จริงตนาการ : ใครจะปราบ “คิงออฟเคลย์” ที่โรล็องด์ การ์โรส?

“ราฟาเอล นาดาล” กลับสู่การเป็นมือ 1 ของโลกอีกครั้ง หลังคว้าแชมป์อิตาเลียน โอเพ่น ได้มาหมาดๆ ถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง ก่อนจะไปลุ้นแชมป์แกรนด์สแลม “เฟรนช์ โอเพ่น” สมัยที่ 11 ของตัวเอง ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ไม่ใช่แค่แชมป์อิตาเลียน โอเพ่น เพราะนาดาลกวาดมาแล้ว 3 แชมป์บนคอร์ตดินในเดือนเมษายน-พฤษภาคม โรเล็กซ์ มอนติ-คาร์โล มาสเตอร์ส ที่โมนาโก ต่อด้วยบาร์เซโลนา โอเพ่น ที่สเปน มาจบหรูๆ ที่อิตาลี พร้อมการเป็นมือ 1 โลก พลาดแชมป์รายการมูตัว มาดริด โอเพ่น ด้วยฝีมือของ “โดมินิก เธียม” จากออสเตรีย ในรอบก่อนรองชนะเลิศ

เหมือนเป็นประเพณีไปแล้วว่า ถ้าถึงเฟรนช์ โอเพ่น เมื่อไร ก็จะมีการตั้งคำถามว่า ใครจะเป็นผู้ล้มความยิ่งใหญ่ของนาดาลบนคอร์ตดินลงได้?

คิงออฟเคลย์มีสถิติในการเล่นเฟรนช์ โอเพ่น 79-2 หรือชนะ 79 แมตช์ แพ้ 2 แมตช์ และความพ่ายแพ้ 2 ครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2009 จากฝีมือของ “โรบิน โซเดอร์ลิ่ง” นักหวดสวีเดน และ “โนวัก โยโควิช” ในปี 2015 นอกจากนั้น ชัยชนะเป็นของเขาหมด

โซเดอร์ลิ่งเคยบอกไว้ว่า ถ้าอยากจะยัดเยียดความปราชัยให้นักหวดแดนกระทิงคนนี้ คุณต้องดุดันและเน้นทุกแต้ม ซึ่งนั่นเป็นสไตล์การเล่นของโซเดอร์ลิ่งอยู่แล้ว ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย แต่ในวันนั้นนักเทนนิสสวีดิชยอมรับว่า ต้องเพิ่มความเหี้ยมเกรียมเข้าไปมากกว่าเดิม และกล้าที่จะเล่นช็อตเสี่ยงๆ และทุกอย่างมันก็ออกมาอย่างที่หวัง

ในรายการมูตัว มาดริด โอเพ่น นาดาลทำสถิติชนะบนคอร์ตดินติดต่อกัน 50 เซ็ต ทำลายสถิติเก่าของ “จอห์น แม็กเอ็นโร” ตำนานนักหวดอเมริกัน ที่เคยทำไว้ 49 เซ็ต เมื่อปี 1984

นาดาลบอกว่า สถิตินี้เป็นสถิติที่ยาก แต่สุดท้ายก็ทำได้สำเร็จ ดังนั้น เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ให้มันจบไป หลังจากนี้จะไม่พูดถึงมันอีกแล้ว เพราะอยากจะมองไปถึงสิ่งที่รออยู่ข้างหน้ามากกว่า

 

ความสุดยอดของนาดาลในคอร์ตดินปีนี้ถือว่าน่ากลัวกว่าหลายปีที่ผ่านมา ในรายการมอนติ-คาร์โล มาสเตอร์ส “เคร็ก โอชานเนสซี่” เจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนการเล่นของเอทีพีบอกว่า นาดาลเก็บแต้มได้ถึง 60.9 เปอร์เซ็นต์ จนก้าวไปเป็นแชมป์รายการนี้สมัยที่ 11 ถือเป็นสถิติที่ดีมาก เป็นรองเพียงการคว้าแชมป์ปี 2010 ที่ทำไว้ 64.1 เปอร์เซ็นต์ ปีเดียวเท่านั้น รวมทั้งยังสามารถเอาชนะคู่แข่งในการเสิร์ฟครั้งที่ 2 ได้ถึง 67.5 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนั้น เปอร์เซ็นต์การรีเทิร์นบอลของเขายังเป็นตัวกำหนดความสำเร็จบนคอร์ตดินของยอดนักหวดสเปนคนนี้อย่างชัดเจน ตลอดการเล่นเทนนิสอาชีพ สถิติการรีเทิร์นรวมทุกคอร์ตอยู่ที่ 29.26 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเขาเล่นบนคอร์ตดินแล้วละก็ สถิติจะพุ่งขึ้นไปที่ 42.74 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

