาเกิน 10 วินาทีขึ้นไป โอกาสที่ทีมจะครองบอลได้ลดลงมาอยู่ที่ 49.6%

อ่านเรื่องของโธมัส และการที่คล็อปป์ตามล่าว่าจ้างโธมัสมาสอนวิธีการทุ่มให้นักเตะลิเวอร์พูล ทำให้ทราบว่างานผู้จัดการทีมฟุตบอลนั้นยาก ละเอียดลึกซึ้งจริงๆ