50 ขุนพลบู๊ “ซูซูกิ” “เหมาะสม” หรือ “ขัดใจ” แฟนบอลไทย

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฟุตบอล “โตโยต้า ไทยลีก” ก็กำลังจะปิดฉากลงในช่วงสุดสัปดาห์นี้กันแล้ว

และสุดท้ายแชมป์ก็ยังคงเป็นหน้าเดิมอย่าง “ปราสาทสายฟ้า” “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ที่ยังรักษาแชมป์เอาไว้ได้ และเป็นแชมป์สมัยที่ 6 ของทีมเข้าไปแล้ว

ซึ่งเมื่อฟุตบอลลีกจบลง ก็จะถึงช่วงเวลาของทีมชาติบ้าง อย่างที่รู้กันว่าตารางแข่งขันฟุตบอลลีกปีนี้ยัดให้เตะกันอย่างรวดเร็ว เพราะว่า “ช้างศึก” “ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย” นั้นมีโปรแกรมสำคัญในช่วงปลายปีต่อต้นปีหน้า นั่นก็คือ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ” และ “เอเชี่ยนคัพ”

นอกจากนี้ยังมีเกมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ในเดือนตุลาคม ที่จะเจอกับ “ฮ่องกง” กับ “ตรินิแดดและโตเบโก” ซึ่งมีความสำคัญคือเป็นเทสติโมเนียลแมตช์ให้กับ “ตี๋” “สินทวีชัย หทัยรัตนกุล” อีกด้วย

ล่าสุดทาง “โค้ชมิโล” มิโลวาน ราเยวัช ได้ประกาศรายชื่อ 50 ผู้เล่นที่จะลงทะเบียนเพื่อเตรียมเข้าแข่งขันออกมาเป็นที่เรียบร้อย

เริ่มต้นที่ “ปราสาทสายฟ้า” ทีมแชมป์ลีก มีผู้เล่นติดมาถึง 8 คนด้วยกัน ไล่ตั้งแต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, ศศลักษณ์ ไหประโคน, พรรษา เหมวิบูลย์, ศุภชัย ใจเด็ด, กรกช วิริยอุดมศิริ, จักรพันธ์ แก้วพรม, รัตนากร ใหม่คามิ, ชิติพัทธ์ แทนกลาง นอกจากนี้ยังมีอีก 2 แข้งที่ปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวคือ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ และขวัญชัย สุขล้อม

รองลงมามีถึง 4 ทีมที่มีผู้เล่นติดมากันทีมละ 6 คนด้วยกัน ทีมแรกคือ “กิเลนผยอง” “เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด” ได้แก่ อดิศร พรหมรักษ์, พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา, สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชัปปุยส์, ทริสตอง โด และอดิศักดิ์ ไกรษร

ทีมที่สองคือ “แข้งเทพ” “แบงค็อก ยูไนเต็ด” ประกอบด้วย มานูเอล ทอม เบียห์ร, สุมัญญา ปุริสาย, สรรวัชญ์ เดชมิตร, ปกเกล้า อนันต์, มิก้า ชูนวลศรี และรุ่งรัฐ ภูมิจันทึก

ทีมที่สาม “สิงห์เจ้าท่า” “การท่าเรือ เอฟซี” นำมาโดย เควิน ดีรมรัมย์, นูรูล ศรียานเก็ม, บดินทร์ ผาลา, วรวุฒิ ศรีสุภา, นิติพงษ์ เสลานนท์, ปกรณ์ เปรมภักดิ์

และทีมที่ 4 ก็คือ “กว่างโซ้งมหาภัย” “เชียงราย ยูไนเต็ด” คือ ฉัตรชัย บุตรพรม, ศิวกรณ์ เตียตระกูล, สุริยา สิงห์มุ้ย, ชินภัทร์ ลีเอาะรานนท์ อนุอินทร์, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล

นอกจากนั้นก็มีทีมละไม่กี่คน เช่น “กระต่ายแก้ว” “บางกอกกล๊าส เอฟซี” ส่งเข้าประกวดมา 3 รายคือ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สุรชาติ สารีพิมพ์ และธนบูรณ์ เกษารัตน์ / “สุพรรณบุรี เอฟซี” 3 คน ชนานันท์ ป้อมบุปผา, สุพรรณ ทองสงค์, ธนาสิทธิ์ ศิริผลา / “โปลิศ เทโร เอฟซี” 3 คน นพพล พลคำ, มงคล ทศไกร, นิรันดร์ มีมาก