(สถิติก่อนการแข่งขันรายการมอนติ-คาร์โล มาสเตอร์ส)

 

ย้อนกลับมาที่คำถามเดิมว่า ใครจะเป็นคนปราบนาดาลบนคอร์ตดินได้หลังจากนี้

คนแรกต้องยกให้เธียม ที่ถูกมองว่าจะมาเป็นราชาแห่งคอร์ตดินแทนนาดาลในอนาคต เธียมปราบนาดาลบนคอร์ตนี้มาแล้ว 3 ครั้ง จากการเจอกัน 9 ครั้ง ซึ่ง 3 ครั้งที่เธียมชนะได้ แยกเป็นปี 2016, 2017, 2018 ปีละครั้ง ล่าสุดเป็นรายการมูตัว มาดริด โอเพ่น ที่ผ่านมา เธียมนั่นเองที่เป็นคนหยุดสถิติชนะรวดบนคอร์ตดินของนาดาลไว้เพียง 50 เซ็ต

อย่างไรก็ตาม สถิติในเฟรนช์ โอเพ่น การที่เธียมเจอกับนาดาลในเกมยาวๆ 3 ใน 5 เซ็ตนั้น 2 ครั้งที่เจอกัน เขายังไม่เคยขโมยเซ็ตจากนาดาลได้เลย

คนต่อมา “อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ” นักเทนนิสเยอรมัน มีส่วนสูงถึง 198 ซ.ม. ทำให้มีความได้เปรียบในการเสิร์ฟลูกที่หนักหน่วง และยิ่งเล่นบนคอร์ตดินที่ต้องใช้ความเร็วมากกว่าคอร์ตอื่นยิ่งทำให้ซเวเรฟได้เปรียบเข้าไปอีก

ซเวเรฟใช้ลูกเสิร์ฟรุนแรงเล่นงานคู่แข่ง และสามารถยิงวินเนอร์จากสองข้างของคอร์ตได้อย่างแม่นยำ แถมยังกล้าเสี่ยงวิ่งขึ้นหน้าเน็ตเพื่อปิดคะแนนนั้นด้วย

ข้อเสียของซเวเรฟในการจะเจอกับนาดาลคือ เขายังไม่ค่อยได้แผลงฤทธิ์กับนาดาลมากนัก แถมร่างกายจะยืนระยะในการเสิร์ฟเต็มเหนี่ยวกับรีเทิร์นหนักๆ ตลอด 5 เซ็ตได้หรือไม่?

 

อีกคนที่ถือว่าเป็นคู่แข่งตัวฉกาจกับนาดาล คือ โนวัก โยโควิช เพราะนักหวดเซอร์เบียคนนี้เคยชนะคิงราฟาบนคอร์ตดินมาแล้วถึง 7 ครั้ง

โยโควิชมักจะรีเทิร์นอย่างรุนแรง เพื่อให้นาดาลถอยไปท้ายคอร์ต และลูกแบ๊กแฮนด์สองมือของเขาก็แรงพอที่สวนลูกโฟร์แฮนด์ของนาดาลได้ด้วย รวมทั้งการหวดโฟร์แฮนด์ของโยโควิชยังทำให้นาดาลไปอยู่ในมุมที่ต้องโต้ด้วยแบ๊กแฮนด์อยู่บ่อยๆ นี่เป็นแผนที่นักหวดเซิร์บใช้มาตลอดในการเจอกับราชาแห่งคอร์ตดิน

แต่เดี๋ยวก่อน ฟอร์มของโยโควิชใน 2 ปีหลังถือว่าดำดิ่งลงไปมาก อันดับร่วงลงไปอยู่ที่ 22 ของโลก ปีที่แล้วได้แค่ 2 แชมป์ ปีนี้ยังมือเปล่า ช่างตรงข้ามกับฟอร์มของนาดาลในตอนนี้จริงๆ

ท้ายที่สุดแล้ว คำตอบว่าใครจะปราบนาดาลได้ในเฟรนช์ โอเพ่นหนนี้ คงตอบได้ว่า ไม่มีเลย!!