จริงตนาการ : วันนี้ของทีมปีศาจแดง “สร้างอนาคต” บน “ความวิกฤต”

“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เข้าสู่ช่วงวิกฤตอีกครั้ง

หลังจากที่พ่ายต่อ “เวสต์แฮม ยูไนเต็ด” 0-2 ไปแบบไม่มีทรง และร่วงลงมาอยู่ในอันดับ 8 ของตารางพรีเมียร์ลีก หลังจากผ่านไป 6 นัด

สถานการณ์ที่แย่ไม่ใช่แค่ผลงาน แต่สภาพทีมที่ “โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์” มีอยู่ในช่วงนี้ ยิ่งทำให้แฟนบอลหมดหวังลงไปอีก

เพราะการขาดกองหน้าที่ดี ไม่มีหน้าเป้าธรรมชาติ “อองโตนี่ มาร์ซิยาล, มาร์คัส แรชฟอร์ด” บาดเจ็บ ต้องให้ “เมสัน กรีนวู้ด” เด็กอายุ 17 ลงมายิงประตู

ถึงแม้เด็กคนนี้จะอนาคตไกลขนาดไหน แต่ก็ยังไม่ใช่คนที่จะมาหวังพึ่งได้ทันทีในช่วงเวลาแบบนี้

หลังจากที่แพ้เวสต์แฮม ทำให้กระแสแฟนบอลที่ไม่พอใจในการบริหารงานของ “เอ็ด วู้ดเวิร์ด” รองประธานฝ่ายบริหารของสโมสร ที่เน้นหนักเรื่องการหาผลกำไรมากกว่าผลงานในสนาม

รวมทั้งสามพี่น้อง “เกลเซอร์” เจ้าของสโมสร ที่แฟนบอลมองว่าหวังแค่ผลกำไร และไม่ได้เข้ามาพัฒนาทีมอะไรไปจากเดิมเลย ทุกวันมีแต่แย่ลง กลับมาคุโชนอีกครั้ง

จนสโมสรต้องมีการออกแถลงการณ์เพื่อลดกระแสไปก่อน

 

“ทุกคนที่สโมสร ตั้งแต่เจ้าของสโมสรลงมา มีเป้าหมายที่จะพาสโมสรคว้าแชมป์ในระดับสูง ซึ่งก็ได้ลงทุนอย่างมหาศาลในการซื้อนักเตะมาเสริมทีม และจะทำต่อไปในอนาคต ในเวลาเดียวกันนั้นก็ได้หานักเตะเยาวชนที่มีพรสวรรค์มาเสริมทีมโดยตลอดในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา และต้องไม่ลืมว่าการดำเนินการทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สโมสรมีรายได้ แต่เป้าหมายหลักของสโมสรคือการสร้างความสำเร็จในสนามฟุตบอล สโมสรยืนยันว่าการซื้อนักเตะมาเสริมทีมเป็นเรื่องที่สำคัญ และจะเพิ่มการค้นหานักเตะที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งซื้อนักเตะที่ตรงตามความต้องการของผู้จัดการทีม ให้ดีขึ้นกว่า 4-5 ปีที่ผ่านมา”

นอกจากนั้น วู้ดเวิร์ดยังร้องขอให้แฟนบอลอดทนรอความสำเร็จไปสักระยะ

เพราะแผนงานที่ทำกันไว้ตอนนี้เป็นการสร้างความสำเร็จในระยะยาว

และได้เพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องของแมวมอง โค้ช และเรื่องต่างๆ ที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับสโมสรเอาไว้เป็นอย่างดี

ถ้ามองในภาพกว้าง ถือว่าการเดินหน้าสร้างทีมของโซลชาร์ในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นแผนระยะยาวจริงๆ

ซื้อนักเตะในอังกฤษที่พิสูจน์แล้วว่ามีดีอย่าง “แฮร์รี่ แม็กไกวร์” และ “อารอน วาน-บิสซาก้า” มาในราคาที่สูงลิบ “ดาเนียล เจมส์” ที่แทบไม่มีใครรู้จัก แต่ก็โชว์ฟอร์มได้เกินค่าตัว

ดันนักเตะเยาวชนขึ้นมา และเปิดโอกาสให้ลงสนามมากขึ้น ทั้งกรีนวู้ด, ตาฮิธ ชอง, อังเคล โกเมส

ที่สำคัญต่อสัญญากับนักเตะตัวหลักออกไป ไม่ว่าจะเป็น “ดาบิด เด เกอา” และ “วิกเตอร์ ลินเดอเลิฟ”

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แฟนบอลอยากเห็นคือ การทำผลงานเกาะกลุ่มท็อป 4 ในตารางพรีเมียร์ลีก เพื่อการันตีโควต้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้า

และไม่ได้มองไปถึงการไล่ล่าแชมป์อะไร เนื่องจากรู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไล่ตามลิเวอร์พูลหรือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ผลงานไร้เทียมทานอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

แต่แฟนบอลกลับไม่เชื่อว่านักเตะชุดนี้จะคว้าอันดับ 4 ได้ จึงจะต้องเสริมทีมอย่างหนักในช่วงตลาดนักเตะหน้าหนาวเดือนมกราคมที่จะถึงนี้

เริ่มจากการเสริมกองหน้าที่ยิงประตูเป็นกอบเป็นกำให้ได้ก่อน

แต่ต้องยอมรับว่ากองหน้าที่ทำผลงานดีในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก หรือเป็นดาวยิงระดับเวิลด์คลาส โอกาสที่ต้นสังกัดจะยอมปล่อยตัวกลางศึกแบบนี้แทบเป็นไปไม่ได้ อีกอย่างไม่สามารถการันตีได้ว่ามาร่วมทีมแล้วจะยิงประตูได้ทันที

อเล็กซิส ซานเชซ, โรเมลู ลูกากู ที่พิสูจน์ฝีเท้ามาแล้วว่ายอดเยี่ยมแค่ไหนในพรีเมียร์ลีกก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ และต้องเดินออกจากทีมไป

 

อีกเหตุผลหนึ่งที่แฟนบอลไม่แฮปปี้คือ การมองว่าโซลชาร์มือไม่ถึง แก้เกมไม่ได้

ขาดการกระตุ้นนักเตะในยามที่ทีมกำลังตามคู่แข่ง

ไม่สามารถเค้นฟอร์มที่ดีของลูกทีมออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ที่สำคั ญแท็กติกในการแก้เกมไม่หลากหลาย ส่งผลให้แฟนบอลส่วนใหญ่เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมไปเสียเลย

ถ้าทำแบบนั้นจริง มันก็จะเป็นการวนลูป เหมือนเวลา 6-7 ปีที่ผ่านมา ที่เปลี่ยนกุนซือใหม่ไปแล้ว 4 คน แต่กลับไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุด

แมนฯ ยูฤดูกาลนี้ผลงานอาจจะออกมาแย่กว่าปีก่อนๆ และคงลุ้นแชมป์ยาก

เว้นเสียแต่ว่าจะไปเน้นที่แชมป์ยูโรป้าลีก เพื่อสิทธิในการไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้า โดยไม่ต้องจบ 1-4 ของลีก น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีและเป็นไปได้มากที่สุดของโซลชาร์ในซีซั่นนี้

แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากอยู่ดี