เงินหมื่นเพื่อครั้งหนึ่งในชีวิตของเด็กผู้ดี รู้จักธุรกิจแมสคอตในสนามฟุตบอลอังกฤษ

ความฝันของเด็กบ้าบอลสักคนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการก้าวขึ้นไปเป็นนักเตะเก่งๆ ที่มีชื่อเสียงในอนาคต

แต่ถ้าชอบฟุตบอล แต่ไม่ชอบเตะบอล โอกาสนั้นก็คงไม่มีวันเกิดขึ้นจริง

อย่างไรก็ตาม ใน “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ก็มีการเติมเต็มฝันอีกรูปแบบหนึ่งให้คอบอลตัวเล็กๆ ได้มีประสบการณ์ที่หายากมากติดความทรงจำไปจนโต

นั่นคือ การเป็นแมสคอตในเกมการแข่งขันของสโมสรที่ตัวเองรัก

การเป็นแมสคอตก็คือเป็นเด็กนำโชคที่จะจูงมือนักเตะของทั้ง 2 ทีมเดินเข้าสนามก่อนเกมเตะ และได้ร่วมถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดกับแข้งในทีมที่ตัวเองเชียร์นั่นเอง

เดิมทีในอังกฤษมีการเลือกเด็กๆ มาทำหน้าที่นี้ แต่ในปัจจุบัน เด็กคนไหนอยากจะเป็นแมสคอต คิด ก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายกันมาพักใหญ่ ราคาค่างวดก็แพงเอาการทีเดียว “บอร์นมัธ” คิดราคาไว้ที่ 175 ปอนด์ (7,350 บาท) ถือเป็นสโมสรที่คิดเงินถูกที่สุดในบรรดาทุกสโมสรที่ทำธุรกิจนี้ในระดับพรีเมียร์ลีก

“วัตฟอร์ด” 250 ปอนด์ (10,500 บาท), “คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้” 255 ปอนด์ (10,710 บาท), “เบิร์นลีย์” 300 ปอนด์ (12,600 บาท), “ไบรตัน” 350 ปอนด์ (14,700 บาท), “คริสตัล พาเลซ” 375 ปอนด์ (15,750 บาท), “วูล์ฟแฮมป์ตัน” 395 ปอนด์ (16,590 บาท), “สเปอร์ส” 405 ปอนด์ (17,010 บาท) “เลสเตอร์ ซิตี้” 600 ปอนด์ (25,200 บาท), “เวสต์แฮม” 700 ปอนด์ (29,400 บาท) และที่แพงที่สุด ได้แก่ “เอฟเวอร์ตัน” 718 ปอนด์ (30,156 บาท)

สิ่งที่เด็กๆ จะได้จากการทำหน้าที่ไม่ใช่แค่ความทรงจำเท่านั้น พวกเขาจะได้ชุดแข่งของทีม พร้อมลายเซ็นนักเตะ ลูกฟุตบอล บัตรเข้าชม หรือกิจกรรมและสิ่งของต่างๆ ตามที่สโมสรได้กำหนดไว้ ด้วยสโลแกนที่ดึงดูดใจผู้ปกครองว่า “โอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต กับของขวัญที่เด็กๆ ของคุณจะไม่มีวันลืม”

ขณะที่อีกหลายสโมสรก็เลือกที่จะไม่ทำธุกิจนี้ โดยเฉพาะทีมบิ๊กเนมทั้งหลาย “อาร์เซนอล, เชลซี, ฟูแล่ม, ฮัดเดอร์สฟิลด์, ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้, แมนฯ ยู, นิวคาสเซิล, เซาแธมป์ตัน”

ลิเวอร์พูล, เชลซี, อาร์เซนอล, แมนฯ ยู จะเลือกเด็กๆ มาทำหน้าที่นี้จากการสุ่มผู้สมัครเข้ามา ขณะที่ฟูแล่มจะจับสลากจากแฟนบอลที่มีตั๋วปี คริสตัล พาเลซ ถึงแม้จะเก็บเงินในเรื่องนี้ แต่ก็เปิดโอกาสให้เด็กๆ ที่มีอาการป่วยได้มาเป็นแมสคอตฟรีในบางโอกาส

การเก็บเงินในลักษณะนี้ทำให้แฟนบอลจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมว่าควรทำหรือไม่ เพราะทุกสโมสรก็ได้เงินตอบแทนจากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดอย่างมหาศาลกันแล้ว

