ทำไมถึงเรียกว่าปีนี้ปีทองของวงการกอล์ฟหญิงไทย

แฟนกอล์ฟบ้านเราหวุดหวิดจะได้เฮกันสนั่นเมื่อ” “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ” ขึ้นนำการแข่งขันเมเจอร์ “วีเมนส์ บริติช โอเพ่น” ในรอบสองและรอบสาม แม้กระทั่งในรอบสุดท้ายเล่นมาถึงหลุมที่ 6 ก็ขึ้นนำ 2 สโตรก มีลุ้นเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ต่อจาก” “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล”

น่าเสียดายที่โปรแหวนมาพลาดช่วงไม่กี่หลุมสุดท้าย จนโดน “จอร์เจีย ฮอลล์” นักกอล์ฟสาวเมืองผู้ดีแซงคว้าชัย เป็นการจบตำแหน่งรองแชมป์รายการของแอลพีจีเอทัวร์หนที่ 4 ของโปรสาวไทยวัย 28 ปีรายนี้แล้ว

แม้จะเป็นเรื่องน่าเสียดาย แต่ผลงานที่น่าตื่นตาตื่นใจของโปรแหวนตลอดช่วง 3 วันหลังก็ช่วยตอกย้ำผลงานอันยอดเยี่ยมของนักกอล์ฟสาวไทยในปีนี้เป็นอย่างดี

โดดเด่นกว่าใครคือ “โปรเม” เอรียา ซึ่งปีนี้คว้าไปแล้ว 3 แชมป์ ในจำนวนนั้นคือแชมป์เมเจอร์ “ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น” แถมยังกลับขึ้นไปเป็นมือ 1 ของโลกอีกครั้ง และนำสถิติหลายอย่างของทัวร์อยู่ในขณะนี้

ถัดมาคือ” “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล” และ” “โปรจูเนียร์” ธิฎาภา สุวัณณะปุระ” สองสาวไทยที่ต่างคว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์หนแรกในชีวิต โดยโปรโมเจ้าของรางวัลนักกอล์ฟหน้าใหม่ยอดเยี่ยมปี 2013 คว้าแชมป์ “แอลเอ โอเพ่น” กลางเดือนเมษายน และปีนี้ติดอันดับท็อปเท็นมาแล้ว 7 รายการ สูงสุดเป็นอันดับ 4 ของทัวร์

ส่วนโปรจูเนียร์ซึ่งเป็นสมาชิกทัวร์มาตั้งแต่ปี 2012 คว้าแชมป์แรกจากรายการมาราธอน คลาสสิค เมื่อเดือนที่แล้ว

ส่วนศึกเมเจอร์ที่ 4 ของปี รายการ “วีเมนส์ บริติช โอเพ่น” ที่เพิ่งจบไปนั้น แม้โปรแหวนจะพลาดแชมป์อย่างน่าเสียดาย แต่ 4 สาวไทยก็ประกาศศักดา ติดท็อป 22 ถึง 4 คน คือ โปรแหวน อันดับ 2, โปรเม อันดับ 4 ร่วม, โปรจูเนียร์ อันดับ 11 ร่วม,” “โปรสายป่าน” ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์” อันดับ 22 ร่วม (ขณะที่โปรโมจบอันดับ 42 ร่วม) แถมพ่วงด้วย” “น้องจีน” อาฒยา ฐิติกุล” ซึ่งคว้ารางวัลนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ผลงานดีที่สุดของทัวร์นาเมนต์ด้วย

ภาพน่ารักๆ ในการแข่งขันวันสุดท้ายของศึกเมเจอร์ วีเมนส์ บริติช โอเพ่น คือการที่สาวๆ ไทยซึ่งเล่นจบไปแล้วมารวมตัวกันเชียร์ “พี่แหวน” พี่ใหญ่ของนักกอล์ฟไทย (ที่แข่งขันสม่ำเสมอในแอลพีจีเอทัวร์ขณะนี้) ให้ประสบความสำเร็จ

และถึงแม้จะทำไม่ได้ ทุกคนก็ชื่นชมในความเป็นแบบอย่างที่ดีของพี่ใหญ่คนนี้เสมอ

โดยโปรโมกล่าวว่า โปรแหวนเป็นนักกอล์ฟฝีมือดีที่เล่นในทัวร์มานาน (ตั้งแต่ปี 2009) เป็นคนใจเย็น และรับแรงกดดันได้ดี

นอกจากนี้ ทั้งโมและเมเคยให้เครดิตโปรแหวนว่าเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเธอเล่นในแอลพีจีเอทัวร์ตามรอยรุ่นพี่ด้วย โดยเชื่อว่าถึงวันนี้จะทำไม่สำเร็จ สักวันก็จะเป็นวันของเธอในที่สุด

ด้านโปรแหวนก็ชื่นชมน้องๆ เช่นกันว่า ความสำเร็จของสองพี่น้องจุฑานุกาลในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลายเป็นแรงบันดาลใจให้นักกอล์ฟรุ่นใหม่ของไทยเกิดความกล้าที่จะก้าวออกไปท้าทายในระดับนานาชาติ ด้วยความเชื่อมั่นว่า “เราทำได้ เราสามารถคว้าแชมป์ได้”

ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของสาวไทยในปีนี้กลายเป็นคลื่นใหม่มาแรงของวงการกอล์ฟหญิงระดับโลก จากเดิมที่มีกระแสของฝั่งเกาหลีใต้ตามด้วยญี่ปุ่นมาแล้ว

“รยู โซยอน” นักกอล์ฟสาวเกาหลีใต้มืออันดับ 2 ของโลกซึ่งก้าวตามรอยรุ่นพี่อย่าง “ปัก เซรี” และ “ชิน จีเอ” ที่ถางทางไว้ในอดีตแสดงทรรศนะว่า กีฬากอล์ฟในประเทศไทยตอนนี้น่าจะมีความคล้ายคลึงกับเมื่อคราวปัก เซรี เริ่มสร้างชื่อในระดับนานาชาติ จนมีนักกอล์ฟหญิงแดนโสมก้าวตามมาอีกมากมาย

และได้ทราบข้อมูลมาว่า ภาคเอกชนหลายแห่งของไทยให้การสนับสนุนอย่างเป็นระบบตั้งแต่การวางโปรแกรมฝึกซ้อมในระดับเยาวชน ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญ เพราะการที่วงการกอล์ฟเกาหลีใต้ก้าวมาถึงจุดนี้ได้ก็ด้วยการสนับสนุนอย่างจริงจังของภาครัฐและเอกชน เริ่มจากการทำให้ทัวร์ภายในประเทศเข้มแข็ง จากนั้นจะมีนักกอล์ฟก้าวออกมาสู่ระดับนานาชาติมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเริ่มนับ 1 แล้ว ก็จะมี 2, 3, 4 ตามมา วันที่จะได้เห็นนักกอล์ฟไทยประสบความสำเร็จต่อเนื่องในแอลพีจีเอทัวร์แบบเดียวกับที่สาวๆ โสมเคยทำได้ก็อาจไม่ไกลเกินฝัน