จากการสอดส่องฟุตบอลลีกยุโรป ทำให้พบว่ายังมีนักเตะไทยและลูกครึ่งไทยที่กำลังค้าแข้งและบางส่วนกำลังเติบโตในลีกเล็ก-ใหญ่ของยุโรปจำนวนมาก

ซึ่งบางคนเป็นเด็กที่กำลังถูกจับตามองว่าจะก้าวมาเป็นนักเตะอาชีพที่มีศักยภาพในอนาคต และมีโอกาสที่จะมาเป็นกำลังสำคัญในทีมชาติไทยด้วย

“คอร์บิ้น เมอร์เรย์” ลูกครึ่งแม่ไทย-พ่ออังกฤษ วัย 12 ปี อยู่กับอคาเดมีของ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เล่นในตำแหน่งปีกขวา ถูกให้ฉายาว่าเป็น “นิวเบ๊กแฮม” เพราะมีทักษะในการยิงฟรีคิกที่แม่นยำ รวมทั้งเปิดบอลแม่นยำ

ถึงแม้จะอยู่กับทีมปีศาจแดง แต่เจ้าตัวเป็นแฟนบอลของ “ลิเวอร์พูล” สาเหตุที่ไม่ได้อยู่กับทีมรัก เพราะบ้านอยู่เมืองแมนเชสเตอร์ ทำให้การเดินทางไม่ค่อยสะดวกนักนั่นเอง

“จู๊ดด์ ศูนย์ทรัพย์ เบลล์” ลูกครึ่งแม่ไทย-พ่ออังกฤษ ตอนนี้อายุ 16 ปี เป็นกองหน้าเพชรเม็ดงามที่ “เชลซี” ดึงมาจาก “สวินดอน ทาวน์” เมื่อ 4 ปีก่อน ถือว่าเป็นดาวยิงที่ฝีเท้าจัดจ้านคนหนึ่ง เคยยิงคนเดียว 4 ประตูในเกมเยาวชน พาเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ยู-16 อินเตอร์เนชั่นแนล ทัวร์นาเมนต์ ซีซั่นนี้มาแล้ว

และได้รับสัญญาอาชีพฉบับแรกไปเรียบร้อยแล้วด้วย

 

“เบนจามิน เดวิส” ดาวเตะลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ที่แฟนบอลไทยรู้จักกันมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะถูกเรียกติดทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีมาแล้ว ตอนนี้ค้าแข้งอยู่กับ “ฟูแล่ม” ในแชมเปี้ยนชิพของอังกฤษ

เดวิสเกิดที่ภูเก็ต แต่ไปโตที่สิงคโปร์ ทำให้สิงคโปร์คาดหวังว่าเขาจะกลายเป็นกำลังสำคัญให้ทีมในอนาคต แต่กลับไม่เป็นแบบนั้น เพราะท้ายที่สุดแบ๊กซ้ายต้องเจอกับการที่จำเป็นต้องไปเกณฑ์ทหารในฐานะพลเมืองสิงคโปร์ ทำให้เขาอาจจะสละสัญชาติ เพื่อได้เล่นฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะมาเลือกติดทีมชาติไทยแทน

“มาร์เซล ซีกฮาร์ท” ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน วัย 18 ปี จาก “บาเยิร์น มิวนิก” ในลีกเยอรมนี แต่ถูกส่งให้ “อุนเตอร์ฮัคคิ่ง” ในลีก้า 3 ยืมตัวไปใช้งาน เป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้ทั้งกองหน้าตัวเป้า หน้าต่ำ หน้าด้านขวา ถ้าดูนามสกุลให้ดี เขาคือน้องชายของ “อเล็กซานเดอร์ ซีกฮาร์ท” พี่ชายที่ค้าแข้งในไทยลีกกับ “ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด” อยู่นั่นเอง

ซีกฮาร์ทแจ้งความประสงค์ที่อยากจะเล่นให้กับทีมชาติไทย และมีชื่ออยู่ในลิสต์ที่อาจจะได้รับโอกาสในอนาคตแล้ว

 

“สองพี่น้องภุมรินทร์” “กฤษณะ ภุมรินทร์ – จิรพัฒน์ ภุมรินทร์” ที่โลดแล่นอยู่ในทีมใหญ่ของเยอรมนี ทั้งคู่เกิดในครอบครัวคนไทยในประเทศเยอรมนี และเริ่มต้นกับทีมแถวบ้านอย่าง “สปอร์ตฟรอยด์ 04” ก่อนที่จะมีแมวมองเห็นแวว ดึงทั้งคู่เข้าสู่อคาเดมีของ “แฟรงก์เฟิร์ต”

จิรพัฒน์พี่ชายวัย 16 ปี เล่นในตำแหน่งกองหน้า ส่วนน้องชายอย่างกฤษณะวัย 15 ปี เป็นผู้รักษาประตู

