หลังจากสร้างปรากฏการณ์ฮือฮาในวงการสักหลาดโลกเมื่อกลางปี ด้วยการเป็นนักเทนนิสอายุน้อยที่สุดที่ได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบเมนดรอว์หญิงเดี่ยว ศึกแกรนด์สแลม “วิมเบิลดัน” ด้วยวัยเพียง 15 ปี ก่อนฉลุยเข้าถึงรอบสี่ หรือรอบ 16 คนสุดท้าย โดยปราบขวัญใจของตัวเองอย่าง “วีนัส วิลเลียมส์” อดีตมือ 1 ของโลกมาระหว่างทาง

มาตอนนี้ “คอรี่ “โคโค่” กอฟฟ์” สาวน้อยชาวอเมริกันวัย 15 ปี เป็นเจ้าของแชมป์เทนนิสอาชีพของดับเบิลยูทีเอทัวร์ทั้งเดี่ยวและคู่อย่างละ 1 รายการไปแล้วเรียบร้อย

ย้อนไปเมื่อเดือนสิงหาคม โคโค่จับคู่กับ “เคที่ แม็กนัลลี่” เพื่อนร่วมชาติวัย 17 ปี ร่วมคว้าแชมป์หญิงคู่ “วอชิงตัน โอเพ่น” เป็นแชมป์ระดับดับเบิลยูทีเอทัวร์หนแรกของทั้งคู่ และสดๆ ร้อนๆ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน โคโค่ก็คว้าแชมป์หญิงเดี่ยวรายการ “ลินซ์ โอเพ่น” ที่ประเทศออสเตรีย หลังจากมีดวงได้สิทธิร่วมแข่งในฐานะ “ลักกี้ ลูสเซอร์” ทั้งที่ไม่ผ่านรอบคัดเลือก ส่งให้สาวน้อยชาวเมืองมะกันเป็นแชมป์ กลายเป็นแชมป์หญิงเดี่ยวอายุน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2004 ของดับเบิลยูทีเอทัวร์เลยทีเดียว

ความสำเร็จต่อเนื่องของโคโค่ทำให้อันดับโลกของเธอพุ่งพรวดเข้าไปอยู่ในท็อป 100 ทั้งประเภทเดี่ยวและคู่

โดยประเภทเดี่ยวอยู่อันดับ 71 ของโลก ทั้งที่ตอนออกสตาร์ตฤดูกาลใหม่ๆ เธออยู่อันดับ 686 ของโลกเท่านั้น

ส่วนประเภทคู่อยู่อันดับ 39 ของโลก

 

ก่อนหน้านี้ช่วงเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ โคโค่ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะพยายามไต่อันดับขึ้นไปอยู่ในท็อป 100 ของโลก เพื่อให้ได้สิทธิเล่นเมนดรอว์ในศึกแกรนด์สแลม ซึ่งด้วยวัย 15 ปี เธอกะว่าคงใช้เวลาประมาณ 2 ปี แต่กลายเป็นว่าผ่านไปไม่ถึงปี เป้าหมายที่ตั้งไว้ก็บรรลุความสำเร็จเรียบร้อยแล้ว จึงน่าจับตามองว่าเป้าหมายในลำดับต่อไปของโคโค่จะเป็นอะไร

อีกประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ หลักการและวิธีคิดของโคโค่ในการเล่นเทนนิสอาชีพ ซึ่งไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ด้วยอายุเท่านี้ จะหวังให้นักหวดสาวน้อยคิดอ่านแบบผู้ใหญ่คงเป็นไปได้ยาก

ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ประสบการณ์จะช่วยหล่อหลอม

ขณะเดียวกัน คำแนะนำดีๆ จากคนรอบข้างก็มีส่วนไม่น้อย

โคโค่เล่าว่า เมื่อต้นปีที่แล้ว หลังจากตกรอบเยาวชนหญิงเดี่ยวแกรนด์สแลม “ออสเตรเลียน โอเพ่น” เธอรู้สึกเศร้ามาก เนื่องจากเป็นหนึ่งในตัวเต็ง ตอนนั้นเองที่ได้พบกับ “โรเจอร์ เฟเดอเรอร์” ตำนานสักหลาดชาวสวิสซึ่งให้คำแนะนำดีๆ ที่ช่วยเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการเล่นเทนนิสไป

โคโค่เล่าว่า เฟดบอกว่าอย่าไปสนใจแรงกดดันหรือ “ดราม่า” รอบข้างมากเกินไป

เมื่อลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ก็ช่วยให้เล่นเทนนิสได้อย่างสนุกและมีความสุข

โดยไม่กลับไปคิดถึงเรื่องความพ่ายแพ้ที่เจ็บปวดครั้งนั้นอีก

 

ส่วนแมตช์ล่าสุดที่คว้าแชมป์หญิงเดี่ยว “ลินซ์ โอเพ่น” มาครอง โคโค่ตั้งหลักกลับมาหลังจากโดน “เยเลน่า ออสตาเปนโก้” อดีตแชมป์ “เฟรนช์ โอเพ่น” ชาวลัตเวียตีเสมอ 1-1 เซ็ต จนเอาชนะไปในเซ็ตตัดสินได้สำเร็จ

ช่วงที่โคโค่ขึ้นนำ 5-2 ในเซ็ตสุดท้าย ต้องการอีกเพียงเกมเดียวเพื่อคว้าแชมป์ “คอรีย์ กอฟฟ์” คุณพ่อที่ควบตำแหน่งโค้ช เข้าไปหาลูกสาว คุกเข่าลงข้างๆ แล้วให้คำแนะนำง่ายๆ ว่า “รีแล็กซ์นะ ลูกไม่จำเป็นต้องวิ่งไปที่เส้นชัย เราแค่เดินเข้าเส้นชัยก็พอ โอเคนะ?” ก่อนจะสำทับให้โคโค่เชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง อย่าไปพะวงกับผล อย่าไปคิดลบ ให้คิดบวกเข้าไว้

คำสอนนี้ถึงจะเรียบง่ายแต่ก็ช่วยให้เห็นภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบอกให้ลูก “ไม่ต้องวิ่งเข้าเส้นชัย” ซึ่งนอกจากจะคลายความกดดันได้ระดับหนึ่งแล้ว ยังช่วยให้โฟกัสกับเกมแบบไม่มากไม่น้อยเกินไปอีกด้วย

 

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องของโคโค่ ย่อมทำให้สาวน้อยวัยย่าง 16 ปีโดนสื่อและแฟนๆ จับตามองอย่างมหาศาล ความคาดหวังต่างๆ จะกลายเป็นความกดดันสำหรับเจ้าตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงกับฟอร์มการเล่น ดังที่เราได้เห็นจาก “นาโอมิ โอซากะ” เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 2 รายการ และอดีตมือ 1 โลกชาวญี่ปุ่น

สิ่งสำคัญสำหรับโคโค่และคนใกล้ตัวในตอนนี้คือดูแลสภาพจิตใจของสาวน้อยให้ดี เตรียมความพร้อมสู่เวทีใหญ่อย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งสั่งสมประสบการณ์และขัดเกลาฟอร์มการเล่น โดยต้องไม่ลืมว่า ถึงเก่งขนาดไหน เธอก็ยังเพิ่งอายุ 15 ปี

ยังมีอนาคตแสนยาวไกลรออยู่ข้างหน้า!