พิศณุ นิลกลัด : บริการฟรีที่ใครๆ ก็ชอบ

เทนนิสยูเอส โอเพ่น…การแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมรายการสุดท้ายของปี เริ่มแล้วเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม และจะจบในวันที่ 9 กันยายน ที่นิวยอร์ก

ในการแข่งขันเทนนิสยูเอส โอเพ่น มีสิ่งหนึ่งที่พิเศษไม่เหมือนการแข่งขันเทนนิสรายการอื่นๆ เป็นที่ชื่นชอบของนักเทนนิสทั้งหญิงและชายก็คือมีบริการซาลอนทำผมฟรีให้กับนักกีฬาที่เข้าแข่งขัน รวมถึงโค้ชและผู้ติดตามด้วย

ร้านทำผมทำเป็นซาลอนชั่วคราวที่เรียก Pop-up Salon ภายในสนามเทนนิสอาร์เธอร์ แอช สเตเดี้ยมซึ่งเป็นสถานที่แข่งขัน นำโดย จูเลี่ยน ฟาเรล (Julien Farel) ช่างผมชาวฝรั่งเศส ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในนิวยอร์ก ที่ปกติตัวเขาคิดค่าตัดผมครั้งละ 1,000 ดอลลาร์ หรือ 33,000 บาท

สาเหตุที่ค่าตัดผมแพงมาก จูเลี่ยนบอกว่าเป็นฝีมือและเทคนิคการตัดผมพิเศษของเขาที่ตัดแล้วผมยังรักษาทรงสวย หล่อได้นาน 4-6 เดือน ในขณะที่คนทั่วไปปกติจะตัดผมทุกๆ 2-3 เดือน

จูเลี่ยน ฟาเรล เริ่มทำผมฟรีให้กับนักเทนนิสในการแข่งขันยูเอส โอเพ่น มาตั้งแต่ปี 2007

นอกจากจะทำผมแล้ว ยังทำเล็บมือ เล็บเท้า ทั้งแบบปกติและแบบเจลติดทนนาน เปิดบริการตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น

สำหรับนักเทนนิสที่เคยตัดผมฟรีกับจูเลี่ยนในยูเอส โอเพ่น และต่อมากลายมาเป็นลูกค้าประจำแบบจ่ายเงินที่ซาลอนหรูของเขาในแมนแฮตตัน คือ ราฟาเอล นาดาล และโนวัก โจโควิช

จูเลี่ยนบอกว่าเขานี่แหละเป็นผู้เปลี่ยนทรงผมของนาดาลจากผมยาวเป็นผมสั้นในการแข่งขันยูเอส โอเพ่นปี 2010 ซึ่งเป็นปีที่นาดาลได้แชมป์ยูเอส โอเพ่น เป็นครั้งแรก และทำให้เขาได้แชมป์แกรนด์สแลมครบทั้ง 4 รายการ

แรงบันดาลใจในการตัดผมสั้นให้นาดาล จูเลี่ยนบอกว่า เขาดูจากโครงหน้าของนาดาล แล้วออกแบบทรงผมให้เหมือนกับนักกีฬาขี่ม้าโปโลจากอเมริกาใต้คนหนึ่ง

จูเลี่ยนไม่ได้บอกว่านักกีฬาขี่ม้าโปโลจากอเมริกาใต้คนนั้นคือใคร แต่เดากันว่าเป็นนักขี่ม้าโปโลชาวอาร์เจนตินา ชื่อนาโช่ ฟิเกรัส (Nacho Figueras) วัย 41 ปี ที่เป็นนายแบบของราล์ฟ ลอเรน (Ralph Lauren) มายาวนานติดต่อกันถึง 18 ปี

และได้รับคำชื่นชมว่าเป็นเดวิด เบ๊กแฮม แห่งวงการขี่ม้าโปโล

มียอดนักเทนนิสอยู่คนหนึ่งที่จูเลี่ยนบอกว่ายังไม่เคยได้รับเกียรติให้ตัดผม คือ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยอดนักเทนนิสชาวสวิส ไม่เคยเดินเข้าซาลอนทำผมของเขาแม้แต่ครั้งเดียว

ห้องทำผมชั่วคราวของจูเลี่ยน ฟาเรล มีเก้าอี้นั่งทำผม 3 ตัว โต๊ะทำเล็บ 1 ตัว มีช่างทำผมและช่างทำเล็บรวม 11 คน

ในแต่ละวันซาลอนของจูเลี่ยนให้บริการนักเทนนิสได้ประมาณ 50 คน

วันที่แขกเยอะสามารถรับมือได้ถึง 70 คนเลยทีเดียว

แม้นักเทนนิสอาชีพระดับโลกจะร่ำรวย แต่ร้านทำผมที่ทั้งฟรีและสะดวกแบบนี้ เป็นใครก็ชอบ

จูเลี่ยนบอกว่า บริการทำผมที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ ตัดผม

รองลงมาคือการถักเปีย ซึ่งต้องถักเปียให้แน่น เวลาแข่งขันผมจะได้ไม่ร่วงปรกหน้าสร้างความรำคาญ

สําหรับการทำให้ผมนักเทนนิสอยู่ทรง จูเลี่ยนจะใช้บาล์มหรือเจล ไม่ใช้สเปรย์ เพราะจะยิ่งทำให้ผมแห้งขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของนักเทนนิส ดังนั้น เขาจึงมีบริการทำทรีตเมนต์แก้ปัญหาผมแห้งด้วย

ผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมที่ใช้ให้ผมอยู่ทรง จูเลี่ยนบอกว่า ต้องมั่นใจว่าเวลาผสมกับเหงื่อแล้วไหลเข้าตานักเทนนิสขณะแข่งขัน

จะไม่ทำให้แสบตา

ถามจูเลี่ยนว่า สิ่งใดที่คนทั่วไปนึกไม่ถึงเกี่ยวกับนักเทนนิสอาชีพและเส้นผม

จูเลี่ยนตอบว่า นักเทนนิสอาชีพอาบน้ำวันละ 2-3 ครั้ง และสระผมทุกครั้งที่อาบน้ำ จึงทำให้ผมแห้ง ซึ่งเป็นปัญหาเรื่องเส้นผมของนาดาลและนักเทนนิสส่วนใหญ่

นอกจากนี้ การเล่นเทนนิสตากแดดเป็นประจำก็ทำให้ผมแห้งเสีย

ถามจูเลี่ยนว่า ใครคือ Icon ด้านทรงผมในวงการเทนนิส

จูเลี่ยนตอบว่า บียอร์น บอร์ก (Bjorn Borg) ที่ปลายผมพลิ้วไสว พร้อมที่คาดศีรษะ เป็นเอกลักษณ์ที่ใครๆ ก็จำได้

จูเลี่ยนบอกว่า “Hair is power.” ผมคือพลัง

ดังนั้น เวลาทำผมให้กับนักเทนนิสในยูเอส โอเพ่น เขาตั้งใจเต็มที่เพื่อทำให้ผมดูดี ไม่ใช่แค่เพื่อสะดวกเวลาแข่งขันอย่างเดียว

สุดท้ายจูเลี่ยนบอกว่า “If you look good, you play good.”

ถ้าคุณดูดี ทรงผมดูดี ก็จะแสดงผลงานออกมาดี