จากนั้นก็มากันทีมละคน ไล่ตั้งแต่ ฟิลิป โรลเลอร์ (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี) เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี) วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี) พิชา อุทรา (พัทยา ยูไนเต็ด) มาร์โก บัลลินี (ชัยนาท เอฟซี) อภิวัฒน์ เพ็งประโคน (อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด) สุพจน์ จดจำ (กระบี่ เอฟซี)

สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดจากการประกาศรายชื่อครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือ ราเยวัชเรียกผู้เล่นใหม่ๆ เพื่อจะเข้ามาทดลองหลายคนมาก เป็นเพราะว่าในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ จะขาด 4 กำลังหลักที่เล่นอยู่ในต่างประเทศทั้งหมด นั่นก็คือ “ตอง” “กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์”, “เมสซี่เจ” “ชนาธิป สรงกระสินธ์”, “มุ้ย” “ธีรศิลป์ แดงดา” และ “อุ้ม” “ธีราทร บุญมาทัน”

นี่จะเป็นการทดสอบอย่างดีเลยว่าเมื่อทีมชาติไทยต้องขาดตัวหลักเหล่านี้ จะสามารถเอาตัวรอดจากการเล่นในระดับอาเซียนได้หรือไม่

แต่สุดท้ายเมื่อประกาศรายชื่อออกมา แน่นอนว่ามันต้องมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งเอาจริงๆ แล้ว ครั้งนี้ก็มีหลายชื่อที่น่าแปลกใจว่าติดมาได้อย่างไร และก็มีรายชื่อที่หลุดไปแบบน่าเสียดายอยู่หลายคน

ยิ่งก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องที่ “บิ๊กเน” นายเนวิน ชิดชอบ บอกว่ามีเอเย่นต์ลูกหนังอยู่เบื้องหลังการเรียกนักเตะติดทีมชาติ ทำให้รายชื่อที่ออกมาครั้งนี้ หลายคนจับตาดูอย่างมากว่าจะมีอะไรผิดปกติหรือไม่

หลายคนแฮปปี้มากๆ กับการที่ไม่มีชื่อของ “ปีโป้” “สิโรจน์ ฉัตรทอง” ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวเล่นทีมชาติก็ไม่ได้ดีมาก แถมฟอร์มยังรูดแบบกู่ไม่กลับอีกด้วย ถ้าอยากกลับมาติดก็คงต้องเร่งฟอร์มตัวเองให้ได้

แต่คนที่กลายเป็นขี้ปากแทนในคราวนี้คงหนีไม่พ้น “สุพจน์ จดจำ” กองหน้าของกระบี่ เอฟซี เพราะด้วยตัวทีมเองก็ตกชั้นจากไทยลีก 2 ลงไปเล่นในไทยลีก 3 แถมเจ้าตัวเองก็ไม่ใช่ดาวซัลโวคนไทยในไทยลีก 2 เสียด้วย ทำไปเพียง 9 ประตูเท่านั้นในฤดูกาลนี้

ซึ่งอันนี้ก็ไม่รู้ว่าราเยวัชถูกใจอะไร เพราะสุพจน์เองมักจะมีชื่อติดทีมชาติเกือบทุกๆ ครั้งในช่วงหลัง

อีกคนที่น่าจะติดมาแบบพกเครื่องหมายคำถามให้กับแฟนบอลด้วย ก็คงเป็นอภิวัฒน์ เพ็งประโคน กองหน้าของอุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ที่ตกชั้นไป ทั้งฤดูกาลทำไปเพียง 3 ประตู น้อยกว่ากองหลังบางคนเสียด้วยซ้ำ แต่ก็มีชื่อติดทีมชาติชุดนี้ขึ้นมา

