“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ประเดิมเกมนัดแรกของพวกเขาในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2020-2021 ด้วยการแพ้คาถิ่นต่อ “คริสตัล พาเลซ” 1-3

แม้เกมต่อมาจะเอาชนะลูตัน ทาวน์ จากลีกแชมเปี้ยนชิพ 3-0 ในลีกคัพรอบ 3 แต่ก็ไม่อาจพูดได้ว่าพวกเขาคืนฟอร์มเก่งแล้ว

“สตีฟ แม็กคลาเรน” อดีตนายใหญ่ทีมชาติอังกฤษ วิเคราะห์มองว่า “วิกตอร์ ลินเดอเลิฟ” กองหลังชาวสวีเดนเป็นหนึ่งในจุดอ่อนของทีม เกมแพ้พาเลซนั้นชัดเจนมากๆ ลินเดอเลิฟรับมือแนวรุกพาเลซไม่ดีเลย

แม็กคลาเรนบอกว่า ผีแดงควรหากองหลังที่ไว้ใจได้มากกว่านี้มาเล่นคู่กับแฮร์รี่ แม็กไกวร์ หากไม่อยากโดนเล่นงานแผลเดิมซ้ำๆ อีก

 

แต่มีรายงานว่า “โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์” กุนซือผีแดงยังไม่รีบซื้อกองหลังเพิ่มตอนนี้ เนื่องจากยังไว้ใจเซ็นเตอร์แบ๊กที่มีอยู่ ทั้ง “เอริก ไบญี่, ฟิล โจนส์, มาร์กอส โรโฮ” และ “อักเซล ตวนเซเบ้” เป็นต้น ส่วน “คริส สมอลลิ่ง” ก็พร้อมเก็บไว้ใช้งานหากดีลย้ายซบ “โรม่า” ที่กำลังเจรจานั้นล่มลง

ตำแหน่งมือกาวน่าจะหายห่วง หาก “ดาบิด เด เคอา” ยังพลาดง่ายๆ ตอนนี้มี “ดีน เฮนเดอร์สัน” ตัวอนาคตไกลรอเสียบ

ขยับมาที่กองกลาง ในตอนนี้มี “บรูโน่ แฟร์นันเดส” เป็นหัวใจหลัก สร้างชีวิตชีวาให้ทีมมากขึ้นนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ “ปอล ป๊อกบา” ผลงานยังไม่คงเส้นคงวา บางวันเล่นดีจ่ายบอลสวยๆ ได้ วันไหนเล่นไม่ออกก็แทบหายไปจากเกม

ในรายของ “ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ก” เรายังไม่เห็นฟอร์มมากเท่าไหร่ แต่ถือว่าเริ่มต้นสวย นัดแรกลงสำรองก็ยิงได้เลย แต่ยังต้องรอดูกันต่อไปว่าจะปรับตัวกับทีมและบอลอังกฤษได้ดีแค่ไหน ส่วนกองกลางตัวตัดเกม ตอนนี้เน้นใช้ “สกอตต์ แม็กโทมิเนย์” สลับกับ “เนมันย่า มาติช” และ “เฟร็ด” แต่พวกเขายังมีจังหวะหลุด หยุดคู่แข่งไม่อยู่ประปราย

ปัญหารูปเกมของผีแดง ที่เห็นได้ชัดคือการต่อบอลยังไม่ค่อยแม่นยำ นักเตะขาดความเข้าขารู้ใจกัน หลายเกมแม้ครองบอลได้เยอะ แต่กว่าจะหาโอกาสจบสกอร์ได้สักครั้งก็กินเวลาหลายนาที

ที่เป็นแบบนั้นเพราะมิติเกมรุกในแดนหน้าปีศาจแดง ต่างเป็นนักเตะที่ถนัดใช้ความเร็ว ชอบมีบอลอยู่กับเท้าก่อนลากเลื้อยจบสกอร์ แบบนี้คู่แข่งก็จับทางง่าย เน้นตั้งรับต่ำ ไม่เปิดพื้นที่ให้ได้ตะลุยง่ายๆ ความอันตรายก็หายไปเยอะ

เมื่อคิดช้าทำช้า คู่แข่งก็มีเวลาตั้งรับสบายๆ ไม่กดดัน ก็ยากที่จะพลาดได้ง่ายๆ ขอตั้งรับแน่นๆ รอสวนกลับตูมเดียวหาย ทำผีแดงหน้าหงายมาไม่น้อย

อาวุธที่ควรใช้งานเพิ่มความหลากหลายในแผนเกมรุกคือกองหน้าตัวเป้า ตัวยืนค้ำคอยเก็บบอลข้างหน้า ซึ่งในทีมตอนนี้มีเพียงคนเดียวคือ “โอเดียน อิกาโล่” แต่โซลชาร์ดันให้โอกาสลงสนามน้อย เล่นแต่บอลถ้วยรอง บางครั้งได้ลงช่วงท้ายเกม มีเวลาไม่มากพอที่จะหยิบจับอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ยากที่จะทำฟอร์มได้สม่ำเสมอ

 

Squawka Football เว็บไซต์เก็บสถิติชื่อดังบอกว่า “อองโตนี่ มาร์ซิยาล, เมสัน กรีนวู้ด, มาร์คัส แรชฟอร์ด, ดาเนียล เจมส์” และอิกาโล่ ยิงตรงกรอบรวมกัน 0 ครั้งในเกมกับพาเลซ เกมรุกเข้าขั้นวิกฤต

ในภาพรวม แมนฯ ยูยังมีปัญหาหลายจุดที่ต้องแก้ไข แม้แต่ “เจดอน ซานโช่” ปีกชาวอังกฤษ ที่เป็นเป้าหมายหลัก ถึงได้ตัวมาก็ยังไม่ใช่จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายอยู่ดี

โซลชาร์ต้องรีบปรับแผนจูนทีม ตลาดซื้อขายกับลีกอื่นๆ ยังเปิดจนถึงวันที่ 5 ตุลาคมนี้ แมนฯ ยูต้องขยับตัวได้แล้ว หากอยากยกระดับก้าวไปเบียดลุ้นแชมป์ใดๆ

ไม่เช่นนั้น แค่การจบท็อปโฟร์ ก็อาจจะยังเป็นงานสุดหินของพวกเขาเหมือนที่ผ่านมา