“มาร์ติน เจมส์” หนึ่งในแฟนบอลของ “สวอนซี ซิตี้” ในลีกแชมเปี้ยนชิพ แสดงความคิดเห็นว่า การเป็นแมสคอตถือเป็นการตอบแทนแฟนบอลเยาวชนอย่างหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ควรนำมาหารายได้ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเด็กที่เกิดในครอบครัวที่รวยกว่า มีโอกาสจะทำหน้าที่ได้เร็วกว่าคนอื่นๆ เพราะมีเงินจะจ่ายมันเพื่อขยับคิวให้เร็วขึ้น

โฆษกของสวอนซีตอบคำถามแฟนบอลในเรื่องนี้ว่า สโมสรได้ลดค่าใช้จ่ายในการเป็นแมสคอตจากเดิม 450 ปอนด์ เหลือ 399 ปอนด์ในแมตช์สุดสัปดาห์ และ 349 ปอนด์ในแมตช์กลางสัปดาห์ ตั้งแต่ตกชั้นลงมาจากพรีเมียร์ลีกแล้ว นอกจากนั้นยังให้เด็กมาเป็นแมสคอตฟรี 1 คนต่อ 1 แมตช์ เพื่อเป็นการทำการกุศลด้วย

เอฟเวอร์ตันที่เก็บค่าดำเนินการการเป็นแมสคอตแพงที่สุด ให้เหตุผลที่ทำแบบนี้ว่า เพื่อเป็นการนำเงินไปจ้างบุคลากรต่างๆ ในสโมสร

 


สําหรับแฟนบอลบางส่วนอาจจะไม่แฮปปี้ที่ต้องเสียเงินก้อนให้ลูกๆ ไปมีความทรงจำอันสวยงามนี้ แต่แฟนบอลจำนวนมากก็เต็มใจที่จะจ่าย

“แคลร์ แบลก” แฟนบอลคาร์ดิฟฟ์ เตรียมการให้ลูกชายที่กำลังจะอายุครบ 8 ขวบ เพื่อเป็นของขวัญวันเกิด ด้วยเงินกว่า 1 หมื่นบาท

“ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีที่ได้ให้ลูกเป็นแมสคอตในเกมใหญ่กับแมนฯ ซิตี้ ซึ่งก็เป็นการจ่ายที่คุ้มค่า แต่ก็ไม่แน่ว่าจะรู้สึกดีมั้ย ถ้าต้องจ่ายเงินในจำนวนเดียวกันในการเป็นแมสคอตในแมตช์ที่เจอทีมเล็กๆ ลูกชายได้ชุดแข่งขัน ได้รูปถ่ายพร้อมลายเซ็นของนักเตะ ได้พบกับนีล วอร์น็อก (ผู้จัดการทีมคาร์ดิฟฟ์) ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีของเขามากๆ แต่ที่นั่งในการชมเกมในวันนี้อาจจะไม่ดีนัก เพราะได้มีโอกาสพบนักเตะของคาร์ดิฟฟ์ในเวลาที่น้อยไปหน่อย”

“ไรอัน มัวร์” แฟนบอลคาร์ดิฟฟ์ที่ให้ไนออลล์ ลูกชายวัย 6 ขวบเป็นแมสคอตในเกมกับลิเวอร์พูล บอกว่า ถึงแม้เกมนี้คาร์ดิฟฟ์จะแพ้เละเทะ 1-4 แต่ทั้งตัวเขาและลูกชายก็มีความสุขกับการที่ได้ทำหน้าที่เป็นแมสคอตในสนาม

สหพันธ์กองเชียร์ฟุตบอลแห่งสหราชอาณาจักร ยืนยันว่าการที่สโมสรเก็บเงินในการเป็นแมสคอตของเด็กๆ ไม่ได้สร้างผลกระทบกับแฟนบอล ทำให้ไม่มีการออกมาตำหนิแต่อย่างใด เพราะหน้าที่หลักของสหพันธ์คือการสอดส่องว่า ราคาบัตรเข้าชมเกมสำหรับแฟนบอลทั้งผู้ใหญ่และเด็กอยู่ในราคาที่เหมาะสมหรือไม่ เท่านั้นเอง

บ่อยครั้งที่โอกาสก็เป็นเรื่องที่เงินซื้อได้จริงๆ