จริงๆ ตำแหน่งกองหน้าคงเป็นตำแหน่งที่คนเพ่งเล็งมากที่สุด จากการไม่มีธีรศิลป์ ว่าใครจะเข้ามาทดแทนได้ จะเห็นว่าคนค่อนข้างแฮปปี้กับการเรียก “สุรชาติ สารีพิมพ์” หรือ “ชนานันท์ ป้อมบุปผา” เข้ามามีชื่อ ทั้งคู่ถือว่าได้รับผลตอบแทนจากการทำงานอย่างหนักกับสโมสร ทำไปคนละ 8 ประตูให้กับสโมสรในลีกทั้งคู่

แต่มันก็มีดราม่าเช่นกันว่าทำไมตัวเลือกอย่าง “ลีซอ” “ธีรเทพ วิโนทัย” กองหน้าจอมเก๋า หรือ “ก้อง” “เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์” ที่หลุดทีมชาติไปนาน ทั้งสองคนนี้ทำผลงานกับสโมสรได้ดีอย่างต่อเนื่อง แถมเจ้าก้องตอนนี้ก็กำลังเข้าฝักยิงติดๆ กันจนยอดรวมนับเฉพาะคนไทยเป็นรองเพียง “สุมัญญา ปุริสาย” และ “วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ” เท่านั้น

หรืออย่างในตำแหน่งผู้รักษาประตู ใน 50 คนเรียกมาถึง 5 คนด้วยกัน แต่ที่น่าแปลกใจคือการเรียก 2 ผู้รักษาประตูของสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด มาพร้อมๆ กัน ทั้ง “บอย” “ฉัตรชัย บุตรพรม” และ “สรานนท์ อนุอินทร์” โดยเฉพาะรายหลังแทบจะไม่ได้ลงสนามด้วยซ้ำ

ในตำแหน่งผู้รักษาประตูจริงๆ แล้วยังมีอีกหลายคนที่เป็นตัวจริงให้กับสโมสร ได้ลงทำผลงานอย่างต่อเนื่อง และก็ฟอร์มไม่ได้น่าเกลียดอะไร อย่างเช่น “บาส” ชนินทร์ แซ่เอียะ ของชลบุรี เอฟซี หรือกัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ของ “กิเลนผยอง” เองก็ได้ลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ตําแหน่งอื่นๆ ก็ถือว่าค่อนข้างโอเค บอกตรงๆ ว่าแอบดีใจกับ “ชิติพัทธ์ แทนกลาง” กับ “ปกรณ์ เปรมภักดิ์” 2 ผู้เล่นในยุคของ “ซิโก้” “เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง” ที่ตกเป็นขี้ปากเรื่องฟอร์มการเล่นมาเป็นเวลานาน เป็นบ่อบ้าง หรือลงมาให้ครบทีมบ้าง

แต่ในวันนี้ทั้งคู่พิสูจน์ตัวเองได้แล้ว ชิติพัทธ์ได้รับคำชมอย่างมากในเกมชนะเมืองทองฯ ก็ดูเป็นการตอบแทนความทุ่มเทของเขา ไม่เคยสนใจเสียงด่าทอ ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองไป เช่นเดียวกับปกรณ์ จากตอนแรกดูเป็นคนที่มีดีแค่ลูกตั้งเตะ แต่ตอนนี้กลายเป็นคนสำคัญของการท่าเรือขึ้นมาได้เช่นกัน ถือว่าไม่ธรรมดาเลย

ทั้งหมดนี่จะเข้ามาเก็บตัวกับราเยวัช ก่อนที่จะถูกตัดให้เหลือ 23 คน แข่งอุ่นเครื่องในช่วงเดือนตุลาคมนี้ทั้ง 2 นัด ดังนั้น รายชื่อบางคนที่มีติดมา อาจจะเป็นเหตุผลว่าอยากดูฟอร์มกันแบบใกล้ชิดอีกสักหน่อย

เกมกับฮ่องกง กับตรินิแดดและโตเบโก จะมีความสำคัญอย่างมากที่จะต้องโชว์ให้ดู เอาตัวเองเข้าไปติดทีมให้ได้ ลบคำสบประมาทที่แฟนบอลมีให้

และนั่นคงจะมีคำตอบด้วยว่าการเรียกตัวของราเยวัชนั้นมีซัมติงอะไรหรือไม่