ถึงแม้จะเริ่มได้รับความสนใจจากสโมสรใหญ่ๆ อย่าง “เลเวอร์คูเซ่น, กลัดบัก, โคโลญจน์” ในลีกสูงสุดแล้ว แต่พ่อสิทธิชัยยังไม่อยากให้ลูกๆ เสี่ยงและรีบเกินไป ยังคงให้กฤษณะอยู่กับอคาเดมีของ “โฮฟเฟ่นไฮม์” และจิรพัฒน์อยู่กับแฟรงก์เฟิร์ตต่อไป เมื่อถึงเวลาเหมาะสมก็ค่อยว่ากันใหม่ แต่โอกาสติดทีมชาติไทยนั้น ถ้าถูกเรียกตัวก็พร้อมให้ไปทันที

“เอริก คาห์ล” ลูกครึ่งไทย-สวีเดน วัย 18 ปี จาก “เอไอเค โซลนา” ในลีกสูงสุดของสวีเดน ได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในตำแหน่งริมเส้นฝั่งซ้าย

เอริกมีพ่อเป็นสวีเดน แม่เป็นคนไทย และมีพี่ชายคือ ออสการ์ คาห์ล ที่ปัจจุบันอยู่กับแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ในไทยลีก 2

 

“นิโคลัส มิเคลสัน” แบ๊กขวาลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ วัย 20 ปี เจ้าของส่วนสูง 185 ซ.ม. ปัจจุบันค้าแข้งกับ “สตรอมก็อดเช็ก” ในลีกสูงสุดของนอร์เวย์ และได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่อย่างสม่ำเสมอแล้ว ติดทีมชาตินอร์เวย์ในระดับเยาวชนมาแล้วทั้งยู 16, 17, 18, 19, 21 อนาคตอาจจะถูกเรียกติดทีมชาตินอร์เวย์ แต่ก็มีสิทธิเลือกทีมชาติไทยเช่นกัน

“โอเว่น ชาร์ลี” แบ๊กลูกครึ่งไทย-เบลเยียม เล่นให้กับ “แซงต์-ทรุยดองส์” ในลีกเบลเยียม ปัจจุบันอายุ 17 ปี เล่นได้ดีทั้งแบ๊กซ้ายและขวา และยืนยันว่าอยากจะมาเล่นให้กับทีมชาติไทยด้วย

นอกจากนักเตะเหล่านี้แล้ว ลูกครึ่งและเด็กไทยแท้ที่อยู่ในยุโรปยังมีอีกหลายคนทีเดียว

“ชยพิพัฒน์ สุพรรณเภสัช” เด็กไทยวัย 19 ที่อยู่กับ “เอสโตรีล ปรายยา” ในลีกโปรตุเกส, “ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร” หนุ่มไทยวัย 20 ปี กองกลางที่ติดทีมชาติฝรั่งเศส ยู 16, 17 มาแล้ว อย่างไรก็ตาม “น็องซี่” ให้สัญญาในการเล่นในระดับเยาวชนกับเขาเพียงปีเดียว ทำให้ธนวัฒน์เลือกย้ายไปอยู่กับ “เลสเตอร์ ซิตี้” ที่อังกฤษแทน

“อชิตพล คีรีรมย์” กองหน้าดาวรุ่งจาก “โรเซนไฮม์” ในเยอรมนี ติดทีมชาติไทย ยู 19 ไปแล้ว และยิงประตูได้แล้วด้วย, “ธาวิม มหจินดาวงษ์” อยู่กับ “โอเอช ลูเวิ่น” ในลีกเบลเยียม ไปร่วมทีมจากโครงการฟอกซ์ ฮันต์

อันโตนิโอ บุจแจยา ลูกครึ่งไทย-อิตาลี วัย 18 ปี แต่เกิดที่เบลเยียม ทำให้ถูกเรียกติดทีมชาติเบลเยียม ยู 15 ไปจนถึงยู 19 เล่นในตำแหน่งปีก ปัจจุบันอยู่กับโรด้า เจซี ในลีกรองเนเธอร์แลนด์

 

ต้องยอมรับว่า ถ้าเหล่าลูกครึ่งได้รับโอกาสจากประเทศในยุโรป

พวกเขาคงต้องเลือกทีมนั้นไว้ก่อน การจะมาเล่นทีมชาติไทยเป็นเรื่องรองลงมา

แต่ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะสำหรับนักฟุตบอลแล้ว การได้เล่นกับทีมชาติในยุโรป ในทัวร์นาเมนต์ที่มีดาราดังเต็มไปหมด เป็นความใฝ่ฝันของพวกเขาอยู่แล้ว

แต่การมาเล่นให้กับทีมชาติไทยก็นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจเช่นกัน